ตระหนี่ สะสมเป็นอาสยะ ไม่เป็นอนุสัย
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อาสยะ เป็นการสะสมของกุศล และอกุศลในจิตทุกขณะสืบต่อกัน เพราะเมื่อเป็นกุศลและอกุศลดับไปก็จะทำให้การเกิดขึ้นนั้นเองเมื่อดับไปแล้วก็ยังมีปัจจัยสืบต่อที่จะทำให้กุศลหรืออกุศลนั้นๆ เกิดอีกตราบใดที่อกุศลยังไม่ดับหมดสิ้น ชีวิตจริงๆ เป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นจึงมีคำว่า อนุสัยแสดงให้เห็นถึงสภาพธรรมที่เป็นปัจจัยที่จะทำให้ สังสารวัฏฏ์เกิดสืบต่อไม่สิ้นสุดจนกว่าจะดับอนุสัย
การสะสมทั้งกุศลและอกุศลก็อยู่ในจิตขณะต่อไป ทีละหนึ่งขณะ บางคนตระหนี่สะสมต่อไปอีก ตระหนี่ก็มากขึ้นเป็นอาสยะ แต่ไม่ใช่ เป็นอนุสัย เพราะฉะนั้นเวลาเกิดความตระหนี่ขึ้นซึ่งเป็นอกุศลก็สะสมเป็นอุปนิสัยจะเห็นว่า บางคนก็ตระหนี่มาก ถ้าเป็นผู้ที่ได้สะสมความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้รู้ว่าจะเก็บไว้ทำไมกับสิ่งที่ไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์กับใครเลยแม้แต่กับตนเอง แต่ว่าถ้าไม่ตระหนี่ แล้วสามารถให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้ ขณะนั้นก็จะค่อยๆ คลายความตระหนี่ ก็แล้วแต่กำลังของปัญญาที่สะสม จะทำให้มีการคิดนึก มีการกระทำที่เป็นกุศล อกุศลต่างกันไปอีกในแต่ละชาติ แต่ให้ทราบความต่างกันของ อาสยะกับอนุสัย เพราะเหตุว่า สำหรับ อาสยะสะสมทั้งกุศลและอกุศลทั้งหมด ความตระหนี่ความริษยา ก็เป็นอาสยะ แต่ไม่เป็นอนุสัย ด้วยเหตุนี้จึงต้องทราบว่า ทำไมจึงทรงแสดง อาสยานุสยผญาณ ทั้งสองอย่าง.
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มได้ที่...
กัมมัฏฐานไม่ถูกอัธยาศัย [คาถาธรรมบท]
ขอเชิญคลิกฟังซีดีได้ที่....
..กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ..