สนทนาปัญหาสารพัน : อาจารย์สุจินต์ เป็น คริสต์หรือ?
อาจารย์สุจินต์ เป็น คริสต์หรือ?
คำถามนี้ สำหรับผู้ที่รู้จักท่านอาจารย์แบบผิวเผิน อาจจะรู้สึกสงสัยและอาจอยากรู้คำตอบ แต่สำหรับผู้ที่ศึกษาและเข้าใจพระอภิธรรมแล้ว ย่อมจะรู้สึกว่าเป็นคำถามที่น่าขัน เพราะเหตุว่า สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงต้นๆ ของประวัติศาสตร์การศึกษาพระอภิธรรมที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ราวปีพุทธศักราช ๒๔๙๔ เป็นต้นมานั้น ทั้งพระภิกษุและฆราวาสที่ศึกษาพระอภิธรรมย่อมรู้ดีว่า หากสนใจที่จะศึกษาและเข้าใจพระอภิธรรมแล้ว ชื่อของอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ย่อมเป็นชื่อที่ทั้งพระภิกษุและฆราวาสแนะนำให้มาศึกษากับท่าน เพราะเหตุว่า นอกจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จะได้เริ่มต้นเรียนพระอภิธรรม ที่พุทธสมาคมเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๖ กับ อาจารย์แนบ มหานีรานนท์ อาจารย์บุญมี เมธางกูร คุณพระชาญบรรณกิจ คุณหญิงระเบียบ สุนทรลิขิต แล้ว (คลิกอ่าน...ประวัติ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์) ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปีที่ผ่านมา การที่ท่านอาจารย์ได้อุทิศชีวิตทั้งหมดของท่าน พากเพียรบรรยาย เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจพระธรรมคำสอนจากการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎก ด้วยความถูกต้องและซื่อตรงอย่างยิ่ง ยากที่จะหาผู้ที่มีความเข้าใจความลึกซึ้งของพระไตรปิฎกทั้งสามปิฎก ซึ่งต้องมีความเข้าใจที่สอดคล้องต้องกัน ไม่ขัดแย้งกัน ทั้งสามารถอธิบายขยายความให้ผู้อื่นได้เข้าใจอย่างถูกต้องในความลึกซึ้งได้ด้วยนั้น ย่อมจะเป็นสิ่งที่ท่านผู้รู้ทั้งหลายไม่อาจมีข้อกังขาใดๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติก็ตาม (คลิกอ่าน...อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้เสียสละและทุ่มเทเวลาให้กับศาสนาจนหมดใจ) และประการสำคัญที่สุด คือ สิ่งที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ย้ำให้ทุกท่านที่มาศึกษา ได้เข้าใจถึงว่าธรรมหรือพระอภิธรรม ที่ทุกคนสนใจศึกษานั้น มิได้อยู่ในหนังสือ มิได้อยู่ในตำรา หากแต่กำลังมี กำลังปรากฏอยู่เฉพาะหน้าให้ได้ศึกษา ในทุกๆ ขณะนี้เอง และเมื่อได้ศึกษาเข้าใจ ย่อมรู้ว่า ทุกขณะนี้ของชีวิต เป็นแต่เพียงธรรมะแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วดับไป เท่านั้น หามีสัตว์ บุคคล ตัวตนใดจริงๆ ไม่ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญและลึกซึ้งอย่างยิ่ง ของคำสอนในพระพุทธศาสนา
อย่างไรก็ดี การที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้เพียรพยายามเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องพระธรรมวินัยโดยต่อเนื่องมาตลอดในระยะนี้ เฉพาะอย่างยิ่ง วิกฤตพระพุทธศาสนาอันมีสาเหตุหลักมาจากการประพฤติผิดพระธรรมวินัย จากการรับเงินรับทองของพระภิกษุ ทั้งๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติห้ามไว้ ซึ่งย่อมเป็นสาเหตุหลักให้ผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์ โจมตี ใส่ร้าย ป้ายสี นานาประการ มาโดยต่อเนื่อง แม้ท่านและมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาจะไม่ใส่ใจหรือให้ความสำคัญในการใส่ร้ายป้ายสีดังกล่าว เพราะเห็นว่า ขณะนี้ ความเห็นผิด การประพฤติปฏิบัติที่ผิดไปจากพระธรรมคำสอนได้ถูกเผยแพร่ขยายไปทั่วโลก เป็นวิกฤตของพระพุทธศาสนาที่ผู้ที่ได้ศึกษาเข้าใจแล้ว ควรใช้เวลาที่มีค่านี้ เป็นไปกับการใส่ใจร่วมแรงร่วมใจกัน เร่งรณรงค์ให้สาธารณชนชาวพุทธได้ทราบและมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งมีความตื่นตัวในการที่จะศึกษาพระธรรมและพระวินัยให้เข้าใจถูกต้องให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ ในทุกวิถีทาง ในทุกช่องทาง เท่าที่จะสามารถกระทำได้ จึงจะเป็นการดำรงรักษาพระศาสนาที่ถูกต้อง หาไม่แล้ว พระพุทธศาสนาที่บุคคลหมู่มากในสังคมปัจจุบันเข้าใจผิดคิดว่าพระพุทธศาสนากำลังรุ่งเรืองนั้น ก็จะถึงกาลอันตรธาน ล่มสลาย เร็วกว่าที่ใครๆ จะคาดคิด เพราะความเห็นผิดและความไม่รู้ที่มีมากมายมหาศาล ยากยิ่งที่จะเยียวยาแก้ไขในปัจจุบัน แม้จะมีผู้รู้เปรียบเปรยว่า การจะแก้ไขความเห็นผิดที่มีมากมายมหาศาลดังกล่าวนั้น ยากเหมือนการจะพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน เลยก็ตาม
แต่ด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์ที่เห็นว่า หากปล่อยไว้ให้เป็นเช่นนี้ต่อไปโดยไม่สละเวลาชี้แจงเผยแพร่บ้าง ย่อมจะทำให้ผู้ที่กล่าวหากำเริบได้ใจ ทั้งจะก่อให้เกิดอกุศลจิต จากความเข้าใจผิดในใจของผู้ที่ไม่รู้เหล่านั้น ท่านจึงเมตตาให้ทำบันทึกรายการ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจความจริง ได้เข้าใจถูกต้อง เพราะความเห็นผิด เข้าใจผิด ย่อมเป็นโทษแก่บุคคลนั้นเอง หาได้ทำร้าย ทำอันตรายใดๆ แก่ตัวท่านและมูลนิธิฯ ไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเลย และเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่ง (ขอเชิญคลิกชมและฟัง...กล่าวคำจริงเพื่อประโยชน์เกื้อกูล) และขอเชิญชมและฟังการสนทนาดังกล่าว โดยคลิกที่ลิงค์ด้านล่างนี้...
(จากรายการสนทนาปัญหาสารพัน บันทึกเทปเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ณ บ้านพักของคุณจรียา พุกกะมาน สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ ๓๗๓๗)
ขอเชิญอ่านข้อความบางตอนจากการสนทนา :
ผศ.อรรณพ มีบางเรื่อง ที่พี่แดงคุยกับผมนอกรอบว่า อยากจะกราบเรียนท่านอาจารย์ให้ชัดเจน ในเรื่องที่คนคิดว่าท่านอาจารย์เป็นศาสนาอื่น อะไรอย่างนี้
พลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง คือเมื่อสองอาทิตย์ก่อนก็ไปงานเลี้ยงรุ่น ก็เอาหนังสือธรรมะของมูลนิธิฯ ไปแจกเพื่อนด้วย พอเขาเห็นหนังสือ เขาถามว่า พี่แดงคงไม่ได้ฟังอาจารย์สุจินต์นะ ก็ถามว่าทำไมหรือ? พูดแบบเขาพูดนะคะว่า ก็แกเป็นคริสต์ อ้าว ทำไมว่าอย่างนั้นล่ะ? ก็ในประวัติเห็นเขียนว่าเรียนในโรงเรียนคริสต์ (คลิกอ่าน...ประวัติ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์)
แล้วก็สอนมิชชันนารี แล้วก็ยังพูดว่า "เก็บไว้ในหทัย" อีก เป็นคริสต์ชัดๆ เลย พี่ก็เลยบอกว่า ไม่ใช่ ท่านเรียนโรงเรียนคริสต์ แล้วท่านก็สอนมิชชันนารี ไม่ใช่ท่านไปเรียนกับมิชชันนารี และคำว่า "เก็บไว้ในหทัย" ก็เป็นคำมาจากพระไตรปิฎก (ข้อความในพระไตรปิฎก คือ "หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ" ซึ่งแปลว่า เก็บไว้ในหทัย) เขาก็บอกว่า อย่างนี้ก็คุยกับพี่แดงไม่ได้แล้ว เพราะผมว่าจะว่าท่าน ก็เลยไม่ได้คุยกันต่อ (หัวเราะ) ก็อยากจะเรียนถามท่านอาจารย์ว่า ที่ท่านอาจารย์ให้สัมภาษณ์เมื่อสนทนาธรรมครั้งที่แล้ว คนก็ไปปะติดปะต่อเรื่อง กลายเป็นว่าท่านอาจารย์เป็นคริสต์
ท่านอาจารย์ ถ้าอย่างนั้นคนที่เรียนโรงเรียนคริสต์ก็เป็นคริสต์หมด ข้อหนึ่งใช่ไหม? แล้วมีอะไรอีก
พลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง เขาบอกว่าอาจารย์สอนมิชชันนารี
ท่านอาจารย์ ถ้าสอนมิชชันนารี ใครเป็นนักเรียน?
พลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง มิชชันนารี
ท่านอาจารย์ แล้วเราจะสอนอะไรเขา? หรือเราจะสอนให้เขาเป็นคริสต์? เห็นไหม? ทุกคำ ควรที่จะได้ฟัง ไม่ใช่เชื่อเลยทันที แต่ต้องรู้ว่าคิดอย่างไร ดิฉันสอนมิชชันนารี สอนอะไร สอนภาษาไทย เพราะดิฉันเป็นคนไทย และเขามาเมืองไทย เขาก็ต้องเผยแพร่ศาสนาของเขา แต่เราสอนภาษา แล้วก็มีคนหนึ่งด้วยที่ดิฉันสอนพระอภิธรรมให้เขา และใครจะคิดว่าคนนับถือศาสนาคริสต์รู้พระอภิธรรม แล้วไปสอนพระอภิธรรมให้ชาวคริสต์ เป็นไปได้ไหม เราไม่ได้สอนอย่างอื่น เราให้เขาเข้าใจพระอภิธรรม ซึ่งคนนี้ ต่อมาเขาก็เขียนหนังสือพระพุทธศาสนา แต่ดิฉันก็ไม่ได้สอบถามว่าเขานับถือพระพุทธศาสนาหรือนับถือคริสต์ หลังจากที่ได้เข้าใจแล้ว เพราะเราจะไม่ไปคิดเอง เราจะไม่ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใคร ถ้าอยากจะให้เรารู้ว่าเขาเป็นอะไร เขาก็บอกเรา แต่การสอนพระพุทธศาสนาให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้อง คนนั้นเป็นคริสต์หรือเปล่า? แล้วสอนให้เขาเข้าใจพุทธศาสนา แล้วจะเป็นคริสต์หรือ? คริสต์ก็ต้องสอนศาสนาคริสต์ใช่ไหม? มีชาวคริสต์คนไหนบ้างที่สอนพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ฟังแล้วก็เชื่อ แต่ว่า สอบถามเสียก่อน ความจริงเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับว่า เราเผยแพร่สิ่งที่ไม่จริง
พลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง ซึ่งความจริงถ้าเขาได้ฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์ ไม่ว่าตอนใดตอนหนึ่งก็ตาม ก็จะมีคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดทุกครั้งไป
ท่านอาจารย์ ไม่มีสักครั้งที่กล่าวถึงคริสต์ศาสนา ไม่ว่าในการสนทนาธรรมหรือการพูดถึงธรรมะ สอนธรรมะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
ผศ.อรรณพ เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ได้เจอท่านหนึ่ง ผมก็อนุโมทนาในใจ ท่านคงฟังธรรมมาดีทีเดียว ท่านมาที่มูลนิธิฯ ท่านเจอผมก็เลยมาคุย ก็คุยกัน ผมก็เลยถามท่าน ท่านเป็นนักกฏหมาย ทำงานเอกชนที่หนึ่ง ก็ถามว่าท่านทำไมถึงได้มาฟัง ท่านบอกว่า ท่านเจอคลิปหนึ่งที่เขาว่า ว่าท่านอาจารย์เป็นเทวทัต (หัวเราะกันครืน) เขากลับงงนะครับท่านอาจารย์ เขาว่า ทำไมนี่พระนะ ที่ว่านี่เป็นพระ ทำไมพระถึงมาว่าผู้หญิงว่าเป็นเทวทัต
คุณนภา ว่าเป็นเทวทัตกลับชาติมาเกิด
ท่านอาจารย์ ไม่รู้หรือว่าเทวทัตอยู่ที่ไหน เวลานี้? พูดได้ทุกอย่างเหมือนคนไม่รู้ แม้แต่ว่า เวลานี้พระเทวทัตอยู่ที่ไหน
ผศ.อรรณพ พี่ท่านนั้นก็เลยบอกว่า ก็เลยสงสัยว่า อาจารย์สุจินต์ เป็นใคร? แล้วทำไมพระถึงมาว่า ว่าผู้หญิงเป็นเทวทัตนี่ เรื่องใหญ่นะ ก็เลยไปเปิดดูในยูทูป ก็ไปฟังท่านอาจารย์ เขาบอกว่าเขาฟังมาเดือนหนึ่ง ไม่มีคำไหนที่จะค้านได้สักคำ เขาเห็นประโยชน์มาก ที่จะศึกษา นี่คือคนที่มีเหตุมีผล ที่จะรู้ว่า เขาว่ากันนี่ด้วยอะไร อย่างไร อาจจะเป็นที่ท่านเป็นนักกฏหมายด้วยก็ได้
ท่านอาจารย์ คงหมดปัญหาว่าดิฉันเป็นคริสต์ เพราะว่า ไม่มีทางเป็นไปได้
คุณวันชัย ท่านอาจารย์ได้เคยเมตตากล่าวกับสหายธรรมทุกท่านว่า ไม่ไปโต้ตอบเขา แต่นี่ก็เป็นความกรุณาของท่านอาจารย์ที่ว่า พอมีรายการนี้ แล้วเราก็ปรารภท่านอาจารย์ว่า คนที่เขาเข้าใจผิด เขาก็จะเป็นอกุศลในใจเขา ซึ่งก็ควรที่จะได้พูดบ้างก็ดี แต่ว่า เราไม่ได้ใส่ใจถึงว่า จะไปเดือดร้อนกับคำนินทาว่าร้าย แต่ในทางตรงกันข้าม ท่านอาจารย์ก็บอกว่า หรือแม้ทุกคนก็ได้เข้าใจว่า ดีเสียอีก อย่างที่อาจารย์อรรณพบอก ว่า ถ้าเขาสะสมในความมีเหตุผลมา เขาฟังว่าเอ๊ะทำไมคนนี้ถึงได้ร้ายขนาดนั้นอย่างนี้ เขาได้ตามมาว่าสุจินต์ บริหารวนเขตต์ จะเห็นคลิปมากมายที่ท่านอาจารย์แสดงพระอภิธรรม ตลอด ๖๐ กว่าปีที่ผ่านมา นั่นเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าท่านอาจารย์ได้บำเพ็ญสาธารณกุศล ในแง่ของการอบรมเจริญปัญญาให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องมายาวนาน เพราะฉะนั้น สิ่งต่างๆ เหล่านั้น เป็นสิ่งที่พิสูจน์
ท่านอาจารย์ ถ้าดิฉันนับถือศาสนาคริสต์ ดิฉันจะสอนพระพุทธศาสนาทำไม? ทำไมไม่สอนศาสนาคริสต์ เพราะฉะนั้น ถ้าใครคิดว่าดิฉันนับถือศาสนาคริสต์ ก็ขอให้แสดงหลักฐาน เพื่อความถูกต้อง จะได้มีความเห็นที่ถูกต้อง ไม่อย่างนั้น ถ้าเห็นผิดกันต่อๆ ไป ก็เป็นโทษของคนที่คิดอย่างนั้น
(จากรายการสนทนาปัญหาสารพัน บันทึกเทปเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ณ บ้านพักของคุณจรียา พุกกะมาน สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ ๓๗๓๗)
ท่าน อ.สุจินต์ เป็นผู้หญิงที่แกล้วกล้า อาจหาญ มากๆ ครับ ผมเคารพและศรัทธาท่านครับ
ธรรมที่ท่านอาจารย์สอนนั้นเป็นแก่นแท้ของพุทธศาสนา ส่วนที่เห็นในสังคมปัจจุบันเป็นกระพี้เท่านั้น
ปัญญาเท่านั้นที่รู้เท่าทันความจริง กิเลสมารทั้งหลายมิอาจชนะธรรมแท้ได้ในทุกกาล กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
หนูก็เรียนโรงเรียนคริสต์มาตลอดนะคะแต่เคร่งในพุทธค่ะ มีเพื่อนที่เคร่งในคริสต์คาโทลิกชวนเข้าคริสต์ แต่ไม่เป็นผลเพราะหนูตั้งมั่นในอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ตอนนั้นอายุ 13ปี เรียนม.1 รร.คริสต์แห่งหนึ่งค่ะ
อาจารย์สอนพระอภิธรรมมาตั้งหลายสิบปี ถ้ายังมีคนที่คิดว่าอาจารย์เป็นคริสต์ คนนั้นยิ่งกว่าตามืดบอด
ท่านอาจารย์สุจินต์จะเป็นคริสต์ไปได้อย่างไร
ตลอดเวลาที่เผยแพร่ธรรมะของพระผู้มีพระภาค
ท่านเคารพบูชาพระผู้มีพระภาค พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่สุด และย้ำทุกครั้งให้พวกเราเคารพในคำสอนของพระพุทธเจ้าตลอดมา
ทุกคำสอนของท่านอาจารย์สอนเราว่า ทุกสิ่งไม่ใช่เรา ไม่ใช่อนัตตา ไม่อยู่ในสภาพบังคับบัญชา ซึ่งแย้งกันอย่างตรงกันข้ามที่สุดกับศาสนาแห่งพระเจ้าที่มีผู้บังคับบัญชา มีผู้สร้าง ผู้บงการให้เป็นไป