หนทางที่จะละโลภะ [อัปปิจฉกถา]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การสะสมแต่ละภพ แต่ละชาติมีการสะสมความไม่รู้มากมายมากกว่าความรู้ จึงต้องเป็นผู้ตรง ศึกษาธรรมขณะนี้ค่อยๆ สะสมพื้นฐานของปัญญาที่มีศรัทธาที่จะได้ยินได้ฟัง สะสมความเห็นถูกเป็นพื้นฐานในจิตใจ ชาตินี้จะหวังอะไรหรือเปล่าจากการฟังธรรม หรือว่าเพียงเมื่อฟังก็ได้รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ฟังสักเท่าไรว่าเป็นธรรม แต่ขณะนี้ก็ยังเป็นเรา เพราะฉะนั้นเมื่อฟังแล้วเข้าใจเพิ่มขึ้น ก็จะรู้ตามความเป็นจริงว่า จริงๆ แล้ว ไม่มีเรา นี่คือความมั่นคงของการที่เริ่มเข้าใจถูก แต่ยังไม่ประจักษ์ความไม่ใช่เรา ด้วยเหตุนี้ ถ้าเป็นผู้ตรงต่อปัญญาที่จะเข้าใจสิ่งที่ปรากฏ ก็จะไม่ข้าม แม้ขณะที่ฟังก็ไม่หวังอะไร แต่ก่อนเคยหวัง บางคนก็อาจหวังเล็กๆ น้อยๆ จนกระทั่งถึง นามรูปปริจเฉทญาณก็พอ ความหวังไม่ได้หวังเพียงเข้าใจธรรมที่กำลังได้ยินได้ฟังเพิ่มขึ้น แค่เข้าใจให้เพิ่มขึ้น นี่เป็นหนทางละความหวัง ซึ่งความหวังเป็นโลภะติดแน่นมานานแสนนานแล้ว ไม่มีอะไรจะละได้เลยนอกจากปัญญา ถ้าปัญญายังไม่ถึงระดับที่จะ ละ ใครก็ห้ามความหวังไม่ได้ เดี๋ยวก็หวัง ไม่หวังถึงนั่น ก็หวังแค่นี้ หรือหวังลดลงจาก นามรูปปริจเฉทญาณก็หวังสติปัฏฐานมากๆ ในวันหนึ่งๆ ก็ค่อยๆ ลดไปเรื่อยๆ แต่ยิ่งฟังยิ่งรู้ว่า ไม่ใช่สิ่งที่จะพึงหวังได้ แต่เป็นสิ่งที่ค่อยๆ เข้าใจ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 216
๙. ปฐมวัตถุกถาสูตร ว่าด้วยกถาวัตถุ ๑๐ ประการ
[๖๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ภิกษุเป็นอันมากกลับจากบิณฑบาตภายหลังภัต นั่งประชุมกันที่หอฉัน สนทนาดิรัจฉานกถาเป็นอันมาก คือ สนทนาเรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอำมาตย์ เรื่องกองทัพ เรื่องภัย เรื่องการรบ เรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องผ้า เรื่องที่นอน เรื่องดอกไม้ เรื่องของหอม เรื่องญาติ ...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การที่เธอทั้งหลายสนทนากันถึงดิรัจฉานกถาเป็นอันมาก คือ สนทนาเรื่องพระราชา เรื่องโจร ฯลฯ เรื่องความเจริญและความเสื่อมนี้ ไม่สมควรแก่เธอทั้งหลายผู้เป็นกุลบุตรออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธาเลย. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉนคือ อัปปิจฉกถา ๑ สันตุฏฐิกถา ๑ ปวิเวกกถา ๑ อสังสัคคกถา ๑ วิริยารัมภกถา ๑ สีลกถา ๑ สมาธิกถา ๑ ปัญญากถา ๑ วิมุตติกถา ๑ วิมุตติญาณ-ทัสสนกถา ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ ๑๐ ประการนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากว่าเธอทั้งหลายยึดถือเอากถาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้แล้วกล่าวเป็นกถาไซร้ เธอทั้งหลายพึงครอบงำเดช แม้ของพระจันทร์และพระอาทิตย์ผู้มีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้ด้วยเดชได้ จะป่วยกล่าวไปไยถึงปริพาชกอัญญเดียรถีย์ทั้งหลายเล่า.
จบสูตรที่ ๙
...
ขณะที่กำลังสะสมความเข้าใจ ขณะนั้นเป็นหนทางที่จะละ โลภะ อัปปิจฉกาถา กถาวัตถุ ๑๐ เรื่องที่ควรแก่การสนทนากัน หมายถึง ถ้อยคำ คำพูดที่เป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลส เป็นไปเพื่อละความติดข้อง ชีวิตประจำวันเราเกิดมาเราสนทนาเรื่องต่างๆ มากมาย แต่เรื่องการสนทนาเพื่อการละความติดข้อง กำลังฟังเพื่อละความหวัง เพราะว่าถ้ายังมี อวิชชา มีความติดข้อง ก็จะพ้นจากทุกข์ไม่ได้ มีหนทางเดียวคือ ความเข้าใจธรรม หนทางเดียวจริงๆ ที่เริ่มที่จะละความติดข้องเพราะมีความเข้าใจถูกต้องว่า ไม่มีเรา แต่กว่าจะถึงขณะนั้นก็ต้องสะสมความเห็นถูกที่ตรงจริงๆ กับทุกคำทีาทรงแสดงไว้.
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
..กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ..