ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๙๐

 
khampan.a
วันที่  12 เม.ย. 2558
หมายเลข  26442
อ่าน  2,737

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรม จากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๙๐

แม้ว่าจะเป็นคำเตือนสั้นๆ แต่คนที่สะสมเหตุปัจจัยมาแล้ว ก็สามารถที่จะระลึกได้ทันที แล้วก็อบรมเจริญปัญญาทันที สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ทันทีด้วย แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ใส่ใจ แม้ว่าเป็นคำที่ควรฟัง แต่ว่าบุคคลเลว น้อมไปเลว และปฏิบัติผิด ย่อมไม่ได้รับการเตือนนั้น

การปฏิบัติธรรม ต้องเป็นผู้ตรงต่อตัวเอง ตรงต่อสภาพธรรมที่ปรากฏ คนไม่พูด นิ่งๆ ในใจคิดร้ายต่อคนอื่น ได้ไหม คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ดี แม้ว่าจะเป็นผู้ที่พูดน้อยจริง แต่ว่าขาดเมตตาในบุคคลอื่น หรือว่าอาจจะเห็นว่า การไม่พูดกับคนอื่น เพราะว่าคนอื่นไม่ดี ก็ได้

เรื่องของจิตใจ เป็นเรื่องที่ละเอียดจริงๆ ถ้าเห็นใครพูดน้อย อย่าเพิ่งชื่นชมสรรเสริญ หรือว่าอย่าเพิ่งติเตียน ตราบใดที่ยังไม่รู้ซึ้งถึงจิตใจของคนนั้นว่า ขณะนั้นเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล

เรื่องของจิตใจก็เป็นเรื่องที่ละเอียดจริงๆ ว่า การขัดเกลากิเลสไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องเป็นเรื่องพิจารณาสภาพของจิตโดยละเอียดจริงๆ พร้อมทั้งเหตุผลด้วยว่ากุศลต้องเป็นกุศล แต่ถ้าขณะใดมีอย่างอื่นเกิดแทรก ขณะนั้นก็เป็นอกุศล

สภาพของจิตเกิดดับสลับกันเร็วมาก ผู้ที่ยังไม่ใช่พระอริยบุคคล ก็ยังมีอกุศลจิตเกิดสลับอยู่ได้ จนกว่าจะถึงความเป็นพระอรหันต์

ผลของกุศล ย่อมทำให้ปฏิสนธิในสุคติภูมิ แต่ตราบใดที่ยังไม่เป็นพระโสดาบัน อกุศลกรรมที่ได้กระทำแล้ว ก็ยังมีโอกาสทำให้ปฏิสนธิในอบายภูมิได้ แต่ผู้ที่จะไม่ปฏิสนธิในอบายภูมิเลย ต้องเป็นพระอริยบุคคล

เรื่องของอกุศลในวันหนึ่งๆ เช่นเดียวกับเรื่องของกุศล คือ เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก แล้วแต่ละท่านจะไม่เห็นการสะสมของอกุศลแต่ละขณะ ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ว่า ค่อยๆ เพิ่มขึ้นและสะสมปรุงแต่งทำให้มีอกุศลจิตที่วิจิตร ที่ทำให้เกิดการกระทำทางกาย ทางวาจา ที่ต่างกันออกไปในวันหนึ่งๆ มากสักแค่ไหน แต่พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้โดยละเอียด ทรงชี้ให้เห็นอกุศล ซึ่งในขณะที่จิตเป็นอกุศลจะมีการกระทำทางกายและวาจาอย่างไรบ้าง ซึ่งต่างกับขณะที่เป็นกุศล

ไม่ควรที่จะประมาทในเรื่องของอกุศล และก็จะเห็นได้ว่า พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ย่อมเป็นประโยชน์ในทุกทางที่จะให้ท่านผู้ฟังได้พิจารณาธรรมโดยละเอียดจริงๆ เพราะเหตุว่าถ้าต้องการที่จะเจริญปัญญาเจริญกุศล ก็ต้องไม่ประมาทที่จะรู้จักอกุศลของตนเองด้วย

เรื่องของการที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าจะพิจารณาโดยรอบคอบจริงๆ กับผู้ที่สามารถพิจารณารู้ว่า ตนเองมีอกุศลมากเท่าไร ก็จะทำให้ไม่เป็นผู้ประมาทจริงๆ เพราะเหตุว่าเพียงประมาทนิดเดียว การพิจารณาสภาพธรรมไม่ตรงตามเหตุและผล ก็จะเป็นเหตุให้ห่างไกลต่อการที่จะเป็นผู้ตรงต่อข้อปฏิบัติที่ถูกต้องในการที่จะขัดเกลากิเลส

ทุกท่านยังต้องการมีโลภะ แต่ก็ควรที่จะรู้ว่า ถ้าหมดโลภะได้ ประเสริฐที่สุด แม้ว่าขณะนี้ยังไม่หมด แต่ก็ขอให้รู้ความจริงว่า ถ้าหมดได้ ประเสริฐที่สุด เพราะฉะนั้น ก็ต้องอาศัยการเห็นโทษของโลภะ แล้วก็เห็นประโยชน์ของธรรมที่ดับโลภะ จนกว่าจะอบรมเจริญปัญญาที่สามารถจะดับโลภะได้จริงๆ

วันหนึ่งๆ ทุกท่านก็แสวงหาความเพลิดเพลินยินดี ไม่ว่าจะเป็นความเพลิดเพลินยินดี ในธิดา ในบุตร ในทรัพย์ ในการเล่น ในการฟ้อน การขับประโคมดนตรีต่างๆ แต่ว่าความยินดีนั้นๆ ทั้งหมด ยังสัตว์ให้ตกไปในสังสารวัฏฏ์ แล้วเสวยทุกข์โดยแท้ ต่างกับความยินดีของผู้แสดงธรรมก็ดี ผู้ฟังธรรมก็ดี ผู้กล่าวสอนธรรมก็ดี ความยินดีในธรรมเห็นปานนี้แหละ ประเสริฐกว่าความยินดีทั้งปวง

ธรรมดาคนทั้งหลายผู้ตายไปแล้ว แล้วไปสู่ปรโลกนั้น ย่อมจะขนเอาทรัพย์ไปด้วยไม่ได้ สัตว์ทั้งหลายจะพาไปได้ก็แต่กุศลและอกุศลที่ตนกระทำไว้เท่านั้น เมื่อเกิดมาแล้ว มีโอกาสได้พบกัน จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อกัน หรือว่าจะทำร้ายกัน?

การกระทำใดๆ ก็ตาม ที่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเท่านั้นจึงจะเป็นบุญ

ความเห็นผิด เป็นอันตรายมาก

มีแต่ชวนกันไปทำบุญ แต่ไม่ค่อยเห็นการชวนกันให้เข้าใจ "บุญ"

ถ้ากุศลไม่เกิด เกิดมาเก็บอกุศล

ความไม่รู้ มีแน่ๆ จึงเริ่มฟังพระธรรม เมื่อเริ่มฟัง ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นเป็นการเก็บความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย

ชวนให้คนอื่นไปสำนักปฏิบัติ ก็คือ ชวนให้เขาไม่ได้ฟังพระธรรม.

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม...ครั้งที่ ๑๘๙

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paew_int
วันที่ 12 เม.ย. 2558

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
siraya
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ms.pimpaka
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Boonyavee
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอกราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของ อ. คำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chamaikorn
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
นิตยา
วันที่ 13 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
l.somdang
วันที่ 13 เม.ย. 2558

เป็นหัวข้อธรรมที่ดีมีประโยชน์ และให้ข้อคิดเห็นในพระธรรมที่ลึกซึ้งต่อการพิจารณาไตร่ตรอง

เป็นอย่างยิ่ง ขออนุโมทนากับคุณคำปั่นฯที่แบ่งบันครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pulit
วันที่ 13 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลศรัทธา กุศลวิริยะ ของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
j.jim
วันที่ 13 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ch.
วันที่ 14 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 15 เม.ย. 2558

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลวิริยะและเมตตาของอาจารย์คำปั่นอย่างยิ่ง

เป็น "พระธรรมรัตนะ" ที่มีค่าอย่างยิ่ง ควรเก็บไว้ในหทัยจริงๆ ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
jaturong
วันที่ 16 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
เมตตา
วันที่ 17 เม.ย. 2558

... .ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น ค่ะ ..

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ