ชื่นชมใคร
ถ้าเป็นผู้ไม่เข้าใจธรรม ไม่มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง ก็จะคล้อยตามในสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้โดยง่าย ซึ่งเป็นโทษเพราะได้สะสมความไม่ตรง ความไม่รู้ และกิเลสทั้งหลายต่อไป เช่น เมื่อเห็นภิกษุรับเงินและทอง แล้วนำไปทำสิ่งต่างๆ ช่วยเหลือสังคม เช่น นำเงินไปสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาลเป็นต้น ก็จะชื่นชม เห็นดี เห็นงามไปด้วย แต่ความจริงแล้วไม่ถูกต้องเลย ไม่ใช่สิ่งที่ควรชื่นชม เพราะการรับเงินของภิกษุ ไม่ว่ากรณีใดๆ ผิดพระวินัยทั้งหมด เพราะไม่ใช่กิจของภิกษุเลย ภิกษุมาทำกิจของคฤหัสค์ เพราะการบวชเพื่อประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เพื่อการขัดเกลากิเลส ไม่ใช่บวชเพราะอยาก บวชเพราะไม่รู้. การให้เงินกับภิกษุก็เท่ากับกำลังผลักภิกษุลงนรก ถ้าจะชื่นชมภิกษุ ก็ควรจะชื่นชมภิกษุที่ศึกษาพระธรรม และขัดเกลากิเลสโดยการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และช่วยสังคมด้วยการให้ความเข้าใจธรรมตรงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ใช่มาชื่นชมภิกษุที่รับเงิน และทองซึ่งทำผิดพระวินัย และที่สำคัญถ้าคฤหัสถ์อยากช่วยสังคม จะสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล หรือสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอื่นๆ ก็ช่วยได้เลย โดยไม่ต้องเอาเงินไปให้ภิกษุเพื่อทำสิ่งเหล่านั้น เพราะปัญญาความเข้าใจถูก เห็นถูกเท่านั้น ที่จะคอยประคับประคองชีวิตให้เป็นไปในทางที่ถูก ที่ควร ไม่หลงไปในทางที่ผิด.
ขอเชิญคลิกอ่านและฟังเพิ่มเติมได้ที่...
พระภิกษุ ต้องงดงามตามพระธรรมวินัย
สนทนาพิเศษ การบวชตามพระธรรมวินัย
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ...
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ.คำปั่น อักษรวิลัย ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลพระธรรม ด้วยค่ะ
การศึกษาเพื่อให้เข้าใจในพระธรรม ในพระวินัยก็เพื่อที่จะให้เกิดความเห็นถูก ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่ให้อนุโมทนากับสิ่งที่ผิด สิกขาบทเรื่องการรับเงินและทองเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญของพระภิกษุที่ชาวพุทธผู้ที่ไม่ได้ศึกษามักจะเห็นผิดและเข้าใจผิด หลงไปอนุโมทนาไปชื่นชมกับสิ่งที่เป็นบาปเป็นอกุศล การรับเงินของภิกษุ ไม่ว่ากรณีใดๆ ผิดพระวินัยทั้งสิ้น ไม่ใช่กิจของภิกษุและไม่ใช่หน้าที่ของพระภิกษุที่จะมาเป็นผู้ออกทุนทรัพย์สร้างสาธารณกุศล สมควรอย่างยิ่งที่จะเผยแพร่ความเข้าใจเรื่องนี้ออกไปในวงกว้าง จะได้ไม่หลงอนุโมทนากับอาบัติของพระภิกษุที่เกิดขึ้นครับ