ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๘๗

 
khampan.a
วันที่  20 ธ.ค. 2563
หมายเลข  33447
อ่าน  1,471

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๘๗
* *



~ คิดว่า เกาะชายผ้าเหลือง แต่พอบวชแล้วภิกษุอาบัติ (คือล่วงละเมิดพระวินัย) เลย เช่น รับเงินเมื่อออกจากโบสถ์ เพราะฉะนั้น เกาะชายผ้าเหลืองไปกับภิกษุผู้อาบัติกันเป็นแถว ส่งเสริมการประพฤติผิดพระธรรมวินัยและไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยทั้งสิ้น นอกจากบาป

~ สิ่งเดียวที่พระภิกษุให้คฤหัสถ์ได้ ไม่ใช่อย่างอื่นทั้งสิ้น นอกจากพระธรรมที่ได้ศึกษาเข้าใจดีแล้ว เพื่อที่จะดำรงพระศาสนาไว้ให้มั่นคงต่อไป

~ พระภิกษุไม่มีอะไรจะไปสงเคราะห์คฤหัสถ์ เอาของที่ไหนมา จะไปขอเขาก็ผิดพระวินัย ไม่ใช่เรื่องของพระภิกษุ เพราะฉะนั้น สิ่งที่พระภิกษุจะกระทำเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ สงเคราะห์ด้วยการช่วยให้เขาเกิดปัญญาที่จะมีความเห็นถูก ซึ่งไม่ว่าจะในยามใด เจ็บป่วยทุกข์ยากประการใดๆ ก็ตาม มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง


~ ขณะใดที่ความดีเกิดขึ้น ไม่ทำร้ายตนเองและไม่ทำร้ายคนอื่น อกุศลเป็นศัตรู แต่คุณความดีเป็นมิตร เรามีความดี คือ ความหวังดี เกื้อกูล อดทนที่จะให้คนอื่นเกิดปัญญา อดทนรอให้เขาเป็นคนดี ไม่ว่าคำพูดของเขาจะร้ายต่อเรา หรือจะทำอะไรต่อเราก็ตาม แต่ความเป็นมิตรที่แท้จริงจะทำให้สามารถอดทนคอย จนกระทั่งพระธรรมทำให้เขาเป็นคนดีได้

~ ถ้าเป็นผู้ที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ไม่เป็นประโยชน์สำหรับตัวเองทั้งชาตินี้และชาติต่อๆ ไป

~ ไม่เข้าใจธรรมเลย เข้าใจผิดแล้วบอกว่าเป็นชาวพุทธ ตรงไหม ก็ไม่ตรงตามความเป็นจริง

~ ความดีเป็นประโยชน์ทุกขณะ แม้นิดเดียวที่เกิดขึ้น ก็เป็นประโยชน์ ไม่เป็นโทษเลย

~ ผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องทำให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงถึงความเข้าใจถูกในพระพุทธศาสนา ด้วยการไม่ส่งเสริมสิ่งที่ผิด แค่นี้ก็เป็นประโยชน์มหาศาล ไม่ส่งเสริมสำนักปฏิบัติ ไม่ส่งเสริมวัดให้เป็นที่ท่องเที่ยวเป็นที่แต่งงานเป็นที่ทำอะไรที่ไม่ใช่วัดเลยแต่เป็นการทำลายวัด

~ ดี คือ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง หลักใหญ่ๆ เพราะเหตุว่า ถ้ามีโลภโกรธ หลง ความไม่ดีอย่างอื่นก็ติดตามมา เพราะฉะนั้น ไม่ดีที่หนึ่ง ก็คือ ความไม่รู้

~ พระธรรมละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่งที่จะต้องดำรงรักษาไว้เพื่อจะได้ไม่อันตรธาน (สูญสิ้น) เพราะมีค่าอย่างยิ่ง ในชีวิต ไม่มีสิ่งใดประเสริฐสุดเท่าปัญญาความเห็นที่ถูกต้อง มาจากไหน? คิดเองไม่ได้ ต้องมาจากผู้ได้ตรัสรู้ความจริงและทรงแสดงความจริงให้ได้ฟังแล้วไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความเข้าใจของตนเอง

~ ลองคิดดูว่า ถ้าไม่อภัยให้ใคร กาย วาจาที่มีต่อบุคคลนั้นจะเป็นอย่างไร จะไม่เป็นไปในทางที่เป็นมิตรเลย เพราะฉะนั้น กุศลก็ย่อมเจริญไม่ได้ แล้วก็จะถึงฝั่ง (แห่งการดับกิเลส) ได้อย่างไร

~ ทุกอย่างที่เป็นกุศลในชีวิตประจำวัน ทำแล้วหรือยัง หรือว่ายังทำไม่ได้ ถ้าชาตินี้ทำไม่ได้ ชาติต่อไปจะเป็นอย่างไร คิดว่าชาติต่อไปจะทำได้หรือถ้าชาตินี้ทำไม่ได้ ในเมื่อชาตินี้ยังยาก ชาติหน้าย่อมยากยิ่งขึ้นไปอีก

~ คนเก่ง ก็ตาย เพราะฉะนั้น มีประโยชน์ไหมที่จะเป็นคนเก่งแล้วทุจริตก่อนตาย? ทุกคนหวังเพียงแค่ให้เป็นคนเก่ง แต่ลืมว่า เก่งแล้วไม่ดี กับคนที่ดีแต่ไม่เก่ง อะไรเป็นประโยชน์กว่า (เพราะเมื่อเป็นคน) ดี ก็ไม่ทำชั่ว ไม่เป็นภัยต่อคนอื่นต่อประเทศชาติ

~ ตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์ เป็นโอกาสที่ประเสริฐที่จะสามารถบำเพ็ญความดีหรือทำความดีได้ทุกโอกาส แล้วก็ไม่ควรประมาทแม้ความดีเพียงเล็กน้อยด้วย เพราะว่าขณะใดก็ตามที่กุศลจิตไม่เกิด ขณะนั้นเป็นอกุศล แล้วก็ไม่ใช่ขณะเดียว แต่เพิ่มขึ้นๆ แต่ละขณะมากมายมหาศาล

~ เมื่อถึงกาลที่กรรมจะให้ผล มือที่มองไม่เห็น ทำได้ทุกอย่าง ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดตามเหตุ เพราะฉะนั้น ถ้ามีความมั่นคงในเรื่องธรรม และเรื่องของเหตุและผล คือกรรมซึ่งเป็นเหตุและวิบากซึ่งเป็นผลของกรรม จะเดือดร้อนไหม?

~ มีหน้าที่ของพุทธบริษัท ส่วนใหญ่จะลืม เมื่อมีผู้ที่เข้าใจพระธรรมวินัยไม่ถูกต้อง เราซึ่งเป็นพุทธบริษัทได้ศึกษาแล้ว ก็สามารถที่จะพูดคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรงตามพระธรรมวินัย ไม่ใช่เราคิดเอง เพราะฉะนั้น นี่คือหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นได้เข้าใจถูกหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น เรารู้ว่านี่คือหน้าที่ของเรา

~ ศัตรู คือ อกุศลที่เกิดกับจิต ขณะนี้มีใครรู้จักศัตรูบ้างแล้ว หรือว่ารู้จักเพียงแต่ชื่อ แต่เวลาที่ศัตรูเกิดจริงๆ กำลังทำร้ายจริงๆ จิตขณะนั้น เสีย เป็นโรค เน่าจริงๆ ขณะนั้น ไม่รู้เลยว่า มีศัตรูแล้ว พระธรรมจะทำให้ทุกท่านรู้จักศัตรูของตนเองดีขึ้น

~ จะไปสนใจความไม่ดีของคนอื่นทำไม ประโยชน์อยู่ตรงไหน เสียเวลาหรือเปล่า แต่การเป็นคนดี ไม่ว่าใครจะเป็นอย่างไรก็ตาม เราก็มีเมตตาและอบรมจิตใจให้มั่นคงในฝ่ายกุศล วันหนึ่งจะเป็นผู้ชนะ (กิเลสของตนเอง) จริงๆ และสบายใจด้วย

~ คนที่ถูกโกรธสบายมาก ไม่เดือดร้อนเลย คนโกรธ เสีย ตลอด เพราะเหตุว่า อกุศลเกิดขึ้นทำร้าย อกุศลทำร้ายจิตในขณะนั้นเองและยังจะทำร้ายคนอื่นต่อไปอีก เพราะมีความรุนแรงขึ้นแล้วอกุศลนั้นอยู่ที่ไหน ก็อยู่ในจิตของคนนั้นแหละ ไม่ไปอยู่ที่จิตของคนอื่นเลย

~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อความเข้าใจถูก ความรู้ถูก ความเข้าใจความจริง โดยการที่ขณะนั้นไม่ใช่เรา แต่เป็นปัญญา เพราะฉะนั้น สำหรับพระพุทธศาสนา ขาดปัญญาไม่ได้เลย เพราะไม่มีปัญญาเมื่อไหร่ ไม่รู้เมื่อนั้น เป็นอวิชชาเมื่อนั้น หลงทางเมื่อนั้น เข้าใจผิดเมื่อนั้น

~ ไปสำนักปฏิบัติ ทำอะไร เข้าใจอะไรหรือเปล่า? ไม่เข้าใจอะไรเลย ได้แต่ทำตาม เพราะฉะนั้น ก็เป็นศาสนาที่ให้ทำตาม แต่ไม่ได้ให้เข้าใจอะไรเลยทั้งสิ้น จึงไม่ใช่พระพุทธศาสนา เพราะไม่เข้าใจ

* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๘๖




...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
petsin.90
วันที่ 20 ธ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
natthayapinthong339
วันที่ 20 ธ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
mammam929
วันที่ 20 ธ.ค. 2563

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และกราบอนุโมทนาการแสดงคำจริงเพื่อความเข้าใจถูกต้องในสิ่งที่มีแต่ไม่เคยรู้

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สิริพรรณ
วันที่ 20 ธ.ค. 2563

กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
jaturong
วันที่ 21 ธ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kukeart
วันที่ 2 ม.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ