โมจตุกกะ

 
papon
วันที่  23 ม.ค. 2558
หมายเลข  26081
อ่าน  2,488

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

"โมจตุกกะ" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาให้อรรถาธิบายในคำนี้ด้วยครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 ม.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

โมจตุกเจตสิก

โม (โมหเจตสิก) + จตุกฺก (หมวด ๔) + เจตสิก (สภาพที่เกิดกับจิต)

เจตสิกที่เป็นหมวด ๔ ของโมหะ หมายถึง อกุศลเจตสิก ๔ ดวง คือ

๑. โมหะ

๒. อหิริกะ

๓. อโนตตัปปะ

๔. อุทธัจจะ

อกุศลจิตทั้ง ๑๒ ดวง จะต้องมีอกุศลเจตสิก ๔ ดวงนี้เกิดร่วมด้วยแน่นอน ฉะนั้น อกุศลเจตสิกทั้ง ๔ ดวงนี้ จึงมีชื่อว่า “สัพพอกุศลสาธารณเจตสิก“ คือ เป็นสาธารณะแก่อกุศลจิตทุกดวง

โมหเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่รู้และปิดบังความจริงของสภาพธรรม ขณะที่หลงลืมสิ่งหนึ่ง เป็นอาการของโมหเจตสิกที่ทำกิจในขณะนั้น

อหิริกเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่ละอาย ไม่รังเกียจต่อบาปอกุศลทุจริต มีอาการเหมือนสุกรที่ไม่รังเกียจต่ออาจมที่เป็นสิ่งปฏิกูล

อโนตตัปปเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่เกรงกลัวต่อบาปอกุศลทุจริต มีอาการเหมือนแมลงเม่าที่ไม่เกรงกลัวต่อไฟ จึงบินเข้าไปสู่กองไฟ

อุทธัจจเจตสิก เป็นสภาพที่ฟุ้งซ่านซัดส่ายในอารมณ์ ทำจิตให้ไม่สงบ มีอาการเหมือนการโยนก้อนหินลงในกองขี้เถ้า ทำให้ขึ้เถ้าฟุ้งขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 23 ม.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จิตจะไม่สะอาดในขณะที่โมหะเกิด เพราะเหตุว่าโมหะเกิดกับอกุศลจิตทุกดวง ทุกประเภท เวลาโลภะเกิด ไม่เคยรู้สึกเลยว่า จิตไม่สะอาด เวลาโทสะเกิด ก็ไม่รู้ว่าจิตไม่สะอาด แต่ไม่ชอบโทสะ แต่ไม่รู้ว่าขณะนั้นไม่สะอาดเสียแล้วด้วยโมหะและโทสะ และอกุศลธรรมอื่นๆ ก็ต้องเกิดกับโมหะทั้งสิ้น

อ้างอิงจาก...

ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม...ครั้งที่ ๑๗๘

ความเป็นจริงของสภาพธรรม เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น เพราะมีการทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และทรงแสดงความจริงแก่สัตว์โลก ซึ่งผู้ที่สะสมเหตุที่ดีมาแล้ว เห็นประโยชน์ของพระธรรมมาแล้ว จึงมีโอกาสได้ฟังได้ศึกษา สะสมความเข้าใจถูกตามความเป็นจริงของสภาพธรรม แม้แต่ที่ทรงแสดง ความเกิดขึ้นเป็นไปของอกุศลจิต ซึ่งเป็นจิตที่มีอกุศลเจตสิกประการต่างๆ เกิดร่วมด้วย ซึ่งในขณะที่อกุศลจิต เกิด ไม่ว่าจะเป็นอกุศลจิตประเภทใดก็ตาม จะไม่ปราศจาก อกุศลเจตสิก ๔ ประเภท ที่จะต้องเกิดทั่วไปแก่อกุศลจิตทั้งหมด นั่นก็คือความไม่รู้ ความไม่ละอาย ความไม่เกรงกลัวต่ออกุศล และ ความไม่สงบ ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ประมวลให้จำได้โดยง่าย ด้วยคำว่า โมจตุกกะ คือ หมวด ๔ ของสภาพธรรมที่เป็นอกุศลเจตสิกมี โมหะ เป็นต้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 23 ม.ค. 2558

อวิชชา หรือ โมหะเป็นรากเหง้าของอกุศลธรรมทั้งปวง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วิริยะ
วันที่ 23 ม.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 25 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
จิตและเจตสิก
วันที่ 25 ม.ค. 2558

สาธุ สาธุ ขออนุโมทนา ฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nong
วันที่ 29 ม.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Jarunee.A
วันที่ 15 ก.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ