รู้เรื่อง แต่ไม่ได้ รู้ ลักษณะของธรรมะ

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  23 พ.ค. 2559
หมายเลข  27816
อ่าน  1,043

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอเชิญรับฟัง....

เข้าใจธรรมะตามลำดับ

ธิดารัตน์ ช่วงเวลานี้ ก็เป็นการสนทนา เกี่ยวกับ การปฏิบัติธรรม ซึ่งก็ ได้แก่ การอบรมเจริญสติปัฏฐาน ถ้าหากว่า ท่าน ผู้ร่วมสนทนา ท่านใด มีข้อสงสัย เกี่ยวกับ เรื่องของธรรมะ หรือว่า การเจริญสติปัฏฐาน สภาพธรรมะต่างๆ เชิญถามได้เลยค่ะ

ผู้ถาม กราบ ท่านอาจารย์สุจินต์ ที่เคารพ จากที่ฟัง ก็สนทนากัน เรื่องปัจจัย ปัจจัย จริงๆ แล้ว ก็จะต้องรู้ แล้วก็รู้ได้ด้วย เพราะ ถ้าไม่รู้ เรื่องปัจจัย แล้ว การบรรลุเป็นพระโสดาบัน ก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็คือ เรื่องปัจจัย มีประโยชน์ ที่จะต้อง เรียนรู้ แต่ก่อนที่ จะไปรู้ เรื่องการเป็นปัจจัย ก็ต้องรู้ ลักษณะของการเกิด ของรูปของนาม ก่อน ก่อนที่จะรู้ ลักษณะของรูปของนาม ซึ่งเป็น วิปัสสนาแรก ก็จะต้อง เรียนรู้ เรื่องสติปัฏฐาน ก่อน ตรงนี้ เป็นอย่างนี้ ใช่ไหม

ท่านอาจารย์สุจินต์ ก็เป็น การ เข้าใจธรรมะ ตามลำดับ ขณะนี้ รู้ เรื่อง แล้วก็ มี ธรรมะ ด้วย แต่ว่า ไม่ได้ รู้ ลักษณะของธรรมะ อันนี้ ถูกต้อง ไหมคะ (ผู้ถาม .. ค่ะ) เพราะฉะนั้น จะรู้ได้ ว่า เวลาที่ เรา เริ่มที่จะ เข้าใจธรรมะ เรา เข้าใจว่า สิ่งที่กำลังมี เป็นธรรมะ นี่ ขั้นต้น ทีเดียว ที่ฟัง คือ ถ้าจะ หา ธรรมะว่า ธรรมะคืออะไร ธรรมะอยู่ที่ไหน ก็คือ สิ่งที่มี-ที่กำลังปรากฏ-ในขณะนี้ นั่นเอง “เป็นธรรมะ” นี่จาก “ขั้นฟัง” ฉันใด เรา ยังไม่ได้ รู้จริงๆ ว่า สิ่งที่ปรากฏ “เป็นธรรมะ” ตามที่เราได้ฟัง เรา เพียงแต่ – จำได้ ว่า ขณะนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นธรรมะ แต่ว่า ลักษณะที่-เป็นธรรมะ ไม่ใช่ - ลักษณะที่ เราเคยจำไว้ ว่า เป็นคน เป็นสัตว์ เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ อย่าง สิ่งที่กำลังปรากฏ-ทางตา-ในขณะนี้ มีแล้ว จากการฟัง .. ก็ทราบว่า เป็นธรรมะ แต่ ลักษณะ ของสิ่งที่ปรากฏ โดยฐานะจริงๆ .. ที่เป็นเพียง ธรรมะ อย่างหนึ่ง ยังไม่ได้ เป็น ความรู้ที่สมบูรณ์ เพราะเหตุว่า แม้ขณะนี้ ก็เห็น ยังไง ก็ต้องเห็น ลืมตา ที่ไหน - ก็ต้องเห็น เห็นแล้ว – ก็ ต้อง รู้ ต่อไป ว่า สิ่งนั้น-เป็นอะไร แล้วก็ เร็วมาก จน ไม่มี ขณะที่พอจะรู้ว่า ขณะนั้น เป็นแต่ เพียง-สภาพธรรมะ-อย่างหนึ่ง อย่างที่เคยได้ยินได้ฟัง

เพราะฉะนั้น สติปัฏฐาน ก็คือ ปกติ อย่างนี้เอง และ ขณะนี้ ที่กำลัง มี สิ่งที่ปรากฏทางตา ก็ กำลัง - เห็น - สิ่งนั้น แล้ว ค่อยๆ รู้ว่า เป็นเพียง - สิ่งที่ปรากฏ จนกว่าจะ - มั่นคง ว่า .. เป็นเพียง-สิ่งที่ปรากฏ ลองคิดดู จะเร็ว – หรือ - จะช้า สิ่งที่ เคย เป็นเพื่อนฝูง มิตรสหาย ดอกไม้ ทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็ ความจริง ก็คือ เป็นเพียง - สิ่งที่ปรากฏทางตา

เมื่อ ความจริง เป็นอย่างนี้ จะให้รู้ เป็นอย่างอื่น ได้ไหม ถ้ารู้จริงๆ ก็ แสดงให้เห็น ว่า สติ ไม่ได้ไป รู้อื่น ... แต่-รู้-สิ่งที่กำลังปรากฎ ไม่ว่าจะเป็น ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เพราะฉะนั้น เวลาที่ สติสัมปชัญญะ กำลัง รู้ ลักษณะของสภาพธรรมะ อย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ได้ไป-นึกถึง-ทวาร ไม่ต้องไป-คิด ว่า นี่เป็นทวารไหน อย่าง สิ่งที่กำลังปรากฏ กำลังเริ่ม ที่จะ รู้ว่า เป็นเพียง-สิ่งที่ปรากฏ - น้อย มาก - สั้นมาก เพราะเหตุว่า พอ ได้ยินก็ ไม่ใช่ - สิ่งที่ปรากฏทางตา แล้ว

เพราะฉะนั้น ก็ เป็นปกติ ที่ แล้วแต่ว่า สติ จะ ระลึก ลักษณะของสภาพอะไร ทีละเล็ก ทีละน้อย ตามปกติ โดยที่ว่า –ไม่ต้อง เอ่ย ไม่ต้อง คิดว่า ทวารไหน คือ การที่จะรู้ ลักษณะจริงๆ ของสภาพธรรมะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 24 พ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pulit
วันที่ 25 พ.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ (เปิดอ่านออกเสียงทีละคำ ทีละคำ เพิ่มความเข้าใจขึ้น ขอบพระคุณค่ะ)

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
rrebs10576
วันที่ 25 พ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 3 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ