ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๐๑

 
khampan.a
วันที่  28 เม.ย. 2562
หมายเลข  30807
อ่าน  1,878

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๐๑



~ บุคคลผู้ที่มีพระมหากรุณากว่าคนอื่นทั้งหมด ก็คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าสัตว์โลกมีความไม่รู้ มีความเห็นผิด เข้าใจผิดในธรรม เพราะฉะนั้น จึงทรงพระมหากรุณาแสดงพระธรรม เห็นได้เลยว่า พระธรรมมีประโยชน์ เมื่อมีความเข้าใจแล้วนำมาซึ่งสิ่งที่เป็นกุศลเพิ่มขึ้น ทั้งกาย วาจา และใจ

~ ประโยชน์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมคือทรงเห็นว่าสัตว์โลกไม่รู้ เพราะฉะนั้น ด้วยพระมหากรุณาที่จะให้เขาเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีค่าที่สุดประเสริฐที่สุด คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงทรงพระมหากรุณาแสดงพระธรรม แม้ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ไกลแสนไกล ก็เพื่อให้เขาได้ฟัง ทรงอนุเคราะห์ เพราะเหตุว่า ในสังสารวัฏฏ์ที่แล้วมาและในอนาคตไม่มีวันจบสิ้น ถ้าไม่มีการรู้ว่าอะไรเป็นปัจจัยที่จะทำให้ความไม่รู้หมดไป เพราะเกิดมาด้วยความไม่รู้แล้วก็ยังไม่รู้ ก็จะต้องมีปัจจัยที่จะทำให้เกิดต่อไป


~ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนยังมีโลภะ โทสะ โมหะ มีกิเลสทุกอย่างครบ เมื่อยังไม่ได้ดับเป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด) และก็มีโอกาสของอกุศลที่จะเกิดบ่อยมาก เพราะฉะนั้น อกุศลทั้งหลายค่อยๆ เกิด ค่อยๆ สะสม ค่อยๆ มีกำลังเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น ถ้าผู้ใดที่เคยมีศรัทธาแล้ว แล้วก็รู้ว่า ศรัทธาอ่อนลง ก็จะต้องรู้หนทางว่า ถ้ายังไม่คบหาสมาคมกับพระธรรมเหมือนเดิม อกุศลทั้งหลายมีกำลังเพิ่มขึ้น เพราะเหตุว่าเปิดโอกาสให้อกุศลมีกำลัง


~ ถ้าเป็นอกุศลแล้ว ต้องกล้าออกจากอกุศลอย่างเร็วที่สุดด้วยความไม่ประมาท เพราะว่า ถ้าช้า ก็จะทำให้ออกจากอกุศลนั้นยากขึ้น จนในที่สุดก็อาจจะสายเกินไปที่จะออกจากอกุศลนั้นได้ และอาจจะเป็นอย่างนี้ทุกๆ ชาติ

~ ทุกขณะเป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคล ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น) ไม่มีอะไรเลยที่ไม่ใช่อนัตตา เห็นก็เป็นอนัตตา ได้ยินก็เป็นอนัตตา คิดนึกก็เป็นอนัตตา สติก็เป็นอนัตตา ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา แต่ไม่รู้ว่าเป็นอนัตตา จึงยึดถือว่าเป็นเรา

~ ถ้าไม่ได้ระลึกเลยว่า “ความตายใกล้ที่สุด อาจจะเกิดขึ้นขณะหนึ่งขณะใด ได้ทั้งนั้น” วันหนึ่งๆ ก็ผ่านไปโดยที่ไม่ได้อบรมเจริญกุศลให้ยิ่งขึ้น เป็นผู้ประมาทมัวเมา และเป็นการมีชีวิตอยู่ที่ในโลกนี้ อย่างไม่มีประโยชน์ ไม่มีสาระจริงๆ เพราะไม่ได้ถือเอาสิ่งที่เป็นสาระ คือ กุศลประการต่างๆ พร้อมด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจ จากการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

~ เพียงแค่เห็นหน้า ก็ยังโกรธ แล้วถ้ามีมากกว่าการเห็นหน้า จะเป็นอย่างไร แย่แน่ๆ เลย จะไม่หนักกว่านี้หรือ? อกุศล ไม่เคยนำประโยชน์มาให้ใครเลยทั้งสิ้น ไม่มีใครเคยได้รับประโยชน์จากการโกรธ แม้แต่คนเดียว

~ น่าโกรธไหมคนอื่น ลองคิดดู? เป็นกรรมของเราเองหรือเปล่า ที่ต้องเห็น ต้องได้ยิน ต้องได้กลิ่น ต้องลิ้มรส ต้องรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ที่ไม่น่าพอใจ อย่าคิดว่าจากคนอื่น

~ ถ้ามีความเป็นเพื่อน ไม่เดือดร้อนเลยสักขณะเดียว ไม่ว่าจะเป็นตรงไหน ที่ไหน เราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนใจใครได้ แต่ใจของเราที่ไม่เป็นศัตรูไม่คิดร้ายต่อใคร ขณะนั้นเราจะไม่มีศัตรูเลย เพราะว่าเราไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

~ มงคล คือเหตุแห่งความเจริญ ไม่ได้อยู่ที่ชื่อ ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ ไม่ได้อยู่ที่วันเวลา แต่อยู่ที่สภาพจิตที่เป็นกุศลและมีการกระทำทางกาย ทางวาจาที่ดีงาม ของแต่ละบุคคล

~ เกิดมาแล้วจะทำอะไรดี ระหว่าง ดี กับ ชั่ว? เมื่อเป็นคนดีแล้ว แต่ยังไม่รู้อะไร จึงศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ นี้คือที่มาของ "ทำดีและศึกษาพระธรรม" ซึ่งจะทำให้ชีวิตเป็นชีวิตที่คุ้มค่ากับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

~ เมื่อความดี มี ประเทศชาติจะไปในทางต่ำหรือในทางเสื่อมทรามไม่ได้ ถ้าทุกคนเป็นคนดี

~ ถ้าเข้าใจธรรมแล้ว เราก็จะเห็นประโยชน์มหาศาลที่เกิดมาแล้วก็ตายไป ก่อนตาย มีโอกาสได้เข้าใกล้พระธรรม ได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากความเข้าใจธรรมซึ่งเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะฉะนั้น อะไรคงไม่มีค่าที่จะทำให้เราต้องกลายเป็นคนที่ไม่กล้าที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสิ่งซึ่งไม่ควรที่จะให้ถูกทำลายไปด้วยความไม่รู้

~ เห็นค่าของพระรัตนตรัย เพราะว่า เป็นที่พึ่งจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะชาตินี้ชาติเดียว แต่ทุกชาติ เราไม่มีทางที่จะเข้าใจถูกได้ด้วยตนเอง แต่ว่าเมื่อมีผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้แล้วก็ทรงมีพระมหากรุณาแสดงความจริง และเมื่อมีโอกาสที่จะได้เข้าใจความจริงในชาตินี้ นั่น ย่อมเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ซึ่งทุกคน ก็ไม่รู้ว่าจะมีเวลาอีกนานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ทุกขณะที่ได้เข้าใจธรรม เป็นขณะที่มีค่าที่สุด เพราะเหตุว่า ถ้าเข้าใจจริงๆ ก็จะรู้ว่า ไม่มีอะไรเลย นอกจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่เหลือ

~ ฟังพระธรรมด้วยความเคารพที่จะไตร่ตรองจนกระทั่งได้ประโยชน์ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ให้บุคคลอื่นได้รู้ตาม เพราะฉะนั้น ความเข้าใจถูกสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไรทั้งสิ้น ถ้าไม่มีความเข้าใจ ไม่มีเหตุผลที่ถูกต้อง สมควรไหม?

~ ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง เริ่มเข้าใจ ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมที่ไหน เดี๋ยวนี้ก็มี แต่ละคำที่ได้ฟังแล้ว ต้องไตร่ตรองเพิ่มขึ้น ละเอียดขึ้น ธรรมคือสิ่งที่มีจริง แสดงว่า ต้องมีจริงทุกหนทุกแห่ง อะไรที่มีจริง เป็นธรรมทั้งหมด

~ ความเห็นถูก แม้เพียงเริ่ม วันหนึ่งจะเพิ่มขึ้นมากไหม ถ้าเห็นคุณประโยชน์อย่างยิ่งว่า เพราะความเห็นถูกเท่านั้นที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างละจากสิ่งที่ไม่ดีได้ ถ้าไม่มีความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ยังเห็นว่า กิเลส ดี มีเงินมากๆ ดี ทุจริตก็ไม่เห็นเป็นไร แล้วอย่างนี้จะแก้ไขอะไรได้ เพราะฉะนั้น ก็เริ่มต้นจากแต่ละหนึ่งคน (ที่มีความเห็นที่ถูกต้อง) เมื่อรวมกัน ก็มากขึ้น

~ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน วัด หรือ ราชการ ก็คือแต่ละหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีความเข้าใจถูกก็สามารถที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิด และต้องมีความจริงใจ ว่า จะแก้ไหม ถ้ารู้ว่าผิด จะแก้ไหม จริงๆ ก็คือ ไม่ใช่เขาคนนั้นที่คิด แต่ต้องเป็นปัญญา ว่า มีกำลังความเข้าใจที่ถูกต้องแค่ไหน ถ้ามีน้อยก็ไม่อยากจะแก้ แต่ถ้ามีมากจริงๆ เข้าใจพระธรรมจริงๆ ไม่มีอะไรจะมากั้นความหวังดีหรือความตั้งใจจริงซึ่งเป็นประโยชน์ ไม่ใช่กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังกับคนอื่น ทั้งประเทศ ทั้งโลก

~ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งของผู้ที่เกิดมาที่อยู่ในสังสารวัฏฏ์

~ ธรรมทั้งหมดเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เมื่อมีปัญญาแล้ว กาย วาจาของเราจะดีขึ้น คนที่เคยพูดคำที่ไม่น่าฟัง แต่พอเข้าใจในความเป็นเพื่อน และคิดถึงว่า คนอื่นก็ไม่อยากได้ยินคำอย่างนี้ จะหยุด แม้ว่ากำลังจะกล่าวคำที่ไม่น่าฟัง นี่คือความเมตตา คือความเป็นเพื่อน ทุกกรณี ทุกสถานการณ์

~ สัตว์โลกเดี๋ยวก็เสื่อมลาภ เดี๋ยวก็ได้ลาภ ใครนำมาให้ อาจจะคิดว่าคนอื่นนำมาให้ แต่จริงๆ แล้ว กรรมของตนที่ได้กระทำแล้วนำมา มากน้อยตามปัจจัยที่ได้สะสมมาทั้งสิ้น

~ กัลยาณปุถุชน คือ คนที่มีคุณความดีที่ได้ศึกษาพระธรรมแล้วรู้ว่า อะไรดี อะไรชั่ว ปัญญาที่เข้าใจพระธรรมก็จะนำพาชีวิตไปในทางที่เป็นประโยชน์ แล้วค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ จนกว่าความรู้จะเพิ่มขึ้น

~ อกุศลแม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นอกุศล สิ่งที่ไม่ดี แม้เพียงเล็กน้อย ก็ไม่ดี ไฟแม้เล็กน้อย ก็ร้อน เกลือแม้เล็กน้อย ก็เค็ม สิ่งที่ไม่สะอาด แม้เล็กน้อย ก็เป็นสิ่งที่ไม่สะอาด

~ ต้องตายแน่ อาจจะเป็นเดี๋ยวนี้ วันนี้ พรุ่งนี้ หรือ วันไหนๆ ก็ได้ เตรียมตัวตาย ก็คือ เดี๋ยวนี้ทำดี ต้องเดี๋ยวนี้ด้วย เพราะมิฉะนั้นแล้วก็จะมีแต่อกุศลเกิดพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้ากุศลไม่เกิด อกุศลก็เกิด สรุปแล้ว เตรียมตัวตาย คือ ทำดีทุกโอกาส

~ ณ บัดนี้ ก็พิสูจน์แล้วว่า เพราะไม่เข้าใจพระพุทธศาสนา จึงได้เกิดปัญหาคอรัปชั่นทุกวงการ แม้แต่วงการพระภิกษุเพราะฉะนั้น จะเอาใครมาแก้ นอกจากความเข้าใจธรรม

~ กิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) จะพาไปสู่กิเลส แต่ปัญญาจะพาออกจากกิเลส เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีปัญญาแล้ว อะไรๆ ก็ไม่สามารถที่จะนำออกจากกิเลสได้ ด้วยเหตุนี้ กิเลสจะแก้กิเลส เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องเป็นธรรมฝ่ายดี โดยเฉพาะ คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องขึ้น.

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ


ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๐๐

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มกร
วันที่ 28 เม.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
kukeart
วันที่ 28 เม.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 28 เม.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
p.methanawingmai
วันที่ 29 เม.ย. 2562

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jaturong
วันที่ 29 เม.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
siraya
วันที่ 29 เม.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peem
วันที่ 29 เม.ย. 2562

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
panasda
วันที่ 1 พ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
มังกรทอง
วันที่ 20 พ.ย. 2564

น่าโกรธไหมคนอื่น ลองคิดดู? เป็นกรรมของเราเองหรือเปล่า ที่ต้องเห็น ต้องได้ยิน ต้องได้กลิ่น ต้องลิ้มรส ต้องรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ที่ไม่น่าพอใจ อย่าคิดว่าจากคนอื่น น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ