ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๘๔

 
khampan.a
วันที่  29 ม.ค. 2560
หมายเลข  28576
อ่าน  2,324

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๘๔



~ การเป็นพระภิกษุ ไม่ใช่ง่ายๆ และเป็นอันตรายอย่างยิ่ง (ถ้าทำผิดพระวินัย) ด้วยเหตุนี้ ต้องเป็นผู้ที่ตรง ถ้าไม่ตรงต่อการที่จะสละเพศคฤหัสถ์ สู่เพศบรรพชิต ก็ไม่สามารถที่จะขัดเกลากิเลสได้เลย

~ ถ้าคฤหัสถ์ทำดีต่อพระภิกษุ พระภิกษุก็เป็นผู้ที่เห็นคุณความดีของคฤหัสถ์ ก็ทำความดีด้วยการศึกษาพระธรรมและประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย ตั้งแต่วันแรกที่บวช

~ คฤหัสถ์รู้ว่าพระภิกษุรับเงินรับทองไม่ได้ ถ้าถวายก็เป็นโทษแก่ท่าน แล้วเราจะทำให้ผู้รับเป็นโทษหรือ?

~ บรรพชิต ทำกิจของบรรพชิต บรรพชิต ทำกิจของคฤหัสถ์ ก็ไม่ใช่บรรพชิต

~ การบวช หมายถึง การสละทั่ว ละทั่ว ทั้งทรัพย์สินเงินทอง บ้านเรือน วงศาคณาญาติ ธุรกิจการงานทั้งหมดที่เคยมี เคยเป็น ถ้าใครได้ฟังอย่างนี้แล้วเขาสะสมมา ที่จะสละอาคารบ้านเรือน เขาจึงสละ เพราะเห็นประโยชน์ของการเข้าใจธรรมและการขัดเกลากิเลสในเพศพระภิกษุ

~ เป็นพระภิกษุต้องมีปัญญา ไม่ใช่ไม่มีปัญญาแล้วจะเป็นภิกษุ

~ เป็นพระภิกษุต้องเห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย จึงจะสามารถที่จะขัดเกลาและเป็นภิกษุได้

~ แต่ละหนึ่งเป็นแต่ละหนึ่ง เพียงแต่ว่าเกิดมามีบุคคลนี้ (คือมีมารดาบิดา) เป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้มีพระคุณ เลี้ยงดูมา เป็นผู้หวังดี รักใคร่ให้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นผู้ที่มีพระคุณ เพราะฉะนั้น การที่จะตอบแทนคุณของผู้มีพระคุณ คือ การเป็นคนดี แล้วการไปบวชโดยไม่เข้าใจธรรม เป็นคนดีหรือ?

~ ถ้าท่านได้ยินได้ฟังว่า มีพระอรหันต์มากมายเหลือเกินในยุคนี้ในสมัยนี้ จะเป็นไปได้ไหม? ในเมื่อไม่สอดคล้องกับพระธรรมวินัยที่ได้ทรงแสดงไว้ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะรีบด่วนตัดสินใจปักใจศรัทธาว่า ท่านผู้ใดเป็นพระอรหันต์ ก็ควรที่จะได้คิดคำนึงใคร่ครวญสอบสวนด้วยเหตุผลว่า ท่านเอาอะไรเป็นเครื่องตัดสิน ท่านเอาอะไรเป็นเครื่องที่จะศรัทธาว่าท่านผู้ใดเป็นพระอรหันต์ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เข้าใจว่าพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ทรงแสดงเรื่องของสภาพธรรมอะไรบ้าง และหนทางข้อปฏิบัติที่จะให้ประจักษ์แจ้งข้อธรรมนั้นคืออย่างไร ถ้าไม่ได้ศึกษาโดยละเอียดให้เข้าใจโดยถูกต้อง แล้วท่านจักปักใจเชื่อว่า บุคคลใดเป็นพระอรหันต์ ย่อมเป็นการไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย

~ ถ้าไม่รู้หน้าที่ของท่านที่จะปฏิบัติต่อผู้ที่ควรนอบน้อมอย่างยิ่ง คือ มารดาบิดา ก็แสดงว่ากิเลสของท่านมากมายหนาแน่นเหลือเกิน แล้วจะดับกิเลสถึงเป็นพระอริยบุคคลได้อย่างไร

~ การฟังพระธรรม ทำให้เป็นคนที่ละเอียด และ ตรงต่อความเป็นจริง

~ คนที่ไม่ทำดี คือ ผู้ที่ไม่รู้คุณ ว่า ความดี คือ อะไร?

~ ความเข้าใจธรรมเท่านั้น ที่จะขัดเกลากิเลสได้

~ ปัญญานำไปในสิ่งที่ไม่เป็นโทษโดยประการทั้งปวง

~ แม้กิเลสเพียงเล็กน้อยก็ประมาทไม่ได้ เพราะย่อมนำมาซึ่งกิเลสใหญ่

~ ถ้าใครมาบอกว่า "ธรรม ง่าย ไม่ต้องฟังก็ได้ ฟังเพียงนิดเดียวก็ได้" ถูกหรือผิด?

~ ถ้ายังเก็บสิ่งที่ผิดไว้ แล้วจะถูกได้อย่างไร ก็ปะปนกัน เพราะเหตุว่า ยังคิดว่าสิ่งที่ผิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

~ หนทางเดียวที่จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ ฟังพระธรรมซึ่งเป็นคำของพระองค์ เป็นความจริงทุกคำ

~ การที่ไม่เข้าใจธรรม ก็จะไม่เห็นโทษของการประพฤติทางกายทางวาจาที่ไม่เหมาะสม ตามลำดับ ตั้งแต่เล็กน้อย จนกระทั่งถึงสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

~ ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นมีปัจจัยทำให้เกิดก็เกิดขึ้นทั้งนั้น จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม

~ คนที่เข้าใจพระธรรมแล้ว ก็จะคิดถึงคนอื่นที่เขาไม่เข้าใจ เพราะเหตุนั้นก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้มีโอกาสไตร่ตรองพิจารณาให้ถูกต้อง

~ ความเข้าใจพระธรรมจะทำให้ละเว้นจากการเป็นอุบาสกอุบาสิกาที่ต่ำช้า

~ ละเว้นสิ่งที่ไม่ดี เพราะอกุศลทั้งหมดไม่สามารถที่จะทำให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ได้เลย และโอกาสที่จะกุศลจิตจะเกิด ก็ไม่มากเลย

~ ฟังพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ หรืออะไรทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นยกย่องชมเชย

~ เคารพในความถูกต้อง เคารพในความจริง เคารพในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงฟังคำของพระองค์เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก

~ ข้อสำคัญที่สุด ประโยชน์ของการฟังแต่ละครั้ง ต้องเป็นผู้ที่ตรง มั่นคง จริงใจ การที่เราฟังธรรม เป็นส่วนที่จะทำให้พระพุทธศาสนาดำรงต่อไปได้ ถ้าไม่มีการเข้าใจธรรมแล้ว พระพุทธศาสนาก็ดำรงอยู่ต่อไปไม่ได้

~ ธรรมเป็นเรื่องที่ตรง โทษต้องเป็นโทษ โทษจะเป็นคุณไม่ได้ โทษจะเป็นประโยชน์ไม่ได้

~ มีใครจะเอาเงินไปซื้อความเห็นถูกความเข้าใจถูก จากการที่ได้ฟังแต่ละคำ ได้ไหม? ไม่ได้, คนที่เข้าใจแล้ว ก็มีความหวังดีต่อคนอื่นที่จะให้คนอื่นเข้าใจด้วย แต่ทำอย่างไร เขาถึงจะเข้าใจได้ ก็มีหนทางเดียว คือ หนทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการพูดถึงสิ่งที่มีจริง สนทนาธรรมเพื่อที่จะได้เข้าใจจากคำได้ฟังเพิ่มขึ้น

~ เกิดมาด้วยความไม่รู้ แล้วก็จากไปด้วยความไม่รู้ จนกว่าจะได้ฟังแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

~ พบกัน เป็นมิตรที่หวังดีจริงๆ ไม่หวังร้ายเลย ไม่ว่าในเรื่องใดทั้งสิ้น เพราะว่า แล้วก็จากกัน เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านี้เลย แต่ละภพแต่ละชาติ

~ เป็นโอกาสที่จะได้เป็นคนดี ด้วยการเข้าใจพระธรรม แล้วก็สะสมความเห็นถูก เพื่อที่จะขัดเกลาจิต คนฉลาด เห็นโทษของกิเลส ขัดเกลากิเลสเลย ไม่รอ เพราะถ้ารอ ก็เพิ่มกิเลสมากขึ้นไปอีก

~ ความเข้าใจธรรม สามารถจะทำให้ดีขึ้น จนกระทั่งดับธรรมฝ่ายที่ไม่ดี จนหมดกิเลสได้

~ ถ้าสะสมความเห็นผิด ไม่ได้สะสมความเข้าใจถูก ก็จะผิดไปเรื่อยๆ

~ ไม่เข้าใจเมื่อไหร่ ไม่ใช่ชาวพุทธ เรียกเองว่าเป็นชาวพุทธ แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นชาวพุทธ ก็ต้องฟังพระธรรมและก็มีความเข้าใจด้วย

~ ท่านที่เป็นผู้ที่ขัดเกลากิเลส มีหรือที่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่า " ฉันกำลังขัดเกลากิเลส "

~ ตลอดชีวิต ไม่มีอะไรที่จะประเสริฐเท่ากับความเข้าใจพระธรรม

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๘๓

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
peem
วันที่ 29 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 29 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
abhirak
วันที่ 29 ม.ค. 2560

ภิกษุ แปลว่าผู้เห็นภัยในวัฎสงสาร การประพฤติปฎิบัติของท่านเหล่านั้นจึงเป็นเพื่อการขัดเกลากิเลส

ผู้ที่ได้พบเห็นก็ย่อมมีจิตเลื่อมใส และเกิดกุศลจิตได้โดยง่าย เป็นประโยชน์แก่สัตว์โลกเพียงอย่างเดียว

หากแต่ผู้ที่เรียกตัวเองว่าภิกษุ แต่กลับไม่เห็นภัยของวัฎสงสาร และกลับประพฤติตนเพื่อพอกพูนกิเลส

จึงไม่อาจเรียกได้ว่าผู้นั้นเป็นภิกษุ แต่สมควรเรียกผู้นั้นๆ ด้วยคำว่า อลัชชี คือเป็นผู้ที่ไร้ยางอาย ไม่เป็นประโยชน์กับใครๆ แม้แต่กับตัวเอง

ขอกราบแทบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์ฯ และอาจารย์คำปั่นสำหรับการปันธรรมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
thilda
วันที่ 30 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
siraya
วันที่ 30 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
j.jim
วันที่ 30 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เมตตา
วันที่ 30 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Noparat
วันที่ 30 ม.ค. 2560

~ เป็นพระภิกษุต้องมีปัญญา ไม่ใช่ไม่มีปัญญาแล้วจะเป็นภิกษุ

~ ความเข้าใจธรรมเท่านั้น ที่จะขัดเกลากิเลสได้

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 30 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Thanapolb
วันที่ 31 ม.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขอบพระคุณอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย

และอนุโมทนาในกุศลจิต ของทุกท่าน

ประพฤติตามคำสอนพระพุทธองค์ เพราะรู้คุณของพระพุทธ และรู้คุณของความดี น้อ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Boonyavee
วันที่ 31 ม.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 2 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
worrasak
วันที่ 2 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 12 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
มังกรทอง
วันที่ 15 ต.ค. 2566

พุทธองค์ทรงมอบด้วย คำจริง พึงอ่านฟังธรรมอิง สิ่งแท้ อดทนจิตเจตสิกพิง กุศลหลัก ยากยิ่งหามีแพ้ มุ่งเข้าใจธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
มังกรทอง
วันที่ 15 ต.ค. 2566

แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยมั่นใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญฯ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ