สวรรค์และนรก
ในพระไตรปิฎกพระพุทธองค์ทรงแสดงเรื่องสวรรค์และนรกไว้เป็นจำนวนมาก สวรรค์เป็นที่เกิดและเป็นที่เสวยผลของกุศลกรรม สัตว์ผู้ที่เกิดบนสวรรค์ย่อมมีแต่ความสุข สิ่งต่างๆ ล้วนเป็นทิพย์ สวรรค์มีทั้งหมด ๖ ชั้น ผู้ที่กระทำบุญอันประณีตไว้ย่อมเกิดในภพที่ประณีตตามควรแก่เหตุที่กระทำไว้ ส่วนผู้ที่กระทำอกุศลกรรมไว้ ย่อมรับผลของอกุศลกรรมเกิดในอบายภูมิ อกุศลกรรมที่หนักย่อมนำเกิดในภูมินรก มีแต่ความทุกข์ และทรมาน ภูมินรกมีขุมใหญ่อยู่ ๘ ขุม แต่ละขุมมีบริวารของนรกแวดล้อมนรกใหญ่ รายละเอียดเรื่องนรกโปรดอ่าน ...
ลูกชายอยากรู้เรื่องบาปกับขุมนรก
เรื่องสวรรค์โปรดอ่านกระทู้ ...
คนที่ทำความดี มีศรัทธาเชื่อบุญบาป มีศีล ๕ มีสุตะ (ฟังธรรม) มีจาคะ (การเสียสละทรัพย์เพื่อละคลายความตระหนี่) มีปัญญา หิริ (ละอายบาป) โอตตัปปะ (เกรงกลัวบาป) ถ้ามีคุณธรรมเหล่านี้ทำให้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นต่างๆ เป็นเทวดา เสวยผลของบุญ ส่วนคนที่ไปอบายภูมิคือล่วงอกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางกาย ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม ทางวาจา พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ทางใจ เพ่งเล็งอยากได้ของผู้อื่น มีความพยาบาท และมีความเห็นผิดว่าบุญบาปไม่มี เป็นต้น
ทุกขเวทนา ซึ่งเป็นความเจ็บปวดทางร่างกาย ที่สาหัสที่สุด รุนแรงที่สุด ในภูมิมนุษย์เมื่อเปรียบกับทุกขเวทนาในนรกแล้ว เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาด เปรียบกับ เขา สิเนรุ ส่วนความสุข และสมบัติต่างๆ ที่มากมายของพระมหาจักรพรรดิในภูมิมนุษย์ เมื่อเปรียบกับสวรรค์ชั้นต้น (ชั้นจาตุมหาราชิกา) แล้ว เหมือนเด็กอนาถา กับ พระราชา เหมือนภาชนะดินกับภาชนะทอง