ปัจจุปัฏฐาน ปทัฏฐาน

 
วิริยะ
วันที่  6 ก.พ. 2558
หมายเลข  26149
อ่าน  4,983

เรียนถามค่ะ

อยากทราบความหมายของสองคำนี้คือ ปัจจุปัฏฐาน และ ปทัฏฐาน

ขอบพระคุณอย่างสูง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 7 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรเข้าใจครับว่า สภาพธรรม มี 2 ลักษณะ ใหญ่ๆ คือ สามัญญลักษณะ และ วิเสสลักษณะ

สามัญญลักษณะ คือ ลักษณะทั่วไป ปกติของสภาพธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่ง ที่เป็นจิต เจตสิก รูป คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และ เป็นอนัตตา อันมีลักษณะเหมือนกันของสภาพธรรมทั้งหลาย

วิเสสลักษณะ คือ ลักษณะเฉพาะตัวของสภาพธรรม ที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของสภาพธรรมที่แตกต่างกัน อย่างเช่น จิตเห็นก็มีลักษณะเฉพาะตัว คือ รู้สีเท่านั้น จะไปรู้เสียงก็ไม่ได้ หรือ จะมีลักษณะร้อนก็ไม่ได้ ธาตุดินก็มีลักษณะเฉพาะตัว คือ แข็ง จะร้อนก็ไม่ได้ เพราะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของธาตุไฟเท่านั้น วิเสสลักษณะนี้มี ๔ ประการ คือ ลักษณะ รสะ ปัจจุปัฏฐาน และ ปทัฏฐาน เรียกว่า ลักขณาทิตจุกะ คือ ธรรมที่มีองค์ ๔ อันมีลักษณะ

- ลักษณะ (เครื่องแสดง)

- รสะ (กิจหน้าที่ของธรรม)

- ปัจจุปัฏฐาน (อาการปรากฏ)

- ปทัฏฐาน (เหตุใกล้ให้เกิด)

เพราะเหตุว่า วิเสสลักษณะนี้มี ๔ ประการดังกล่าวมาแล้วนี้ จึงได้ชื่อว่า ลักขณาทิจตุกะ แปลว่า ธรรมที่มีองค์ ๔ อันมีลักษณะ เป็นต้น

ซึ่งจากคำถามที่ว่า ปัจจุปัฏฐาน คือ อะไร

ปัจจุปัฏฐาน หมายถึง อาการที่ปรากฏ แสดงออกมาของสภาพธรรมนั้น ยกตัวอย่างเช่น ศีล มีอาการที่ปรากฏ คือ ความสะอาดทางกาย วาจา เพราะผู้มีศีลก็ย่อมมีการแสดงออกมาทาง กาย วาจา ใจที่ดี ที่สะอาด พูดก็ดี กระทำทางกาย ก็ดี เป็นต้น นี่คืออาการปรากฏให้รู้ได้ ของ ศีล ที่เป็น ปัจจุปัฏฐาน ครับ

ส่วน ปทั

ฏฐาน คือ เหตุใกล้ให้เกิด

คำว่า เหตุใกล้ให้เกิด หมายถึง เหตุที่ใกล้ที่สุดที่จะทำให้สภาพธรรมนั้นเกิดขึ้นเป็นไป ตรงกับคำว่า ปทัฏฐาน (เหตุใกล้ให้เกิด) ยกตัวอย่าง จิตเห็น (จักขุวิญญาณ) เกิดขึ้นเป็นไปนั้น ก็มีเหตุใกล้ให้เกิด คือ จะต้องมีเจตสิกธรรมเกิดร่วมด้วย เพราะจิตจะเกิดโดยไม่มีเจตสิกเกิดร่วมด้วยไม่ได้ และที่สำคัญ ที่เกิดของจิตเห็นก็คือ จักขุปสาทรูป ซึ่งเป็นรูปธรรม เป็นที่เกิดของจิตเห็น เพราะในภูมิที่มีขันธ์ ๕ จิตจะต้องเกิดที่รูป ตรงกับ "ปทัฏฐานของจิต คือ มีนามรูปเป็นเหตุใกล้ให้เกิด" นามในที่นี้คือ เจตสิกธรรม ส่วนรูป ก็ได้แก่ วัตถุรูปอันเป็นที่เกิดของจิต ก็แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยจริงๆ ครับ และอีกตัวอย่างหนึ่ง อย่างเช่น เหตุใกล้ให้เกิดเมตตา คือ การเห็นสัตว์เป็นที่รักอย่างนี้ แสดงถึงว่าเพราะมีความเอ็นดูในสัตว์ทั้งหลาย ย่อมเป็นเหตุใกล้ คือ เป็นเหตุที่มีกำลังที่จะทำให้เกิดสภาพธรรมที่เป็นเมตตามากที่สุด ซึ่งเหตุอื่น ชื่อว่าเป็นเหตุไกล เพราะแม้ธรรมให้สภาพธรรมนั้นเกิด แต่ก็ไม่ใช่เหตุโดยตรงและมีกำลังเท่าคำว่า เหตุใกล้ ครับ

ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่นี่ครับ

ปทัฏฐานของจิต

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วิริยะ
วันที่ 7 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 7 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่มีจริงๆ เป็นธรรม และมีจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ห่างไกลจากชีวิตประจำวันเลย อยู่กับธรรมตลอด มีธรรมเกิดขึ้นเป็นไปตลอด แต่ก็ไม่รู้ไม่เข้าใจ จนกว่าจะได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ทรงแสดงโดยละเอียดโดยประการทั้งปวง เพื่อประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูกสำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริงว่า เป็นธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ โดยไม่ปะปนกัน

สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปนั้น จะมี ปัจจุปัฏฐาน ซึ่งหมายถึง อาการที่เป็นไป อาการที่ปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริงว่าเป็นอย่างไร ตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ และ มีปทัฏฐาน คือ เหตุใกล้ให้สภาพธรรมนั้นๆ เกิดขึ้นเป็นไป แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับบัญชาให้สภาพธรรมเกิดหรือไม่เกิดได้เลย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 7 ก.พ. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 7 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 7 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 8 ก.พ. 2558

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 9 ก.พ. 2558

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Jarunee.A
วันที่ 27 มี.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ก.ไก่
วันที่ 19 มิ.ย. 2567

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ