ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๘๔
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๘๔
~ การเป็นพระภิกษุ ไม่ใช่ง่ายๆ และเป็นอันตรายอย่างยิ่ง (ถ้าทำผิดพระวินัย) ด้วยเหตุนี้ ต้องเป็นผู้ที่ตรง ถ้าไม่ตรงต่อการที่จะสละเพศคฤหัสถ์ สู่เพศบรรพชิต ก็ไม่สามารถที่จะขัดเกลากิเลสได้เลย
~ ถ้าคฤหัสถ์ทำดีต่อพระภิกษุ พระภิกษุก็เป็นผู้ที่เห็นคุณความดีของคฤหัสถ์ ก็ทำความดีด้วยการศึกษาพระธรรมและประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย ตั้งแต่วันแรกที่บวช
~ คฤหัสถ์รู้ว่าพระภิกษุรับเงินรับทองไม่ได้ ถ้าถวายก็เป็นโทษแก่ท่าน แล้วเราจะทำให้ผู้รับเป็นโทษหรือ?
~ บรรพชิต ทำกิจของบรรพชิต บรรพชิต ทำกิจของคฤหัสถ์ ก็ไม่ใช่บรรพชิต
~ การบวช หมายถึง การสละทั่ว ละทั่ว ทั้งทรัพย์สินเงินทอง บ้านเรือน วงศาคณาญาติ ธุรกิจการงานทั้งหมดที่เคยมี เคยเป็น ถ้าใครได้ฟังอย่างนี้แล้วเขาสะสมมา ที่จะสละอาคารบ้านเรือน เขาจึงสละ เพราะเห็นประโยชน์ของการเข้าใจธรรมและการขัดเกลากิเลสในเพศพระภิกษุ
~ เป็นพระภิกษุต้องมีปัญญา ไม่ใช่ไม่มีปัญญาแล้วจะเป็นภิกษุ
~ เป็นพระภิกษุต้องเห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย จึงจะสามารถที่จะขัดเกลาและเป็นภิกษุได้
~ แต่ละหนึ่งเป็นแต่ละหนึ่ง เพียงแต่ว่าเกิดมามีบุคคลนี้ (คือมีมารดาบิดา) เป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้มีพระคุณ เลี้ยงดูมา เป็นผู้หวังดี รักใคร่ให้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นผู้ที่มีพระคุณ เพราะฉะนั้น การที่จะตอบแทนคุณของผู้มีพระคุณ คือ การเป็นคนดี แล้วการไปบวชโดยไม่เข้าใจธรรม เป็นคนดีหรือ?
~ ถ้าท่านได้ยินได้ฟังว่า มีพระอรหันต์มากมายเหลือเกินในยุคนี้ในสมัยนี้ จะเป็นไปได้ไหม? ในเมื่อไม่สอดคล้องกับพระธรรมวินัยที่ได้ทรงแสดงไว้ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะรีบด่วนตัดสินใจปักใจศรัทธาว่า ท่านผู้ใดเป็นพระอรหันต์ ก็ควรที่จะได้คิดคำนึงใคร่ครวญสอบสวนด้วยเหตุผลว่า ท่านเอาอะไรเป็นเครื่องตัดสิน ท่านเอาอะไรเป็นเครื่องที่จะศรัทธาว่าท่านผู้ใดเป็นพระอรหันต์ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เข้าใจว่าพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ทรงแสดงเรื่องของสภาพธรรมอะไรบ้าง และหนทางข้อปฏิบัติที่จะให้ประจักษ์แจ้งข้อธรรมนั้นคืออย่างไร ถ้าไม่ได้ศึกษาโดยละเอียดให้เข้าใจโดยถูกต้อง แล้วท่านจักปักใจเชื่อว่า บุคคลใดเป็นพระอรหันต์ ย่อมเป็นการไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย
~ ถ้าไม่รู้หน้าที่ของท่านที่จะปฏิบัติต่อผู้ที่ควรนอบน้อมอย่างยิ่ง คือ มารดาบิดา ก็แสดงว่ากิเลสของท่านมากมายหนาแน่นเหลือเกิน แล้วจะดับกิเลสถึงเป็นพระอริยบุคคลได้อย่างไร
~ การฟังพระธรรม ทำให้เป็นคนที่ละเอียด และ ตรงต่อความเป็นจริง
~ คนที่ไม่ทำดี คือ ผู้ที่ไม่รู้คุณ ว่า ความดี คือ อะไร?
~ ความเข้าใจธรรมเท่านั้น ที่จะขัดเกลากิเลสได้
~ ปัญญานำไปในสิ่งที่ไม่เป็นโทษโดยประการทั้งปวง
~ แม้กิเลสเพียงเล็กน้อยก็ประมาทไม่ได้ เพราะย่อมนำมาซึ่งกิเลสใหญ่
~ ถ้าใครมาบอกว่า "ธรรม ง่าย ไม่ต้องฟังก็ได้ ฟังเพียงนิดเดียวก็ได้" ถูกหรือผิด?
~ ถ้ายังเก็บสิ่งที่ผิดไว้ แล้วจะถูกได้อย่างไร ก็ปะปนกัน เพราะเหตุว่า ยังคิดว่าสิ่งที่ผิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
~ หนทางเดียวที่จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ ฟังพระธรรมซึ่งเป็นคำของพระองค์ เป็นความจริงทุกคำ
~ การที่ไม่เข้าใจธรรม ก็จะไม่เห็นโทษของการประพฤติทางกายทางวาจาที่ไม่เหมาะสม ตามลำดับ ตั้งแต่เล็กน้อย จนกระทั่งถึงสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
~ ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นมีปัจจัยทำให้เกิดก็เกิดขึ้นทั้งนั้น จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม
~ คนที่เข้าใจพระธรรมแล้ว ก็จะคิดถึงคนอื่นที่เขาไม่เข้าใจ เพราะเหตุนั้นก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้มีโอกาสไตร่ตรองพิจารณาให้ถูกต้อง
~ ความเข้าใจพระธรรมจะทำให้ละเว้นจากการเป็นอุบาสกอุบาสิกาที่ต่ำช้า
~ ละเว้นสิ่งที่ไม่ดี เพราะอกุศลทั้งหมดไม่สามารถที่จะทำให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ได้เลย และโอกาสที่จะกุศลจิตจะเกิด ก็ไม่มากเลย
~ ฟังพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ หรืออะไรทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นยกย่องชมเชย
~ เคารพในความถูกต้อง เคารพในความจริง เคารพในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงฟังคำของพระองค์เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก
~ ข้อสำคัญที่สุด ประโยชน์ของการฟังแต่ละครั้ง ต้องเป็นผู้ที่ตรง มั่นคง จริงใจ การที่เราฟังธรรม เป็นส่วนที่จะทำให้พระพุทธศาสนาดำรงต่อไปได้ ถ้าไม่มีการเข้าใจธรรมแล้ว พระพุทธศาสนาก็ดำรงอยู่ต่อไปไม่ได้
~ ธรรมเป็นเรื่องที่ตรง โทษต้องเป็นโทษ โทษจะเป็นคุณไม่ได้ โทษจะเป็นประโยชน์ไม่ได้
~ มีใครจะเอาเงินไปซื้อความเห็นถูกความเข้าใจถูก จากการที่ได้ฟังแต่ละคำ ได้ไหม? ไม่ได้, คนที่เข้าใจแล้ว ก็มีความหวังดีต่อคนอื่นที่จะให้คนอื่นเข้าใจด้วย แต่ทำอย่างไร เขาถึงจะเข้าใจได้ ก็มีหนทางเดียว คือ หนทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการพูดถึงสิ่งที่มีจริง สนทนาธรรมเพื่อที่จะได้เข้าใจจากคำได้ฟังเพิ่มขึ้น
~ เกิดมาด้วยความไม่รู้ แล้วก็จากไปด้วยความไม่รู้ จนกว่าจะได้ฟังแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ พบกัน เป็นมิตรที่หวังดีจริงๆ ไม่หวังร้ายเลย ไม่ว่าในเรื่องใดทั้งสิ้น เพราะว่า แล้วก็จากกัน เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านี้เลย แต่ละภพแต่ละชาติ
~ เป็นโอกาสที่จะได้เป็นคนดี ด้วยการเข้าใจพระธรรม แล้วก็สะสมความเห็นถูก เพื่อที่จะขัดเกลาจิต คนฉลาด เห็นโทษของกิเลส ขัดเกลากิเลสเลย ไม่รอ เพราะถ้ารอ ก็เพิ่มกิเลสมากขึ้นไปอีก
~ ความเข้าใจธรรม สามารถจะทำให้ดีขึ้น จนกระทั่งดับธรรมฝ่ายที่ไม่ดี จนหมดกิเลสได้
~ ถ้าสะสมความเห็นผิด ไม่ได้สะสมความเข้าใจถูก ก็จะผิดไปเรื่อยๆ
~ ไม่เข้าใจเมื่อไหร่ ไม่ใช่ชาวพุทธ เรียกเองว่าเป็นชาวพุทธ แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นชาวพุทธ ก็ต้องฟังพระธรรมและก็มีความเข้าใจด้วย
~ ท่านที่เป็นผู้ที่ขัดเกลากิเลส มีหรือที่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่า " ฉันกำลังขัดเกลากิเลส "
~ ตลอดชีวิต ไม่มีอะไรที่จะประเสริฐเท่ากับความเข้าใจพระธรรม
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๘๓
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ภิกษุ แปลว่าผู้เห็นภัยในวัฎสงสาร การประพฤติปฎิบัติของท่านเหล่านั้นจึงเป็นเพื่อการขัดเกลากิเลส
ผู้ที่ได้พบเห็นก็ย่อมมีจิตเลื่อมใส และเกิดกุศลจิตได้โดยง่าย เป็นประโยชน์แก่สัตว์โลกเพียงอย่างเดียว
หากแต่ผู้ที่เรียกตัวเองว่าภิกษุ แต่กลับไม่เห็นภัยของวัฎสงสาร และกลับประพฤติตนเพื่อพอกพูนกิเลส
จึงไม่อาจเรียกได้ว่าผู้นั้นเป็นภิกษุ แต่สมควรเรียกผู้นั้นๆ ด้วยคำว่า อลัชชี คือเป็นผู้ที่ไร้ยางอาย ไม่เป็นประโยชน์กับใครๆ แม้แต่กับตัวเอง
ขอกราบแทบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์ฯ และอาจารย์คำปั่นสำหรับการปันธรรมครับ
~ เป็นพระภิกษุต้องมีปัญญา ไม่ใช่ไม่มีปัญญาแล้วจะเป็นภิกษุ
~ ความเข้าใจธรรมเท่านั้น ที่จะขัดเกลากิเลสได้
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย
และอนุโมทนาในกุศลจิต ของทุกท่าน
ประพฤติตามคำสอนพระพุทธองค์ เพราะรู้คุณของพระพุทธ และรู้คุณของความดี น้อ