สติสัมปชัญญะ
กราบเรียนสอบถามท่านอาจารย์ครับ ท่านอาจารย์กล่าวว่า
เมื่อเห็นหรือได้ยินสิ่งใดแล้ว ก็รู้สภาพของเห็น ได้ยินเกิดขึ้น รู้ว่าไม่ใช่ตัวตน เป็นสติสัมปชัญญะ ประจักษ์แจ้งถึงสภาพของปรมัตถ์ เป็นปัญญาเกิดสะสม แทนที่จะเห็ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-เมื่อกล่าวถึงคำอะไร ก็ต้องมีความเข้าใจในคำนั้นๆ ให้ชัดเจนจริงๆ ก่อนอื่นก็ต้องกล่าวถึง สติ กับ สัมปชัญญะ ต่างก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป เป็นนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม สติ เป็นสภาพธรรมที่ระลึกเป็นไปในกุศล เกิดร่วมกับจิตที่ดีงามทุกประเภทไม่มีเว้น ส่วนสัมปชัญญะ เป็นอีกชื่อหนึ่งของปัญญา เป็นความไม่หลง เป็นความรู้ถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง (ปัญญาเจตสิก)
สติสัมปชัญญะ มักจะเป็นคำที่ใช้คู่กัน โดยจะใช้ในเรื่องของการอบรมเจริญภาวนา ๒ อย่าง คือ การอบรมเจริญความสงบของจิต ที่เป็นสมถภาวนา และ การอบรมปัญญาที่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ที่เป็นวิปัสสนาภาวนา หรือ สติปัฏฐาน เพราะตามความเป็นจริงแล้ว สติเกิด โดยไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยก็ได้ แต่เมื่อสัมปชัญญะเกิดก็จะต้องมีสติเกิดร่วมด้วยเสมอ
ขณะนี้มีสภาพธรรมที่มีจริงเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด เมื่ออาศัยเหตุที่สำคัญ คือ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก ก็จะเริ่มเข้าใจความเป็นจริงของสภาพธรรมยิ่งขึ้นว่า ทุกขณะมีแต่ธรรมเท่านั้น ไม่มีเราแทรกอยู่ในสภาพธรรมเหล่านั้นเลย เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็ย่อมจะเป็นปัจจัยให้สติสัมปชัญญะเกิดขึ้นได้โดยที่สติทำกิจระลึกที่ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริง และปัญญาทำกิจรู้ตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยจริงๆ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น สติเป็นสติ ไม่ใช่ปัญญา ปัญญาเป็นปัญญา ไม่ใช่สติ
ซึ่งขณะที่สติปัฏฐานเกิดหรือสติสัมปชัญญะ เกิดที่ชวนจิต 7 ขณะ เพราะ สติปัฏฐาน หรือ สติสัมปชัญญะ เป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา เพราะฉะนั้นจึงเกิดที่วิถีจิตที่เป็นชวนจิต ครับ ซึ่งกว่าจะถึงสติปัฏฐานเป็นเรื่องที่ไกล เพราะฉะนั้นเริ่มจากการฟังให้เข้าใจว่าเป็นธรรมก่อนเป็นสำคัญ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ ครับ
สัมปชัญญะ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...