ตายนสูตร - ๒๑-o๒-๒๕๕๘

 
มศพ.
วันที่  15 ก.พ. 2558
หมายเลข  26182
อ่าน  1,852

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ

ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ

สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••

... สนทนาธรรมที่ ...

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.

ตายนสูตร

...จาก...

[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๓๖

...นำสนทนาโดย...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร

[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๓๖

๘. ตายนสูตร

[๒๓๘] ครั้งนั้น ตายนเทวบุตรผู้เป็นเจ้าลัทธิมาเก่าก่อน เมื่อสิ้น ราตรีปฐมยาม มีวรรณะอันงามยิ่งนัก ทำพระวิหารเชตวันให้สว่างทั่วแล้ว เข้า ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้วก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

[๒๓๙] ตายนเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้กล่าว คาถาเหล่านี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ท่านจงพยายามตัดกระแสตัณหา จง บรรเทากามเสียเถิดพราหมณ์. มุนีไม่ละกาม ย่อมเข้าไม่ถึงความที่ จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งได้ ถ้าบุคคลจะพึง ทำความเพียร พึงทำความเพียรนั้นจริงๆ พึงบากบั่นทำความเพียรนั้นให้มั่น เพราะ ว่าการบรรพชาที่ปฏิบัติย่อหย่อน ยิ่งโปรย โทษดุจธุลี. ความชั่วไม่ทำเสียเลยประเสริฐกว่า ความชั่วย่อมเผาผลาญในภายหลัง. ก็กรรมใดทำแล้ว ไม่เดือดร้อนใน ภายหลัง กรรมนั้นเป็นความดี ทำแล้ว ประเสริฐกว่า หญ้าคาอันบุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือนั่นเอง ฉันใด. ความเป็นสมณะ. อันบุคคลปฏิบัติ ไม่ดี ย่อมฉุดเข้าไปในนรก ฉันนั้น. กรรมอันย่อหย่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง วัตรอันใด ที่เศร้าหมอง และพรหมจรรย์ที่ น่ารังเกียจ ทั้งสามอย่างนั้น ไม่มีผลมาก. ตายนเทวบุตร ครั้นได้กล่าวดังนี้แล้ว ก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้วอันตรธานไปในที่นั้นเอง.

[๒๔๐] ครั้งนั้น โดยล่วงราตรีนั้นไป พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียก ภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้ เทวบุตรนามว่าตายนะ ผู้เป็นเจ้าลัทธิแต่เก่าก่อนเมื่อสิ้นราตรีปฐมยาม มีวรรณะงามยิ่งนัก ทำพระวิหาร เชตวันให้สว่าง เข้ามาหาเรา อภิวาทเราแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ตายนเทวบุตร กล่าวคาถาเหล่านี้ในสำนักของเราว่า ท่านจงพยายามตัดกระแสตัณหา จง บรรเทากามเสียเถิดพราหมณ์. มุนีไม่ละกาม ย่อมเข้าไม่ถึงความที่ จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งได้ ถ้าบุคคลจะพึง ทำความเพียร พึงทำความเพียรนั้นจริงๆ พึงบากบั่นทำความเพียรนั้นให้มั่น เพราะ ว่าการบรรพชาที่ปฏิบัติย่อหย่อน ยิ่งโปรย โทษดุจธุลี. ความชั่วไม่ทำเสียเลยประเสริฐกว่า ความชั่วย่อมเผาผลาญในภายหลัง. ก็กรรมใดทำแล้วไม่เดือดร้อนใน ภายหลัง กรรมนั้นเป็นความดี ทำแล้ว ประเสริฐกว่า หญ้าคาอันบุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือนั่นเอง ฉันใด. ความเป็นสมณะ อันบุคคลปฏิบัติ ไม่ดี ย่อมฉุดเข้าไปในนรก ฉันนั้น. กรรมอันย่อหย่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง วัตรอันใดที่เศร้าหมอง และพรหมจรรย์ที่ น่ารังเกียจ ทั้งสามอย่างนั้น ไม่มีผลมาก.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตายนเทวบุตรครั้นได้กล่าวดังนี้แล้ว ก็อภิวาท เราทำประทักษิณแล้วอันตรธานไปในที่นั้นเอง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้ง หลาย จงศึกษา จงเล่าเรียน จงทรงจำตายนคาถาไว้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตายนคาถาประกอบด้วยประโยชน์ เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์.

อรรถกถาตายนสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในตายนสูตรที่ ๘ ต่อไป :-

บทว่า ปุราณติตฺถกโร แปลว่า ผู้เป็นเจ้าลัทธิมาแต่ก่อน. ในคำว่า ปุราณติตฺถกโร นั้น ทิฎฐิ ๖๒ ชื่อว่า ลัทธิ [ติตถ]. ศาสดาผู้ก่อกำเนิดลัทธิเหล่านั้น ชื่อว่า เจ้าลัทธิ คือใคร. คือ นันทะ มัจฉะ กิสะ สังกิจจะ และที่ชื่อว่า เดียรถีย์ทั้งหลาย มีปุรณะเป็นต้น.

ถามว่า ก็ตายนเทพบุตรนี้ ก่อทิฎฐิขึ้นแล้วบังเกิดในสวรรค์ได้อย่างไร.

ตอบว่า เพราะเป็นกัมมวาที. ได้ยินว่า ตายนเทพบุตรนี้ ได้ให้อาหารในวันอุโบสถเป็นต้น เริ่มตั้งอาหารไว้สำหรับคนอนาถา ทำที่พัก ให้ขุดสระโบกขรณีทั้งหลายได้ทำความดีมาก แม้อย่างอื่น. เพราะผลวิบากแห่งความดีนั้น เขาจึงบังเกิดในสวรรค์ แต่เขาไม่รู้ว่า พระศาสนาเป็นธรรมนำสัตว์ออกจากทุกข์. เขามายังสำนักพระตถาคต ด้วยประสงค์จะกล่าวคาถาคำร้อยกรอง ประกอบด้วยความเพียรอันเหมาะแก่พระศาสนา จึงกล่าวคาถาว่า ฉินฺท โสต ดังนี้เป็นต้น.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ฉินฺท เป็นคำสั่งที่ไม่แน่นอน.

บทว่า โสต ได้แก่ กระแสตัณหา.

บทว่า ปรกฺกม ได้แก่ ทำความเพียร.

บทว่า กาเม ได้แก่ กิเลสกามบ้าง วัตถุกามบ้าง.

บทว่า ปนูท แปลว่า จงนำออก.

บทว่า เอกตฺต ได้แก่ ฌาน. ท่านอธิบายว่า มุนีไม่ละกามทั้งหลาย ย่อมไม่เข้าถึง คือ ไม่ได้ฌาน.

บทว่า กยิรา เจ กยิราเถน ความว่า ถ้าบุคคลพึงทำความเพียรไซร้ ก็ไม่พึงท้อถอยความเพียรนั้น.

บทว่า ทฬฺหเมน ปรกฺกเม ความว่า พึงทำความเพียรนั้นให้มั่นคง.

บทว่า สิถิโล หิ ปริพฺพาโช ได้แก่ บรรพชาที่ถือไว้หย่อนๆ .

บทว่า ภิยฺโย อากรเต รช แปลว่า พึงโปรยธุลี คือกิเลสไว้เบื้องบนมากมาย.

บทว่า อกต ทุกฺกฏ เสยฺโย แปลว่า ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า.

บทว่า ยงฺกิญฺจิ ความว่า มิใช่แต่สามัญญผล คุณเครื่องเป็นสมณะ ที่ผู้บวชทำชั่วทำไว้อย่างเดียว แม้กิจกรรมอย่างอื่นอะไรๆ ที่ผู้บวชทำย่อหย่อน ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน.

บทว่า สงฺกิลิฏฺ ความว่า วัตรที่ทำได้ยาก คือ ธุดงควัตร ที่สมาทานเพราะปัจจัยลาภเป็นเหตุในพระศาสนานี้ ก็เศร้าหมองทั้งนั้น.

บทว่า สงฺกสฺสร ได้แก่ ที่ระลึกด้วยความรังเกียจ คือที่สงสัย รังเกียจอย่างนี้ว่า แม้ข้อนี้ ก็จักเป็นข้อที่ผู้นี้กระทำแล้ว แม้ข้อนี้ก็จักเป็นข้อที่นี้กระทำแล้ว.

บทว่า อาทิพฺรหฺมจริยกา ได้แก่ เป็นเบื้องต้น คือ เป็นที่ปรากฏแห่งมรรคพรหมจรรย์.

จบ อรรถกถา ตายนสูตร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 15 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

ตายนสูตร

ตายนเทพบุตร ได้ลงมาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าที่พระวิหารเชตวัน แล้วได้ กล่าวคาถาในสำนักของพระองค์หลายๆ คาถา เกี่ยวกับการตัดกระแสตัณหา, การบรรเทาราคะ, การละกาม, ควรทำความเพียรให้มั่น, การบรรพชา ถ้าประพฤติย่อหย่อน ก็มีแต่จะเพิ่มโทษ, ไม่ควรทำกรรมชั่ว, ความเป็นสมณะ ถ้าประพฤติไม่ดี มีแต่จะคร่าไปสู่นรก, กรรมที่ย่อหย่อน วัตรและพรหมจรรย์ ที่เศร้าหมอง ไม่มีผลมาก เลยเมื่อกล่าวแล้วก็ได้กลับไปยังเทวโลก

ในวันรุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้ว ได้ตรัสเล่า ให้ภิกษุทั้งหลายฟังถึงเหตุการณ์ที่ตายนเทพบุตรลงมาเข้าเฝ้าแล้วได้กล่าวคาถา ดังกล่าว ซึ่งเป็นความจริง ควรที่ภิกษุทั้งหลายจะได้เล่าเรียนทรงจำไว้ อันเป็น เบื้องต้นแห่งความประพฤติที่ประเสริฐ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

กรรมดีลบล้างกรรมชั่วได้หรือไม่

ราคะ กับ โลภะ ต่างกันอย่างไร

กิเลสตัณหา

สมณะ และ พราหมณ์ [มหาอัสสปุรสูตร]

ตัวอย่างชัดๆ ของสีลัพพตปรามาสกายคันถะ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 18 ก.พ. 2558

สาธุคุะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 19 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nopwong
วันที่ 19 ก.พ. 2558

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 20 ก.พ. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chamaikorn
วันที่ 20 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
จิตและเจตสิก
วันที่ 21 ก.พ. 2558

สาธุ ขออนุโมทนา ฯ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ