ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๔๑
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๔๑
~ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ให้คนได้เข้าใจพระธรรมวินัยให้ถูกต้อง ถ้าไม่มีใครเข้าใจ ก็คิดว่าสิ่งที่ผิดนั้นถูก ถ้าเป็นอย่างนี้ทั้งประเทศก็ถือเอาสิ่งที่ผิดว่าถูก เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นก็คือว่าให้เขาเข้าใจจริงๆ ว่า อะไรถูก อะไรผิด ถ้ามีความเข้าใจมากขึ้น คนก็จะรู้ได้ว่า อะไรที่ผิด ไม่ควรที่จะส่งเสริม เพราะฉะนั้น ก็จะไม่มีการที่จะทำสิ่งที่ผิดๆ ต่อไป แต่ที่ยังคงทำผิดต่อไป เพราะเหตุว่าไม่เข้าใจพระธรรมวินัย
~ ตราบใดที่ความเข้าใจธรรม ยังมีเหลืออยู่ ยังไม่สูญสิ้น ก็ชื่อว่าพระพุทธศาสนายังดำรงอยู่
~ ไม่มีอันตรายใดที่จะเสมอเท่ากับการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะปิดกั้นคนที่สมควรที่จะได้เข้าใจถูกถ้าไตร่ตรอง กลับทำให้เขาเข้าใจผิด
~ ขณะใดที่มีโอกาสที่จะได้ทำความดีแม้เล็กน้อยก็ไม่ประมาท ทำความดีให้ถึงพร้อม เพราะเห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าละเอียดมาก เท่านี้ยังไม่พอ ต้องชำระจิตให้บริสุทธิ์จากกิเลสคือความไม่รู้ ซึ่งนำมาซึ่งกิเลสอื่นๆ ซึ่งจะดับได้ หมดได้ ก็เพราะความรู้ ความเข้าใจเพิ่มขึ้น
~ คนที่เคยเห็นผิด อาศัยการฟังพระธรรม แล้วพิจารณา ย่อมเกิดความเห็นถูกได้ แต่ถ้าไม่ฟังและไม่พิจารณา ก็หมดหนทางที่จะเห็นถูกได้ ย่อมยึดถือความเห็นผิดว่า เป็นความเห็นถูกอยู่เรื่อยๆ แล้วเมื่อมีการสะสมความเห็นผิด จนกระทั่งเป็นปกติ เป็นอุปนิสัยที่มีกำลัง ย่อมจะทำให้ความเห็นผิดนั้นมีปัจจัยที่จะเกิดต่อไปอีก และอาจจะเห็นผิดมากขึ้นอีกด้วย
~ ถ้าสะสมปัจจัยที่จะให้เกิดความเห็นถูกขั้นฟัง และขั้นอบรมเจริญไปเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย ในที่สุด ความเห็นผิดก่อนๆ ก็ย่อมจะหมดได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่จะต้องอบรมเจริญจริงๆ
~ ต้องอาศัยการสะสมอบรมเจริญไปทีละเล็กทีละน้อย แต่ลองคิดถึงว่า ถ้าไม่ฟังเลย จะเป็นอย่างไร จะคงยังมีความเห็นผิดอยู่ และไม่มีหนทางที่จะละความเห็นผิด ถ้าไม่อาศัยพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้แล้วโดยละเอียด
~ ไม่ว่าใครจะมีกาย วาจา ใจที่ผิด ที่เป็นอกุศล หรือว่าที่เป็นไป เพราะความเห็นผิดต่างๆ ก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพราะเหตุว่ามิจฉาทิฏฐิ (ความเห็นผิด) เป็นอกุศลเจตสิก ซึ่งเมื่อบุคคลนั้นสะสมมา สืบต่อมาเป็นอันมากในอดีต เป็นปัจจัยที่จะให้มีความโน้มเอียง ที่จะเห็นผิด พิจารณาผิด เข้าใจผิด ประพฤติปฏิบัติผิด บุคคลนั้น ก็มีปัจจัยที่จะให้สภาพธรรมนั้นเกิดขึ้น
~ การสนทนาธรรม เป็นมงคล นำความเจริญ นำความเห็นถูก นำสภาพธรรมที่ดีงาม มาสู่จิตใจ
~ สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ก็คือ การที่สามารถรู้ความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เพราะเหตุว่า คำของพระองค์จะดำรงต่อไป ก็ต่อเมื่อมีผู้ที่เข้าใจถูก ถ้าผู้ใดก็ตามไม่เข้าใจธรรมพูดไม่จริง คำไม่จริง ไม่ตรงตามความเป็นจริง คำนั้นทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ถ้าเป็นคำที่ถูกต้องและจริง สมควรไหมที่จะให้คนอื่นได้รู้ ได้เข้าใจถูกต้อง เพราะฉะนั้น ก็สมควรอย่างยิ่ง ที่จะต้องเริ่มเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าของพระธรรมและไม่ทอดทิ้ง ไม่ละเลยที่จะปล่อยให้มีการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยไม่มีการร่วมมือกันทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด สิ่งที่ทำได้ ก็คือ เผยแพร่สิ่งที่ถูกต้อง ให้คนอื่นได้เข้าใจอย่างถูกต้องทุกคำ จากความหวังดีของผู้ที่หวังดีที่จะให้เป็นกุศล ไม่ว่าเขาจะทำผิดด้วยประการใดก็ตาม แต่ถ้าได้ฟังแล้วคิดไตร่ตรองและทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่น ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งกับตนเองและคนอื่นด้วย
~ วันนี้ก็ฟังธรรม นาน เมื่อวานนี้ก็ฟังนาน ฟังมาก็นาน แต่ยังไม่เท่าความนานของการสะสมความไม่รู้ เพราะฉะนั้น คงไม่ต้องพูดถึงว่านานเท่าไร ก็ต้องเข้าใจไปเรื่อยๆ
~ เสพคุ้นกับคำที่มีค่าที่สุด ที่รู้ว่า นี่คือ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งคำอื่นไม่เหมือน คำอื่นไม่สามารถที่จะทำให้เราเกิดปัญญาได้ ไม่มีค่าเสมอเหมือนแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเราฟังมากขึ้นๆ แต่ละคำจะทำให้เราคิด ไตร่ตรอง เห็นค่า และไม่ประมาท
~ ความเห็นผิดที่แต่ละบุคคลมีมากๆ ถ้าไม่สะสมความเข้าใจถูกทีละเล็กทีละน้อยอย่างที่กำลังฟังอยู่ในขณะนี้ เป็นต้น มีทางไหมที่ความเห็นผิดนั้นจะลดน้อยลง? ไม่มีทาง
~ ถ้าเราชวนใครเขาฟังธรรม แล้วเขาไม่เห็นประโยชน์ เขาจะฟังไหม? ก็ไม่ฟัง นั่น คือกามุปาทาน (ยึดมั่นในกาม) เห็นว่า เกิดมาชาติหนึ่ง มีทรัพย์สมบัติ มีเงินมีทอง มีเกียรติยศ มีชื่อเสียง สนุกสนานก็พอแล้ว ก็ไม่มีความเห็นที่ว่าสมควรที่จะได้ฟังคำที่ไม่มีโอกาสที่จะได้ฟัง และคำนั้นเป็นคำของใคร แค่ชื่อว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่มีใครที่จะมีชื่ออย่างนี้ได้เลย แล้วคำของพระองค์ เขายังไม่ฟัง เพราะฉะนั้น อุปาทาน ความยึดมั่น มั่นคงแค่ไหน (ที่ทำให้ไม่ฟังพระธรรม)
~ ขณะนี้ เป็นขณะที่ประเสริฐ หายาก ได้มีเสียงที่กล่าวถึงคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ที่จะสามารถทำให้พิจารณาไตร่ตรอง ฟังแล้ว พิจารณาไตร่ตรองมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง
~ คงไม่ลืมว่า คนนี้ชาตินี้นั่นแหละ ทุกอย่างที่สะสมกุศลและอกุศลทั้งหลาย จะเป็นคนต่อไปในชาติหน้า เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีความเข้าใจอะไรเลย จากโลกนี้ไป ชาติหน้าจะเป็นอย่างไร ก็เหมือนชาติก่อนที่ไม่มีโอกาสได้เข้าใจธรรม
~ ฟังธรรมเพื่อเข้าใจ จะน้อยสักเท่าไหร่ ก็ขอให้ถูกต้อง ว่า เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ แต่ละคำ ไม่เร่งรัด ทันทีที่ฟังก็เข้าใจขึ้นๆ ทีละน้อยๆ
~ เป็นคนตรงหรือเปล่า ถูกคือถูก ผิดคือผิด หรือเปล่า? มิฉะนั้น จะไม่ได้สาระจากพระธรรม เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นคนที่ตรงแล้วก็รู้ว่า ความจริง เป็นสิ่งที่สมควรที่จะเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่ใช่หนีไปเพิกเฉยไม่สนใจซึ่งเป็นโทษอย่างยิ่ง ถ้าเข้าใจประโยชน์ของการที่จะได้รู้ความจริง จึงมีการสนทนาเพื่อที่จะได้รู้ว่า อะไรจริง ไม่ใช่ว่าให้เชื่อ แต่ให้พิจารณาไตร่ตรอง ว่า จริงหรือเปล่า
~ เป็นมิตรที่หวังดีจริงๆ ให้สิ่งที่ดีที่สุด คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เขาจะไม่ชอบ ก็ไม่เป็นไร แต่เราก็มีความหวังดี ถึงที่สุด แล้วแต่ว่ากาลไหน โอกาสไหน ก็ตามแต่ ก็พูดคำจริงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง คือ เปิดเผยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้คนได้พิจารณาไตร่ตรอง เพื่อประโยชน์ของเขาเอง ทั้งพระธรรมและพระวินัย.
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๔๐
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การสนทนาธรรมเป็นมงคล นำความเจริญ นำความเห็นถูก นำสภาพธรรมที่ดีงามมาสู่จิต
...ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ...
การสนทนาธรรม เป็นมงคล นำความเจริญ นำความเห็นถูก นำสภาพธรรมที่ดีงาม มาสู่จิตใจ
......กราบอนุโมทนาค่ะ........
ถ้าเป็นคำที่ถูกต้องและจริง สมควรไหมที่จะให้คนอื่นได้รู้ ได้เข้าใจถูกต้อง เพราะฉะนั้น ก็สมควรอย่างยิ่ง ที่จะต้องเริ่มเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าของพระธรรมและไม่ทอดทิ้ง ไม่ละเลยที่จะปล่อยให้มีการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยไม่มีการร่วมมือกันทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด สิ่งที่ทำได้ ก็คือ เผยแพร่สิ่งที่ถูกต้อง ให้คนอื่นได้เข้าใจอย่างถูกต้องทุกคำ จากความหวังดีของผู้ที่หวังดีที่จะให้เป็นกุศล ไม่ว่าเขาจะทำผิดด้วยประการใดก็ตาม แต่ถ้าได้ฟังแล้วคิดไตร่ตรองและทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่น ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งกับตนเองและคนอื่นด้วยน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ