รู้สึกทุกข์ใจและรู้สึกผิดอย่างมาก ควรสงบใจอย่างไรดี

 
riverpink
วันที่  17 พ.ค. 2558
หมายเลข  26552
อ่าน  3,146

ดิฉันรู้สึกแย่และรู้สึกผิดมาก เหตุการณ์มีอยู่ว่า ดิฉันเห็นแมวกำลังถูกสุนัขกัด และตายไปตรงหน้าเสียงร้องของแมวยังอยู่ในหู รีบพาไปหาหมอแล้วแต่ก็ไม่ทัน ตอนนี้รู้สึกหดหู่และเสียใจกับเรื่องนี้ หดหู่ที่เห็นสัตว์โลกตายไปต่อหน้าต่อตา ดิฉันควรทำเช่นไรกับความรู้สึกเช่นนี้ ตอนนี้พยายามทำใจให้สบาย สวดมนต์ และคิดว่าเป็นเวรกรรมของเขา แต่ก็อดสงสารและเสียใจไม่ได้ เลยมาขอคำแนะนำ ที่พึ่งทางใจจากกระดานสนทนาธรรมในครั้งนี้ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 พ.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ไม่มีใครที่สามารถหลีกเลี่ยงความตายได้ เพราะความตายเป็นของธรรมดาที่สัตว์โลกเมื่อเกิดแล้วก็ต้องตาย แม้แต่พระพุทธเจ้า แม้จะเป็นบุคคลที่สูงสุด แต่ มัจจุราช ความตายก็ยังมีกับพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นแมวที่เกิดมาแล้ว ก็ต้องตายเป็นธรรมดา ซึ่งในความเป็นจริง หากมองเป็นเรื่องราวทางโลก ก็สำคัญว่า เป็นเพราะสัตว์อื่นทำให้ตาย แท้ที่จริงเป็นกรรม ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อถึงคราวที่จุติเกิด คือ ตาย ไม่มีใครที่หลีกเลี่ยงได้ และไม่มีใครทำให้ตายเลย แต่กรรมของสุนัขตัวนั้นเองที่ทำให้ตาย เพราะการตายในทางธรรม คือ จุติจิตที่เป็น ชาติวิบาก ที่เป็นผลของกรรม ครับ

ซึ่งเมื่อสัตว์ตายแล้ว หากยังมีกิเลส ก็จะต้องเกิด แล้วแต่ว่าจะเกิดเป็นอะไร ไม่ได้มีวิญญาณล่องลอย แต่เกิดแล้ว เป็น เทวดา มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น ก็ได้ ก็ตามกรรมของสุนัขนั้น ซึ่งไม่มีใครู้เลย นอกเสียจากพระพุทธเจ้าผู้มี ปัญญา หากแต่ว่าหน้าที่ของผู้ที่ยังอยู่ คือ การทำสิ่งที่สมควรกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว คือ การอุทิศส่วนกุศลไปให้ โดยการทำบุญกุศลประการต่างๆ มีการให้ทาน เป็นต้น และอุทิศให้สุนัขและสัตว์ทั้งหลาย หากว่าเขาอยู่ในฐานะที่รับได้ คือ เกิดเป็นเปรต ก็สามารถรับในส่วนกุศล ด้วยการอนุโมทนาบุญที่เราอุทิศ ครับ

ทุกอย่างผ่านไปแล้ว หากว่าจะเศร้าโศกถึงคนที่ตายไปแล้ว ก็ควรจะเศร้าโศก นึกถึงตนเองว่าจะต้องตายเช่นกัน

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 568
๘. อนนุโสจิยชาดก ทุกคนจะต้องตายควรเมตตากัน

[๖๑๑] ถ้าบุคุคลจะพึงเศร้าโศก ถึงความตาย อันจะไม่เกิดมีแก่สัตว์ ผู้เศร้าโศกนั้น ก็ควรจะเศร้าโศกถึงตน ซึ่งจะต้องตกไปสู่อำนาจของมัจจุราชทุกเมื่อ.

[๖๑๒] อายุสังขารหาได้เป็นไปตามเฉพาะสัตว์ ที่ยืน นั่ง นอน หรือเดินอยู่ เท่านั้น ก็หาไม่
วัยย่อมเสื่อมไปทุกขณะ ที่ยังหลับตาและลืมตาอยู่.

[๖๑๓] เมื่อวัยเสื่อมไปอย่างนั้นหนอ ในตน ซึ่งเป็นทางอันตรายนั้นหนอ ต้องมีความ พลัดพรากจากกันโดยไม่ต้องสงสัย หมู่สัตว์ ที่ยังเหลืออยู่ ควรมีเมตตาเอ็นดูกัน ส่วนที่ตายไปแล้ว ไม่ควรจะต้องเศร้าโศกถึง.

ดังนั้น ทุกคน ทุกสัตว์ก็ต่างมา ต่างไป ตามกรรมของแต่ลคน การเกิดเป็นทุกข์ ควรทำกิจหน้าที่ของตนเอง ที่สำคัญที่สุด คือการศึกษาธรรม อบรมปัญญา เพราะเหตุการณ์นี้ควรพิจารณาว่า เหตุที่ทำให้ทุกข์แท้จริง คือ ไม่ใช่สุนัขที่ตาย แต่เป็นกิเลสที่มีอยู่ที่ติดข้อง เป็นเหตุแห่งทุกข์ ควรที่จะเห็นโทษของกิเลส ด้วยการศึกษาธรรม อบรมปัญญา ฟังพระธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ในเวปนี้ พร้อมๆ กับการเจริญกุศลทุกๆ ประการ เพื่อเป็นเสบียงในโลกหน้า และเมื่ออาศัยการทำดี และศึกษาพระธรรมย่อมถึงการดับกิเลส และพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้ ครับ

เมื่อมีชีวิตอยู่ ควรมีเมตตากับ คนที่ยังอยู่ และ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ครับ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ ทุกข์มากเพราะหมาตายจาก

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
peem
วันที่ 17 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 17 พ.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตายแล้ว เกิดทันที ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ สัตว์โลก มีกรรมเป็นของของตน การเศร้าโศกเสียใจ ไม่มีผลต่อการจากไปของผู้ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว มีแต่จะทำให้ตนเอง ผ่ายผอม ซูบซีด เพราะผู้นั้น ก็ไปตามกรรมของตนจริงๆ

สภาพธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัยจริงๆ ชีวิตประจำวันจึงไม่พ้นไปจากธรรม ขณะที่เศร้าโศกเสียใจมีจริงๆ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น บุคคลผู้ที่ยังมีความเศร้าโศกอยู่นั้น ก็เพราะยังมีกิเลส ยังมีความติดข้อง ยินดีพอใจ ยังมีอวิชชาอยู่ จึงต้องมีความเศร้าโศกเป็นธรรมดา เมื่อมีความติดข้อง ผลที่ตามมาคือ ความเศร้าโศกเสียใจ เมื่อสิ่งที่ติดข้องนั้นพลัดพรากจากไป แต่เมื่อได้อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ย่อมจะทำให้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน และเป็นความจริงที่ว่าขึ้นชื่อว่าสัตว์โลก แล้ว ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อมีชาติ ชราย่อมติดตาม พยาธิก็ครอบงำและท้ายที่สุดก็ถูกมรณะคือความตายห้ำหั่น ไม่มีใครรอดพ้นได้เลย

จากกรณีการตายของสัตว์อื่น ของคนอื่น ก็สามารถพิจารณาได้ว่า ในที่สุดเราก็จะตายเหมือนกัน ไม่ใช่ตายแต่คนอื่น ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจตนเองอยู่เสมอ เพื่อเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทกำลังของอกุศล และไม่ประมาทในการเจริญกุศล ซึ่งรวมถึงการอบรมเจริญปัญญาเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย เพราะเมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตในภพนี้ชาตินี้มาถึง ต้องบ่ายหน้าไปสู่ความตาย ไม่มีใครสามารถที่จะขอร้อง หรือผัดเพี้ยนได้เลย ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
thilda
วันที่ 17 พ.ค. 2558

ได้ช่วยเหลือสัตว์นั้น แต่สัตว์นั้นก็ตายลง เป็นวิบากจิตที่เป็นจุติจิตที่เกิดขึ้นของสัตว์นั้น และเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ช่วยไม่ทัน เจ้าของกระทู้ไม่ได้ทำอกุศลกรรมอะไรเลย ไม่ควรต้องรู้สึกผิดเลย ถ้าเป็นตัวดิฉันเอง อาจไม่กล้าช่วยด้วยค่ะเพราะกลัวสุนัข ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
riverpink
วันที่ 17 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณทุกความเห็นค่ะ จะพยายามทำจิตใหสงบ และมองว่าเป็นกรรมของชีวิตเขาเอง

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tanrat
วันที่ 18 พ.ค. 2558

ถ้าเข้าใจว่าเป็นธรรมะ ก็จะเข้าใจว่าไม่มีคน สัตว์ สิ่งของ แต่เพราะไม่เข้าใจจึงเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ต้องฟังต่อไป ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
papon
วันที่ 18 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 18 พ.ค. 2558

ทุกอย่างผ่านไปหมดแล้ว ไม่เหลือเลย แต่เราเอามาคิดให้ทุกข์ใจไปเปล่าๆ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม อะไรจะเกิดเกิดตามเหตุที่เคยทำไว้หนีไม่พ้น จึงต้องศึกษาธรรมะและทำความดีทุกประการทุกโอกาสที่จะทำไ้ด้ เพราะบุญกุศลเป็นที่พึ่งของสัตว์โลกค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ประสาน
วันที่ 20 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ