ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๐๓
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๐๓
~ ไม่มีอะไรที่ประเสริฐที่มีค่ายิ่งกว่าความเห็นที่ถูกต้อง ซึ่งไม่เคยเข้าใจอย่างนี้มาก่อนเลย แล้วจะทิ้งสิ่งที่มีค่าอย่างนั้นหรือ ยังจะกลับไปสู่ความไม่รู้ ยังจะกลับไปสู่ความเห็นผิด อย่างนั้นหรือ?
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ทุกอย่างละเอียดลึกซึ้ง เพราะกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) ก็ลึกซึ้ง เพราะฉะนั้น ปัญญาลึกซึ้งเท่าไหร่ที่จะสามารถดับกิเลสทั้งหมดไม่เหลือเลยสักอย่าง
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ทำร้ายใครเลย แต่กลับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งสามารถที่จะทำให้ค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่มีจริงได้ ซึ่งควรอย่างยิ่งที่จะได้รู้
~ ความไม่รู้นำมาซึ่งสิ่งที่ผิดจากพระธรรมวินัย มากมาย เช่น สำนักปฏิบัติ และการบวช โดยที่ว่าผู้นั้นไม่มีความเข้าใจธรรมเลยทั้งภิกษุและสามเณร นี่ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เข้าใจธรรม และไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ธรรมมีทุกหนทุกแห่ง และทุกขณะ
~ ถ้าเข้าใจถูกต้องจริงๆ ความเห็นผิดก็จะค่อยๆ น้อยลง ความชั่วทั้งหลายก็ลดน้อยลง
~ ผู้ที่เป็นชาวพุทธ เห็นคุณค่าของพระธรรมที่ทำให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ผู้ที่เห็นคุณค่าเห็นประโยชน์สูงสุดของพระธรรม จะไม่ละเลยการที่จะฟังพระธรรม เพื่อเข้าใจ
~ เราไม่สามารถที่จะแก้ไขใครได้เลย แต่ความเข้าใจต่างหากที่แก้ไขกิเลสซึ่งแต่ละคนมีสะสมมา ซึ่งคนอื่นก็แก้ไขให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นหนทางเดียว คือ ยิ่งทำให้คนมีโอกาสได้ฟังได้เข้าใจธรรม ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะทุกคนต้องแก้ไขตัวเอง
~ ถ้าในชีวิตประจำวันไม่มีการเข้าใจธรรม ไม่มีกุศลเลย ไม่มีทางเลยที่จะดับกิเลสได้
~ จะละชั่ว ละทุจริตทั้งหมดได้ ก็ด้วยคุณความดี และที่สำคัญที่สุด ก็คือ ความดีจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีปัญญา
~ พระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่ไหนเลยทั้งสิ้น ไม่ได้อยู่ที่วัดวาอาราม แต่ว่าอยู่ที่ความเข้าใจของแต่ละคน เพราะฉะนั้นถ้าสามารถที่จะให้คนอื่นได้มีโอกาสได้ฟังธรรม ได้เข้าใจธรรมถูกต้องขึ้น พระพุทธศาสนาก็ดำรงอยู่ได้ต่อไป
~ การสนทนาธรรม เพื่ออะไร? เพื่อความเข้าใจ แล้วใครเข้าใจ? ก็คนที่สนทนานั่นแหละเข้าใจ ถ้าเข้าใจเพราะได้ฟัง ผู้ที่ให้เขาเข้าใจได้ ก็เป็นเพื่อนที่ดี คือ ให้สิ่งที่ดี ให้สิ่งที่ถูกต้อง ให้ความจริง ให้ทุกอย่าง ซึ่งไม่เป็นอันตรายหรือว่าไม่ทำร้ายเลย
~ ถ้าเข้าใจพระธรรมจริงๆ เห็นคุณของพระธรรมจริงๆ เราจะขาดการฟังพระธรรมไหม? ไม่ขาดการฟังพระธรรม
~ เป็นได้ง่ายไหมบัณฑิต? ถ้าเข้าใจข้อปฏิบัติผิดและกำลังปฏิบัติผิดอยู่ก็เป็นบัณฑิตไม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่จะเป็นบัณฑิต ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นได้ง่ายๆ จึงต้องเป็นผู้ฟังเป็นผู้ที่เข้าใจถูกปฏิบัติถูกตรงตามพระธรรมอย่างแท้จริง
~ แม้จะเป็นผู้มีทรัพย์ มีลาภ มียศ มีสรรเสริญ แต่ยังไม่หมดกิเลส ยังไม่ได้ขัดเกลาละอกุศลให้เบาบาง ก็เป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้เลยว่ากิเลสนั้นจะมีกำลังกล้าที่จะทำให้ท่านปฏิบัติคลาดเคลื่อนผิดไปในทางอกุศลกรรมหนักๆ อย่างไรบ้าง ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงเรื่องของอกุศลมากทีเดียว เพื่อให้เห็นโทษ ถ้าใครที่ยังไม่เห็นโทษของอกุศล ก็ยังประมาทอยู่เพราะคิดว่า มีกุศลพอแล้ว แต่ถ้าเห็นโทษของอกุศลมากๆ จะเป็นผู้ที่ไม่ประมาท
~ ไม่ควรประมาทกุศลแม้เพียงเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน เพียงขณะหนึ่งที่ทำความดี ขณะนั้นก็สะสมที่จะเป็นคนดีในลักษณะนั้นๆ ต่อไป
~ ลองคิดดูว่า ถ้าไม่อภัยให้ใคร กาย วาจาที่มีต่อบุคคลนั้นจะเป็นอย่างไร จะไม่เป็นไปในทางที่เป็นมิตรเลย เพราะฉะนั้นกุศลก็ย่อมเจริญไม่ได้ แล้วก็จะถึงฝั่ง (แห่งการดับกิเลส) ได้อย่างไร
~ จากโลกนี้ไปจะเอาอะไรไปบ้าง ใครที่มีมรดกมากมายมหาศาลเอาไปได้ไหม? เอาไปได้เฉพาะความโลภบ้าง ความโกรธบ้าง ความดีบ้าง ความชั่วบ้าง แต่ความเข้าใจถูกความเห็นถูก ถ้าไม่มีการฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีทางที่จะมีสิ่งนี้ (คือความเข้าใจถูกเห็นถูก) อยู่ในใจ จนถึงชาติหน้าและชาติต่อไป
~ ผู้ใดประพฤติปฏิบัติผิดในปัจจุบันชาติ สะสมเป็นเหตุเป็นปัจจัยในชาติต่อๆ ไป ก็มีการสะสมที่จะให้เห็นผิด เข้าใจผิด ประพฤติปฏิบัติผิดต่อไป จนกระทั่งไม่สามารถที่จะประพฤติปฏิบัติในข้อที่ถูกได้ และนอกจากนั้นก็ยังจะชักชวนบุคคลอื่นให้มีความเข้าใจผิด มีการประพฤติปฏิบัติผิดด้วย ซึ่งก็เป็นโทษเป็นภัย เพราะไม่สามารถจะทำให้ดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด)
~ คนที่เห็นประโยชน์จริงๆ ในชีวิต ทรัพย์สมบัติเอาไปไม่ได้ ทุกอย่างเอาไปไม่ได้ แต่ความดี ความเข้าใจธรรม ก็จะนำ (ทาง) ต่อไปให้เป็นคนที่สะสมที่จะเป็นคนที่ดีในชาติต่อๆ ไป จนกว่ากิเลสจะหมด
~ กล้าที่จะทำผิด กิเลสแน่นอน กล้าที่จะผิดต่อไป ก็เป็นกิเลส แต่ถ้ารู้ว่า สิ่งใดเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว กล้าที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่นก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
~ อกุศลเป็นสภาพธรรมที่ทำให้ประพฤติในสิ่งที่ไม่สมควรต่างๆ มากมาย ซึ่งผู้ที่มีความประพฤติที่ไม่สมควรต่างๆ นั้น ก็เพราะว่า ไม่ได้คล้อยตามพระพุทธพจน์ ไม่ได้น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม
~ กิเลสประการต่างๆ เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต เมื่อเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ก็เป็นเครื่องตัดหรือทำลายซึ่งกุศลธรรม ไม่สามารถทำให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้นได้เลย
~ กิเลสทั้งหลาย เป็นภัยที่ยิ่งใหญ่ โดยเหตุที่ว่าอยู่ภายในตัวเอง ไม่ได้อยู่ไกลเลย เป็นสิ่งไม่ดีที่มีอยู่ในจิตใจ เป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมต่างๆ และก็จะเป็นผู้ได้รับผลของอกุศลกรรมนั้นๆ เอง
~ ปัญญา ไม่ใช่ว่าทุกคนมี แต่เป็นสิ่งซึ่งจะเกิดมีขึ้นได้ โดยอาศัยการฟัง การพิจารณา การไตร่ตรอง การสนทนา การเห็นประโยชน์ แล้วก็การฟังเพิ่มขึ้น เข้าใจเพิ่มขึ้น ปัญญาก็จะเจริญขึ้น
~ อกุศล กล้าในทางอกุศล กล้าฆ่า กล้าเบียดเบียน กล้าประทุษร้าย แต่ว่าถ้าเป็นทางฝ่ายที่ดี แล้ว ก็กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำสิ่งที่ดี
~ ฟังคำของคนที่มีความเห็นผิด เข้าใจผิด พูดผิด คนฟังเชื่อไหม? ถ้าเชื่อ ก็เห็นผิดตามไปด้วย เห็นโทษไหม? เป็นอันตรายมากสำหรับการฟังคำของคนอื่นที่ไม่ใช่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ พูดถึงความเห็นผิด ให้เข้าใจถูกต้อง ว่า “นั่น เห็นผิด” มิฉะนั้นจะมีประโยชน์อะไร แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังตรัสไว้ ให้รู้ชัดเจนว่า อะไรผิด อะไรถูก
~ ทำไมคนๆ เดียว (ซึ่งเป็นคนมีความเห็นผิด) ถึงมีโทษมากมายได้? เพราะเหตุว่าย่อมชักชวนคนอื่นให้เห็นผิดตามไปด้วย เมื่อตนเองมีความเห็นวิปริตคลาดเคลื่อนไปจากสภาพธรรมตามความเป็นจริง ก็ยังจะชักชวนเผยแพร่ความคิดเห็นนั้นให้คนอื่นมีความเห็นอย่างนั้นได้ด้วย
~ ยิ่งมีความเห็นผิด ปฏิบัติผิด ก็ยิ่งห่างไกลแสนไกลจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๐๒
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ปัญญา ไม่ใช่ว่าทุกคนมี แต่เป็นสิ่งซึ่งจะเกิดมีขึ้นได้ โดยอาศัยการฟัง การพิจารณา การไตร่ตรอง การสนทนา การเห็นประโยชน์ แล้วก็การฟังเพิ่มขึ้น เข้าใจเพิ่มขึ้น ปัญญาก็จะเจริญขึ้น
น้อมกราอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
เราไม่สามารถที่จะแก้ไขใครได้เลย แต่ความเข้าใจต่างหากที่แก้ไขกิเลสซึ่งแต่ละคนมีสะสมมา ซึ่งคนอื่นก็แก้ไขให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นหนทางเดียว คือ ยิ่งทำให้คนมีโอกาสได้ฟังได้เข้าใจธรรม ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะทุกคนต้องแก้ไขตัวเอง
น้อมกราอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ