ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๘๘

 
khampan.a
วันที่  29 มี.ค. 2558
หมายเลข  26406
อ่าน  2,259

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรม จากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๘๘

# ต้องมีกุศลที่ได้สะสมไว้ในปางก่อนเป็นปัจจัย ทำให้มีความสนใจในการฟังพระธรรมและมีการพิจารณาให้เข้าใจขึ้น โดยที่ขณะนี้ก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แท้ที่จริงแล้วก็เป็นขันธ์ เป็นธาตุ เป็นอายตนะทั้งหลายนั่นเอง

# พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงจากการตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นคำจริงทั้งหมด เป็นสัจจธรรม ไม่มีการผิดพลาดเลย

# ผู้ที่จะรู้อริยสัจจธรรม (ความจริงที่ทำให้ผู้รู้แจ้งถึงความเป็นพระอริยบุคคล) จะเป็นผู้ที่ไม่จริง จะเป็นผู้ที่หลอกลวง หรือเป็นผู้ไม่ตรง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ยังไม่ได้เห็นคุณประโยชน์ของความเป็นผู้ตรง ความเป็นผู้จริง หรือสัจจะ ก็ต้องพิจารณาเห็นโทษของความเท็จ แล้วก็จะต้องรู้ว่า ถ้ายังคงมีความเท็จหรือความไม่จริง เป็นผู้ขาดสติสัมปชัญญะ เพราะฉะนั้นหวังที่จะให้สติสัมปชัญญะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมบ่อยๆ เนืองๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้

# ไม่ว่าพระผู้มีพระภาคจะตรัสข้อความใด เหมือนยาอันประเสริฐ พระธรรมหรือพระพุทธพจน์แต่ละคำมีคุณค่า มีประโยชน์ เพราะเหตุว่าเป็นสิ่งที่จริง เป็นสัจจะ และเกื้อกูลบุคคลที่รับฟังและพิจารณาประพฤติปฏิบัติตามได้

# บุญทั้งหลายที่คิดว่า จะเกิดได้มากนั้น เป็นไปไม่ได้ถ้าไม่ฟังพระธรรม แต่ถ้ามีการฟังพระธรรมและเข้าใจและน้อมประพฤติปฏิบัติตาม กุศลนานาประการจะเจริญขึ้น

# พอใจลาภอันประเสริฐที่ได้แล้วหรือยัง หรือว่ายังไม่ชอบใจลาภนี้ อยากได้ลาภอื่น เพราะว่าลาภอันประเสริฐที่ยอดเยี่ยม คือ ศรัทธาในพระผู้มีพระภาคเจ้า

# ถ้าอันแรกไม่มี อันต่อไปก็มีไม่ได้ การได้ฟังพระธรรมครั้งแรกๆ ไม่มี ครั้งต่อๆ ไป ก็มีไม่ได้ หรือว่า ศรัทธาในพระผู้มีพระภาคครั้งแรกไม่มี ครั้งต่อๆ ไป ก็มีไม่ได้

# สัจจะที่ถูกต้องต้องเป็นไปในกุศล ต้องเป็นไปในการอบรมเจริญปัญญา ไม่ใช่เป็นไปในความงมงาย ในความลุ่มหลง หรือ ไม่ได้เป็นไปในอกุศล เพราะเหตุว่า สัจจะที่จะเป็นบารมี ต้องเป็นไปในการเจริญปัญญาเพื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรม

# ถ้าไม่พิจารณาข้อปฏิบัติจริงๆ ย่อมจะหลงไปสู่หนทางที่ไม่ทำให้เกิดปัญญา แม้ในสมัยพระผู้มีพระภาค ก็มีผู้ที่แสดงหนทางผิด และมีผู้ปฏิบัติตามผู้ที่แสดงหนทางผิดๆ นั้นด้วย

# ถ้าขณะใดที่ความโกรธเกิดขึ้น เป็นการแสดงการปรากฏให้รู้ถึงกิเลสที่มีอยู่ในใจว่า เป็นสังโยชน์ คือ เป็นสิ่งที่ผูกพันท่านไว้ในสังสารวัฏฏ์

# กุศลที่เกิดขึ้น ที่ท่านเจริญอบรมขึ้น จะชนะความไม่ดีที่มีอยู่ในตัวท่านเอง

# การคิดที่จะให้ ก็คงจะมีบ้าง แล้วก็ให้จริงได้หรือเปล่า หรือว่าเพียงคิด? ถ้ายังให้จริงๆ ไม่ได้ ก็แสดงว่า ยังมีความตระหนี่อยู่ แล้วจะชนะความตระหนี่ที่มีในขณะนั้นได้อย่างไร มีด้วยวิธีเดียว คือ ชนะความตระหนี่ด้วยการให้ ให้ทันทีในขณะนั้น ชนะความตระหนี่ แต่ถ้ายังรีรอ ก็ไม่ชนะ

# เป็นเรื่องธรรมดาจริงๆ สำหรับคำนินทาและสรรเสริญ เมื่อเป็นเรื่องธรรมดาอย่างนี้ ใครเสียเวลาเร่าร้อนใจ หวั่นไหว ก็เป็นผู้ไม่ฉลาดเลย เพราะเหตุว่า ไม่รู้สภาพธรรมที่เป็นธรรมดาของโลก

# ถ้าใครทำกุศลกรรม ถึงคนอื่นจะไปขอร้องไม่ให้กุศลกรรมให้ผล ก็เป็นไปไม่ได้ หรือว่าถ้าใครทำอกุศลกรรม ถึงใครจะไปช่วยกันอ้อนวอน ขอร้องอย่าให้บุคคลนั้นได้รับผลของอกุศลกรรม ก็เป็นไปไม่ได้เลยเหมือนกัน

# ทุกท่านก็ยังมีร่างกาย มีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจ ที่จะคิด ที่จะไตร่ตรองธรรม ที่จะพิจารณาธรรม ก็ควรที่จะใช้ร่างกายนี้ให้เป็นประโยชน์

# ทางหู มีความสำคัญ โดยที่ว่า เป็นสวนานุตริยะ (การฟังที่ยอดเยี่ยม) ทำให้มีการได้ยินได้ฟังที่ประเสริฐสุด คือ การได้ฟังพระธรรม

# ถ้าพิจารณาโดยความเป็นธาตุ ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน อย่างการเห็นก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง การได้ยินก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง การได้กลิ่น ก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง เอาความเป็นสัตว์ เป็นตัวตน เป็นบุคคลออก ก็จะเห็นตามความเป็นจริงว่า แต่ละขณะนี้ก็เป็นเพียงแต่ละธาตุ ซึ่งอาศัยเหตุปัจจัยต่างๆ กัน เกิดขึ้นปรากฏแล้วก็ดับไป

# ถ้าเป็นอกุศลแล้ว ต้องกล้าออกจากอกุศลอย่างเร็วที่สุดด้วยความไม่ประมาท เพราะว่าถ้าช้าก็จะทำให้ออกจากอกุศลนั้นยากขึ้น จนในที่สุดก็อาจจะสายเกินไปที่จะออกจากอกุศลนั้นได้ และอาจจะเป็นอย่างนี้ทุกๆ ชาติ.

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๘๗

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 29 มี.ค. 2558

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาขอบพระคุณท่านวิทยากรและท่านผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paew_int
วันที่ 29 มี.ค. 2558

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Boonyavee
วันที่ 29 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของอ. คำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
thilda
วันที่ 29 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 29 มี.ค. 2558

สาธุ อนุโมทนา และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ms.pimpaka
วันที่ 29 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ปวีร์
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Noparat
วันที่ 30 มี.ค. 2558

กุศลที่เกิดขึ้น ที่ท่านเจริญอบรมขึ้น จะชนะความไม่ดีที่มีอยู่ในตัวท่านเอง

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
siraya
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ถ้าพิจารณาโดยความเป็นธาตุ ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน อย่างการเห็นก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง การได้ยินก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง การได้กลิ่น ก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง เอาความเป็นสัตว์ เป็นตัวตน เป็นบุคคลออก ก็จะเห็นตามความเป็นจริงว่า แต่ละขณะนี้ก็เป็นเพียงแต่ละธาตุ ซึ่งอาศัยเหตุปัจจัยต่างๆ กัน เกิดขึ้นปรากฏแล้วก็ดับไป

... ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่นด้วยค่ะ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
pulit
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ กุศลศรัทธา ของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
j.jim
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
kiss_99
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขออนุโมทนา

กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
orawan.c
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
dawhan
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
papon
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
jaturong
วันที่ 31 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 2 เม.ย. 2558

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลวิริยะและเมตตาของอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย

เป็นปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ที่รวบรวมมา ไพเราะอย่างยิ่ง ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
nong
วันที่ 4 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
worrasak
วันที่ 8 ก.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
เจียมจิต
วันที่ 19 ธ.ค. 2562

กราบ อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
เจียมจิต สุขอินทร์
วันที่ 19 ธ.ค. 2564

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
มังกรทอง
วันที่ 19 ธ.ค. 2564

เป็นเรื่องธรรมดาจริงๆ สำหรับคำนินทาและสรรเสริญ เมื่อเป็นเรื่องธรรมดาอย่างนี้ ใครเสียเวลาเร่าร้อนใจ หวั่นไหว ก็เป็นผู้ไม่ฉลาดเลย เพราะเหตุว่า ไม่รู้สภาพธรรมที่เป็นธรรมดาของโลก น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ