นางวิสาขาและท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างวัด ท่านกระทำโดยวิธีใด
ในอดีตกาล ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขาได้ชื่อว่าเป็นเลิศในการถวายทานในพระพุทธศาสนา ที่สำคัญคือท่านเองก็เคยถวายเงินสร้างวัดเป็นมูลค่ามหาศาล กระผมจึงขอ กราบเรียนถามท่านอาจารย์ว่า ท่านถวายเงินสร้างวัดได้โดยวิธีใดเพราะเหตุว่า พระวินัยบัญญัติว่า พระภิกษุในพระธรรมวินัยไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง เพราะท่านเหล่านั้นที่จะบวชเป็นบรรพชิต ในพระพุทธศาสนาจะต้องสละทุกสิ่งทุกอย่าง กล่าวคือ ทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ สละความติดข้องทุกอย่างในความเป็นคฤหัสถ์ ดังนั้น เมื่อบวชแล้ว จะกลับมารับเงินทองอีกไม่ได้ เพราะสละแล้วก่อนที่จะบวช
การทำกิจที่ควรทำของคฤหัสถ์ที่มีต่อบรรพชิตนั้น ก็สามารถที่ทำได้ตามควร แต่ไม่ใช่การถวายเงินแก่พระภิกษุ แม้ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และ นางวิสาขามิคารมารดา ซึ่งเป็นผู้มีทรัพย์มาก มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นพระโสดาบันบุคคล การถวายทานของท่าน อย่างเช่น การถวายพระเชตวันมหาวิหารของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และ การถวายปุพพาราม ของนางวิสาขามิคารมารดา แม้ว่าจะมีการใช้จ่ายทรัพย์เป็นจำนวนมากตั้งแต่การซื้อสถานที่ เป็นต้น แต่ก็ไม่มีการถวายเงินแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เป็นผู้ที่สละทรัพย์ ดำเนินงานต่างๆ จนพระเชตวันมหาวิหาร และ ปุพพาราม แล้วเสร็จ ถวายแก่พระภิกษุสงฆ์มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นประมุข ในการดำเนินการสร้างพระเชตวันมหาวิหาร ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี สละทรัพย์ทั้งหมด ๕๔ โกฏิ (โกฏิหนึ่งเท่ากับสิบล้าน) และ ในการดำเนินการสร้างปุพพาราม นางวิสาขามหาอุบาสิกา สละทรัพย์ทั้งหมด ๒๗ โกฏิ ซึ่งเป็นสิ่งที่คฤหัสถ์จะพึงกระทำได้ โดยไม่ได้ถวายเงินแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุทั้งหลาย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ