ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๗๔

 
khampan.a
วันที่  21 พ.ย. 2559
หมายเลข  28368
อ่าน  2,348

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๗๔

~ สติ เป็นอกุศลไม่ได้

~ จิต เน่า เป็นโรคร้าย ด้วยกิเลสอกุศลธรรมทั้งหลาย

~ ตั้งต้นใหม่ ด้วยคำธรรมดาที่เราใช้เป็นปกติ แล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้น

~ ฟังธรรม เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง

~ ถ้าไม่ฟังธรรม จะเข้าใจความจริงได้อย่างไร

~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประมาทไม่ได้

~ ธรรมเกิดขึ้นทีละหนึ่ง เป็นเราหรือเปล่า ไม่ใช่เราก็ไม่รู้

~ ผู้ตรงเท่านั้นที่จะได้สาระจากพระธรรม เพราะพระธรรม ตรง ผิดคือผิด ถูกคือถูก

~ ถ้าไม่มีธรรมเกิดเลย อะไรๆ ก็ไม่มี

~ ความเป็นไปของธรรม คือความหมายของคำว่า ธรรมดา

~ ฟังธรรม เพื่อที่จะค่อยๆ เข้าใจขึ้น เข้าใจคำที่ได้ฟัง

~ เห็นคนเดียว คิดคนเดียว ได้ยินคนเดียว

~ ถ้าใครคิดว่า ธรรม ง่าย นั้น ไม่ถูกต้อง

~ ฟังคำไหน เข้าใจคำนั้น ธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง แต่ละหนึ่ง

~ ได้ยิน เกิดเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีก

~ ทุกอย่าง เป็นธรรม ก็ต้องไม่ลืมว่า เป็นธรรม

~ พระธรรม ฟังแล้ว เบิกบาน อาจหาญ ร่าเริง เพราะเป็นไปกับความเข้าใจถูกเห็นถูก

~ พระธรรม กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง ให้เข้าใจตามความเป็นจริง

~ สนทนาธรรม ก็ต้องกล่าวถึงเรื่องของธรรม

~ ผู้กล่าวธรรม ไม่ใช่เพื่อให้คนฟังไม่เข้าใจ แต่เพื่อให้คนฟังได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก

~ พระมหากรุณาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้คนที่ไม่รู้ ได้รู้ขึ้น พ้นจากความไม่รู้

~ ถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาเพื่อที่จะทรงตรัสรู้ความจริง แล้วใครจะรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ

~ เพราะมีศรัทธาเห็นประโยชน์ของพระธรรม จึงมาฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น และทำให้มีอัธยาศัยที่จะฟังพระธรรมต่อไป

~ พระพุทธพจน์ทุกคำมีค่า แสดงถึงสิ่งที่มีจริงโดยละเอียดยิ่ง

~ สิ่งที่ควรระลึกถึงบ่อยๆ คือ ความตาย ก่อนตายควรที่จะเป็นอย่างไร? นี้คือสิ่งที่สำคัญ เตรียมตัวที่จะเป็นคนใหม่หรือยัง จะเป็นคนใหม่ในชาติใหม่ก็มาจากคนนี้ นั่นเอง

~ แต่ละชาติก็มีสุขบ้างมีทุกข์บ้าง แต่ส่วนที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต ก็คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก

~ ถ้ามีความเข้าใจถูกเห็นถูกแล้ว แม้จะมีความเดือดร้อนก็สามารถเข้าใจถูกเห็นถูกได้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา

~ ฟังแล้วฟังอีก ก็เพื่อที่จะได้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้

~ อะไรบ้าง คือสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้? เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น คิดนึก จำ ฯลฯ แสดงถึงสิ่งที่มีจริงๆ แต่ละหนึ่งซึ่งไม่ใช่เรา

~ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ค่อยๆ เกิดขึ้นเป็นไปทีละเล็กทีละน้อย

~ ไม่มีอะไรติดตามตัวไปได้ มีแต่ชั่ว ดีที่ติดตามไป และสิ่งที่ดีที่ประเสริฐที่สุด คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูกเพราะสามารถดับสิ่งที่ไม่ดีได้จนหมดสิ้น

~ คิดว่า ธรรม เป็นสิ่งที่นอกเหนือไปจากชีวิตประจำวัน นั่น ผิดแล้ว

~ ไปปฏิบัติผิด ไม่ได้เฉียดความเข้าใจถูกเห็นถูกเลยแม้แต่น้อย

~ ทำให้ความไม่รู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไปปฏิบัติผิด

~ การละ ไม่ใช่เรื่องของความติดข้องและความไม่รู้

~ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ก็สามารถอบรมเจริญปัญญาได้

~ จิต เป็นจิต ไม่ใช่เรา จิตหลากหลายมากมาย ก็เพราะเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย

~ จิตเป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ แสดงว่า ต้องมีธรรมอีกอย่างหนึ่งที่เกิดร่วมกับจิต แต่ไม่ได้เป็นใหญ่เป็นประธานเหมือนกับจิต นั่น ก็คือ เจตสิก เป็นเราหรือเปล่า? ไม่ใช่เราเลย เป็นธรรม


~ โลภะ ไม่ใช่จิต โทสะ ไม่ใช่จิต แต่เมื่อเกิดก็ต้องเกิดร่วมกันกับจิต

~ กิเลสเพียงเล็กน้อย ก็สามารถนำไปสู่โทษที่ใหญ่ได้ จะประมาทกิเลสไม่ได้เลย

~ อาศัยการฟัง การพิจารณาไตร่ตรองจนเข้าใจ ก็เป็นปัญญาในระดับหนึ่ง

~ โอกาสเดียวที่จะทำให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ คือ ฟังพระธรรม เพราะเป็นโอกาสที่ประเสริฐ เป็นโอกาสที่จะไม่ทำให้ความไม่รู้เพิ่มขึ้น มีแต่ทำให้ความรู้เพิ่มขึ้น

~ ยิ่งรู้ว่าอกุศลมากเท่าไหร่ เกิดมาเพื่อที่จะขัดเกลากิเลส โดยการที่ว่าถ้าไม่มีปัญญา ก็ไม่สามารถที่จะขัดเกลาได้ และปัญญาเพียงเล็กน้อย ก็ไม่สามารถที่จะละอกุศลซึ่งมีกำลัง ที่จะเกิดบ่อยมากกว่า ด้วยเหตุนี้ จึงเข้าใจคำว่าบารมี (ความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) แม้เพียงเล็กน้อยนิดหน่อย ก็สามารถที่จะลดปริมาณ จำนวนของอกุศลซึ่งถ้ากุศลไม่เกิด ก็เป็นอกุศล

~ ปิยวาจา (คำพูดที่น่ารัก ไพเราะ อ่อนหวาน) ใครสอน? พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ทรงเว้นเลยที่จะให้กิเลสเกิดพอกพูนมากๆ แต่ทุกอย่างเป็นเครื่องขัดเกลาทั้งหมด วาจาที่น่าฟัง ฟังแล้วก็สบายใจ เป็นประโยชน์ไหม? แล้วเราเองไม่ทำร้ายใครด้วย ~ ถ้าใครก็ตาม ที่สามารถสละอาคารบ้านเรือน วงศาคณาญาติ ทรัพย์สมบัติเงินทองทุกอย่างสละชีวิตเพื่อที่จะได้เข้าใจพระธรรม ควรกราบไหว้ไหม? (ควรกราบไหว้) เพราะฉะนั้น เราก็กราบไหว้ภิกษุผู้สละอาคารบ้านเรือน สละเพศคฤหัสถ์สู่เพศบรรพชิตเพื่อศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เพื่อขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต ซึ่งต้องประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย นั่นคือ พระภิกษุในพระธรรมวินัย

~ พระภิกษุคือผู้สละทุกอย่างในเพศคฤหัสถ์ อะไรที่คฤหัสถ์ทำ พระภิกษุไม่ทำ เพราะว่านั่นเป็นกิจของคฤหัสถ์ กิจของพระภิกษุ คือ ศึกษาพระธรรมมีประโยชน์สูงกว่ากิจใดๆ ของคฤหัสถ์ เพราะเหตุว่าช่วยให้คฤหัสถ์ได้เข้าใจถูกต้องในพระธรรมวินัย จนสามารถที่จะอบรมเจริญปัญญาละคลายกิเลสได้ ซึ่งถ้าบรรพชิตไม่เป็นผู้ที่ศึกษาพระธรรมแล้วบรรพชิตจะอนุเคราะห์พระภิกษุและคฤหัสถ์อื่นๆ ได้อย่างไร ในเมื่อตนเองไม่ได้เข้าใจพระธรรม

~ การฟังพระธรรมด้วยความไม่ประมาทเท่านั้น ที่จะทำให้ค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ได้

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบำเพ็ญพระบารมี เพื่อเรา ก็เพื่อมีคำที่บ่งถึงสิ่งที่มีจริงแต่ละคำละเอียดขึ้น จนกระทั่งทำให้สามารถที่จะเห็นความจริงตามลำดับขั้นได้

~ ความเข้าใจแม้น้อยก็เป็นประโยชน์ เพราะจากความเข้าใจเล็กๆ น้อยๆ ก็จะเข้าใจเพิ่มขึ้นอีก จนกระทั่งละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนได้, ความเข้าใจถูกเห็นถูก สิ่งเดียวที่จะละความไม่รู้ได้

~ เป็นโอกาสที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต ที่ได้สามารถเข้าใจความจริง ตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมไม่มีโอกาสที่จะรู้ความจริงได้เลย

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๗๓

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
peem
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Noparat
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
worrasak
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
thilda
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Boonyavee
วันที่ 21 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
kukeart
วันที่ 23 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
peera1009
วันที่ 23 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 25 พ.ย. 2559

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เจียมจิต
วันที่ 26 พ.ย. 2559

กราบ อนุโมทนาค่ะ,

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
aurasa
วันที่ 30 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
kullawat
วันที่ 2 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 12 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ