ปริยัติ (ความเข้าใจธรรมถูกต้องตามความเป็นจริง)
ปริยัติ หมายถึง มีความรอบรู้ในพระพุทธพจน์ ทุกคำที่ตรัสหมายถึงสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม เป็นสิ่งที่ควรเข้าใจ บางคนพูดถึงธรรมโดยไม่มีความเข้าใจ นั่นไม่ใช่ปริยัติ เช่น ท่องได้ กุศลธรรม อกุศลธรรม อัพยกตธรรม ... หรือพูดได้ว่า จิตมี ๘๙ เจตสิกมี ๕๒ โดยไม่มีความเข้าใจลักษณะของจิต เจตสิก นั่นก็ไม่ใช่ปริยัติ จิต เจตสิกไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฎก แต่มีจริง กำลังปรากฏขณะนี้ เห็นมีจริง ได้ยินก็มีจริง แข็งมีจริง กลิ่นมีจริงๆ การศึกษาธรรมต้องศึกษาตัวจริงของธรรม ฟังธรรมฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ เพราะเมื่อมีความเข้าใจมั่นคง รอบรู้ในพระพุทธพจน์ ย่อมเป็นปัจจัยให้สติปัฏฐานเกิด สติรู้ตรงลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นปฏิปัตติ ภาษาบาลีแปลว่า จรดสภาพธรรม ภาษาไทยแปลปฏิปัตติเป็น ปฏิบัติ ซึ่งก็ปฏิบัติธรรมกัน ซึ่วเป็นสิ่งที่ผิด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสให้ไปปฏิบัติธรรมกันอย่างคนสมัยนี้ปฏิบัติกัน บางคนคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะฟังให้เข้าใจ เห็น ได้ยิน สิ่งที่ปรากฏทางตา เสียง แข็ง ... ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด 45 พรรษา แต่กลับไปเข้าห้องปฏิบัติเพื่อจดจ้อง เห็น ได้ยิน หรือแข็ง ซึ่งนั่นไม่ใช่สัจจญาณ แต่ผู้ที่มีความเข้าใจปริยัติ จะไม่ไปทำสิ่งที่ผิดเลย ไม่มีใครทำอะไรได้เลย ไปทำให้รู้เห็น รู้แข็ง ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะ ธรรมเกิดแล้ว ดับแล้วตามเหตุปัจจัย สิ่งที่ปรากฏปรากฏโดยความเป็นอนัตตา ไม่มีตัวเราไปปฏิบัติ เพราะฉะนั้นฟังให้เข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนทางเดียวเท่านั้น ฟังจนกว่าไม่คิดที่จะไปทำอะไร (เพราะรู้ว่าทำไม่ได้)
มีชีวิตอยู่เพื่อปัญญาปรากฏ
จนกว่าปัญญาปรากฏแทนที่อกุศล
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ... ปริยัติ
ขอเชิญคลิกฟังเพิ่มได้ที่ ...
ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ซาบซึ้งในหทัย 13 [ปฏิเวธในปริยัติ]
พระสัทธรรม ๓ อย่าง [มหาวิภังค์]
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่ ...
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ ...