พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เคยตรัสให้ใคร บน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อวันเสาร์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๑ หลังจากการสนทนาธรรมจบลง ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีโอกาสได้สนทนากับพระภิกษุดอน คงคาดิษฐ์ ที่เดินทางมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่บวชเพื่อแก้บนซึ่งไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของการบวช เพราะเรื่องบวชเป็นเรื่องอัธยาศัยใหญ่ ที่บุคคลผู้นั้นเห็นโทษเห็นภัยของกิเลส เห็นโทษเห็นภัยของการอยู่ครองเรือน อันเนื่องมาจากได้ฟังพระธรรม มีความเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง จึงสละทุกสิ่งทุกอย่างทั้งทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติ สละชีวิตคฤหัสถ์ทุกประการเพื่อดำรงเพศที่สูงยิ่ง คือ เพศบรรพชิต ที่จะประพฤติคล้อยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกประการ
ญาติๆ คือ พี่ชาย และ พี่สะใภ้ ที่ได้ฟังพระธรรม ติดตามรับชมและรับฟังรายการธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้เผยแพร่อยู่เป็นประจำ ก็มีความประสงค์ที่จะให้พระภิกษุดอนฯ ได้ฟังพระธรรม ได้เข้าใจความจริงบ้าง จึงได้พามาที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ในวันดังกล่าว
ท่านอาจารย์ได้สนทนาถึงความอันตรายของการล่วงละเมิดพระวินัย โทษของการอยู่ในเพศบรรพชิตที่ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ว่า หากมรณภาพไป ก็มีอบายภูมิเป็นที่ไปในเบื้องหน้าเท่านั้น ไม่ว่าจะล่วงละเมิดพระวินัยข้อใดก็ตาม ถ้าไม่แก้ไข ไม่กระทำคืนให้ถูกต้อง ก็เป็นผู้มีอาบัติเป็นเครื่องกั้นการเกิดในสุคติภูมิ กั้นการบรรลุมรรคผล เพราะฉะนั้น ชาติหน้า เกิดในอบายภูมิเท่านั้น เกิดในสุคติภูมิ ไม่ได้เลย
แม้แต่การเชื่อเรื่อง "บน" ก็แสดงว่าผู้นั้น ไม่ได้มีความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย ด้วย
พระภิกษุดอนฯ ได้ยินได้ฟังพิจารณาไตร่ตรองในเหตุในผล เลยตัดสินใจลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์ ไม่เป็นพระภิกษุอีกต่อไป เพราะเห็นว่า อันตรายอย่างยิ่งที่ไม่ได้ประพฤติตามพระธรรมวินัย และมีอาบัติมากมายที่ล่วงละเมิด ซึ่งเมื่อได้ลาสิกขาไปเป็นคฤหัสถ์แล้ว ก็ไม่มีอาบัติติดตัว พราะไม่ได้เป็นพระภิกษุแล้ว เป็นผู้ที่ปลอดโปร่งโล่งใจ สามารถที่จะเป็นคฤหัสถ์ที่ดี ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ในเพศคฤหัสถ์ ได้
เนื้อหาการสนทนาเรื่อง "บน" เป็นประโยชน์เกื้อกูลอย่างยิ่ง จึงขอโอกาสถอดคำสนทนาเพื่อจะได้ศึกษา - ทบทวน เพื่อความเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง มั่นคงในเหตุในผล ต่อไปดังนี้
* * มีความเข้าใจเรื่อง "บน" ว่าอย่างไร เป็นไปได้ไหม? หรือว่าเป็นความคิดเอง ถ้าหากบนได้ ทุกอย่างต้องดีหมด เพราะทุกคนก็บนไป แต่ว่า บน คืออะไร คือ ความเห็นผิดใช่ไหม? ไม่เชื่อในกรรมของตน กรรมดี ต้องทำให้ได้รับผลที่ดี ทำให้เกิดผลที่ดี กรรมไม่ดี ถึงจะบนสักเท่าไหร่ ผลก็ต้องไม่ดี แม้แต่เราเกิดมาก็ตามกรรม ต่างคนก็ต่างเป็นไปตามกรรม ครอบครัวไหน อย่างไร ชีวิตดำเนินไปอย่างไรก็ต้องตามกรรม ใครจะเอากรรมของคนอื่นมาให้เราได้ หรือกรรมของเราจะให้หมดไปเพราะคนอื่นมาทำให้หมดไปได้หรือ? นั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลเลย เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) เพื่อให้คนรู้ความจริง ซึ่งประเพณีต่างๆ ในสมัยนั้นก็คิดกันเอง เชื่อกันเอง แต่ไม่ใช่ความถูกต้อง เพราะฉะนั้น คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้เราพิจารณาไตร่ตรองว่า ความผิดถูกคืออย่างไร ถ้ายังเชื่อเรื่อง "บน" อยู่ ก็คือ ไม่เชื่อเรื่องกรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องกรรม ใครทำกรรมอย่างไร ก็ต้องได้รับผลของกรรมอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าให้บนกับพระองค์แล้วจะได้อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ใช่เลย เพราะกรรมของท่าน (กุศลกรรมให้ผล) จึงทำให้ท่านไปโรงพยาบาล รักษาได้ หาย แต่ถ้าเป็นอกุศลกรรม (ให้ผล) ก็ไม่หาย บนสักเท่าไหร่ ก็ไม่หาย เขาก็บนมาตั้งเยอะแยะ เขาก็ตายกันไปตั้งเยอะ เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่มั่นคงในเหตุผล เพราะว่า ถ้าเบื้องต้นไม่มี ที่จะไตร่ตรองว่าเหตุคืออย่างไร ผลคืออย่างไร ต่อไปก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เข้าใจได้ถูกต้อง เพราะเริ่มไม่ถูกต้องแม้แต่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มองไม่เห็นเหตุผล ที่ข้างหน้ายังอีกไกลมากที่จะต้องเป็นผู้ที่รอบคอบละเอียด ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไตร่ตรอง แล้วรู้ว่า คำจริงนั้นเป็นประโยชน์ทุกกาลสมัย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยตรัสให้ใคร "บน" แล้วเราจะไป "บน" พระพุทธเจ้าได้อย่างไร แค่ "บน" ก็ไม่ถูกแล้ว แต่คำของพระองค์ทุกคำ เป็นคำจริงซึ่งลึกซึ้งยิ่งกว่านี้อีก เพราะฉะนั้น ต้องตั้งต้นด้วยความเป็นผู้ที่มีเหตุผล ในความถูก ความผิด และเป็นผู้ที่ละเอียดด้วย แค่นี้ก็เห็นชัดๆ ว่า "บน" ได้หรือ? บน เพราะไม่รู้ต่างหาก ถ้าเราทำดีแล้ว ไม่ต้อง"บน" ก็ได้ใช่ไหม? ถ้ามีกรรมที่ทำไว้ดี อย่างไรก็ต้องได้รับผลที่ดีใช่ไหม ใครจะมาทำกรรมแทนใครได้ พระธรรมลึกซึ้งยิ่งกว่านี้ เพราะฉะนั้น ก็ต้องตั้งต้นด้วยความเป็นผู้ที่รู้ว่า อะไร ถูก อะไรผิด แล้วเป็นผู้ที่ตรง และจริงใจที่จะเข้าใจให้ถูกต้องต่อไป.
ขอเชิญคลิกฟังเสียงสนทนาได้ที่นี่ครับ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ตรัสให้ใคร บน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง