รายละเอียดเรื่องศีล

 
Chaowat
วันที่  29 ส.ค. 2559
หมายเลข  28138
อ่าน  1,269

คำว่าศีลทะลุ ศีลด่าง และศีลพร้อย หมายถึงอะไร มีปรากฏในพระไตรปิฎกมั้ยครับ ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 29 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ศีลด่าง พร้อย ขาด ทะลุ มีหลากหลายนัย ครับ ศีลที่ด่าง พร้อย ขาด ทะลุ ก็มีทั้งเพศบรรพชิตและ เพศคฤหัสถ์ สำหรับ เพศบรรพชิต ก็ต้องมีสิกขาบท ข้อบัญญัติ ซึ่งหากภิกษุล่วงศีล ข้อต้น หรือ เบื้องปลาย ก็ชื่อว่าขาด และ หากล่วงศีลในข้อกลาง ก็ชื่อว่า ศีลทะลุ และ แม้ขณะที่ล่วงศีล ก็เป็นศีลที่ด่าง พร้อย ไม่บริสุทธิ์ ครับ

สำหรับเพศคฤหัสถ์ การล่วงศีล 5 ก็ชื่อว่า ศีลขาดด้วย และ ด่าง พร้อยในขณะนั้นไม่บริสุทธิ์

ศีลจะถึงความบริสุทธิ์จริงๆ ที่เป็น ศีล 5 สมบูรณ์ คือ เมื่อถึงความเป็นพระโสดาบัน ที่สำคัญ ในพระไตรปิฎกแสดงไว้ครับว่า ศีลจะบริสุทธิ์ได้เพราะอาศัยปัญญา หากไม่มีปัญญาแล้ว ก็ไม่ถึงความบริสุทธิ์ได้เลย เพราะ ศาสนาอื่นก็มีการงดเว้นการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ แต่ไม่มีความเข้าใจพระธรรม ไม่รู้หนทางที่จะอบรมเจริญปัญญา อันจะไปถึงความบริสุทธิ์แห่งศีลจริงๆ ที่เป็นการบริสุทธิ์เพราะไม่ก้าวล่วงอีก และบริสุทธิ์เพราะปัญญาเจริญขึ้น ครับ

ซึ่ง ขณะที่ใจเป็นอกุศล แม้จะไม่ล่วงออกมาทางกาย วาจา ก็ชื่อว่า ศีลด่างพร้อย ไม่บริสุทธิ์แล้ว เพราะอกุศล ที่เกิดขึ้น ชื่อว่า บริสุทธิ์ไม่ได้เลย ครับ แต่เมื่อยังไม่ได้ฆ่ายุง ก็ไม่ครบกรรมบถที่เป็นปาณาติบาติ มีการฆ่าสัตว์ ไม่ผิดศีล ข้อที่ 1 ครับ เพียงแต่ศีลไม่บริสุทธิ์เพราะเป็นอกุศลจิต แต่ไม่ถึงขนาดล่วงศีล ครับ

หนทางการถึงความบริสุทธิ์แห่งศีล คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา ปัญญาที่เจริญขึ้น ก็ทำให้กาย วาจาดีขึ้น ตามกำลังปัญญาที่เจริญขึ้น และเมื่อปัญญาถึงที่สุด ก็สามารถบรรลุถึงความเป็นพระโสดาบัน ถึงความบริสุทธิ์แห่งศีลจริงๆ ที่จะไม่ก้าวล่วงศีลอีกเลย ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...ศีลมีที่สุด [ปริยันตศีล]

ศีลขาด

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 29 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อกล่าวถึง ศีลด่าง ศีลพร้อย ก็คือ การล่วงศีล นั่นเอง มีเจตนาที่จะล่วงละเมิดในสิ่งที่ผิด ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระโสดาบันผู้ซึ่งไม่ล่วงศีล ๕ อีกเลย ในชีวิตปัจจุบันสำหรับผู้ที่ยังเป็นปุถุชน ยังมีกิเลสอย่างหยาบซึ่งไม่พ้นไปจาก โลภะ โทสะ โมหะ เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อม ย่อมกระทำทุจริตกรรมล่วงศีลได้ ทุจริตกรรมทั้งหลายล้วนเกิดจากการติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ (สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย) ในความเป็นตัวตน สัตว์ บุคคลทั้งสิ้น จึงควรที่จะศึกษาพระธรรม เห็นโทษของอกุศล พร้อมทั้งอบรมเจริญกุศลประการต่างๆ ไม่ควรล่วงศีล เพราะการล่วงศีล นำมาซึ่งโทษประการต่างๆ และยังเป็นปัจจัยให้ไปเกิดในอบายภูมิ เพราะฉะนั้น ไม่ควรประมาทกำลังของกิเลส ค่อยๆ อบรมเจริญปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสจนกว่าจะถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม

แต่ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาจริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรมและย่อมมีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ไม่มีตัวตนที่จะพยายามรักษาศีล แต่การจะรักษาศีลได้ดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับสภาพธรรมฝ่ายดีคือปัญญา เมื่อมีปัญญามากขึ้น ไม่ต้องมีตัวตนที่จะไปพยายามรักษา แต่ว่าธรรมฝ่ายดีทำหน้าที่รักษากายวาจาให้เป็นไปในทางที่ดี คล้อยตามกำลังของปัญญาที่เจริญขึ้นจากการฟังพระธรรมที่ถูกต้อง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวันเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในพระธรรมตรงตามความเป็นจริง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มานิสาโข่งเขียว
วันที่ 29 ส.ค. 2559

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
worrasak
วันที่ 30 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
kukeart
วันที่ 31 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 31 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 21 ก.ย. 2559

ศีลมีที่สุดเพราะทรัพย์ ศีลมีที่สุดเพราะญาติ ศีลมีที่สุดเพราะอวัยวะ ศีลมีที่สุดเพราะชีวิต

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เจียมจิต
วันที่ 26 ต.ค. 2559

ขอบพระคุณค่ะ

และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 28 ต.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ