ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๔
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๔ * *
~ ใครกลัวพระธรรม ก็เหมือนกับว่ากลัวที่จะไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่อยากเห็นหรือ? พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ยังเห็นได้ จากคำของพระองค์ที่ตรัสไว้ดีแล้ว ๔๕ พรรษา
~ เริ่มต้นด้วยความเป็นผู้ตรง เคารพในความจริง ไม่ทำให้ผิด ไม่ทำให้คลาดเคลื่อน ฟังพระธรรมเพื่ออะไร? เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น
~ กิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) ก็เป็นธรรม อะไรที่มีจริง เป็นธรรมหมดเลย เริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าธรรมคือสิ่งที่มีจริงทั้งหมด มีลักษณะที่ปรากฏเป็นแต่ละหนึ่งๆ เป็นธรรม ซึ่งไม่ใช่เรา ไม่มีเรา ถ้ามั่นคงในคำนี้ ฟังพระธรรมแล้วก็จะค่อยๆ เข้าใจขึ้น
~ ถ้าใครทำกุศลกรรม ถึงคนอื่นจะไปขอร้องไม่ให้กุศลกรรมให้ผล ก็เป็นไปไม่ได้ หรือว่า ถ้าใครทำอกุศลกรรม ถึงใครจะไปช่วยกันอ้อนวอนขอร้องอย่าให้บุคคลนั้นได้รับผลของอกุศลกรรม ก็เป็นไปไม่ได้เลยเหมือนกัน
~ ไม่มีอย่างอื่นใดทั้งสิ้นที่จะกล้าสู้กับกิเลสหรือจะทำลายกิเลสได้ นอกจากความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อยตามความเป็นจริง ไม่ลืมกำลังของปัญญา แต่ต้องมีปัญญา ไม่ใช่ไม่มีปัญญาแล้วไปคิดถึงกำลังของปัญญา
~ คนที่เห็นประโยชน์จริงๆ ในชีวิต ย่อมรู้ว่า ทรัพย์สมบัติเอาไปไม่ได้ ทุกอย่างเอาไปไม่ได้ แต่ความดี ความเข้าใจพระธรรม ก็จะนำทางต่อไป ให้เป็นคนที่สะสมที่จะเป็นคนที่ดีในชาติต่อๆ ไป จนกว่ากิเลสจะหมด
~ ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้อง มีความเข้าใจที่ตรง ว่า อะไรดี อะไรชั่ว แล้วมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น ความเข้าใจนั่นแหละจะประคับประคองทุกคนจากที่เคยเห็นผิดทำผิด ก็กลับเป็นเห็นถูก ทำถูกได้ ประเทศชาติ ก็มั่นคง
~ ถึงแม้ว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์สักเท่าไหร่ แต่ถ้าจิตใจของคนไม่สามารถที่จะละสิ่งที่ไม่ดีและประพฤติสิ่งที่ไม่ดี ประเทศชาติก็เจริญไม่ได้ ถ้ามีแต่เพียงความเจริญทางด้านวัตถุ
~ ทั้งหมดต้องเป็นกุศลจึงจะนำไปสู่ความไม่เสื่อม
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะสอนให้มีความประพฤติเป็นไปในอกุศลบ้างไหม? แม้สักเล็กน้อย ก็ไม่มี
~ ถ้าไม่มีปัญญา จะเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไหม?
~ ไม่เคารพในความจริงในความถูกต้องเมื่อไหร่ ก็เสื่อมเมื่อนั้น ไม่สามารถที่จะเข้าใจถูกได้
~ เมื่อไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงแน่นอน หลงอยู่ในโลก หลงอยู่ในสังสารวัฏฏ์ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยเข้าใจ (ผิด) ว่านั่นจริง นี่จริง เราจริง เรื่องนั้นจริง เรื่องนี้จริง แต่ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ซึ่งมีจริงๆ ก็คือ เดี๋ยวนี้แน่นอนทุกขณะที่ปรากฏ
~ ถ้าเห็นผิดแล้ว ไม่เลิก ไม่ละทิ้ง จะเจริญได้อย่างไร
~ กล่าวธรรมดาที่สุด ก็คือว่า ขณะใดที่เป็นอกุศลขณะนั้นประมาทไหม?
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมตลอด ๔๕ พรรษา โดยประการทั้งปวง ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย เป็นชีวิตประจำวันจริงๆ ซึ่งความละเอียดลึกซึ้ง ต้องจากการที่ได้ทรงตรัสรู้
~ ถ้าไม่พูดคำนั้น (คือ ไม่กล่าวพระธรรม) โอกาสก็ผ่านไปทุกครั้ง มีแต่โอกาส ก็ผ่านไป แล้วโอกาสอย่างนั้นจะมีอีกไหม? เพราะฉะนั้น เมื่อใดที่เป็นโอกาส ต้องพร้อม ถ้าคนนั้นไม่พร้อมที่จะฟังก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถ้ามีประโยชน์ ก็ควรอย่างยิ่งที่จะเป็นธรรมปฏิสันถาร (การต้อนรับด้วยพระธรรม)
~ ถ้าผิดแล้ว จะแก้ไหม? ถ้าไม่แก้ จะผิดต่อไปอีกนานเท่าไหร่ในสังสารวัฏฏ์ และโทษของความเห็นผิดและอกุศลทั้งหลายมากมาย โทษแก่ใคร? แก่ผู้นั้นเอง เพราะฉะนั้น ความเข้าใจถูก อาจหาญร่าเริงที่จะแก้สิ่งที่ผิด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเหตุว่า จะไม่ผิดต่อไป แล้วก็จะค่อยๆ สะสมประโยชน์ที่จะเห็นว่ากุศลเท่านั้น ความถูกต้องเท่านั้นที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ที่แท้จริง มิฉะนั้นแล้ว ชาตินี้แสนสั้นแล้วก็เห็นผิดโดยที่ยังไม่แก้ แล้วจะไปแก้เมื่อไหร่ หมดโอกาส ถ้าไม่แก้ในชาตินี้ เพราะชาติต่อไปอาจไม่มีโอกาสที่จะได้ฟังความเห็นถูกที่จะทำให้แก้ได้ รีบแก้เร็วเท่าไหร่ เป็นประโยชน์เท่านั้น ความเห็นผิดและอกุศลทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะสะสม แต่ทั้งหมด ไม่ใช่เรา ปัญญาที่เข้าใจความจริงเท่านั้นจึงมีกำลังที่สามารถที่จะทิ้งสิ่งที่ผิดได้
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม ท่ามกลางความเห็นผิดหรือเปล่า? แล้วสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากระทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า? (กระทำตาม) เพราะเป็นสาวกใช่ไหม จะกลัวอะไร? ถ้าเรามีความหวังดี ต้องการให้คนอื่นเห็นถูก เราผิดหรือที่พูดคำจริงที่ถูกต้อง? เพื่ออนุเคราะห์ ใช่ไหม? เพื่อให้เกิดความเห็นถูก ใช่ไหม?
~ ถ้าแต่ละคนเป็นคนดี มีความเข้าใจพระธรรม คนที่เข้าใจพระธรรมแล้ว ก็สามารถที่จะมีที่พึ่งที่จะไม่ตกลงไปในทางฝ่ายชั่ว
~ ควรที่จะได้ให้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบทอดต่อไป เพื่อดำรงอยู่ซึ่งความถูกต้อง ซึ่งยากแสนยากถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่สามารถที่จะเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้เลย ไม่รู้จักคำว่าอนัตตา ไม่มีเราไม่ใช่เรา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย
* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๓
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
พระธรรมคำสอนเป็นคำกล่าวความจริงเกิดขึ้นและบังคับให้เป็นไม่ได้ เป็นงานของเจตสิกและจิตที่สะสมมาทุกขณะเนิ่นนาน ขอฟังต่อไปค่ะ กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์คำปั่น ที่สืบสานพระธรรมด้วยค่ะ
กราบนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า
พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งที่เคารพสูงสุด สำหรับผู้เข้าใจคำของพระพุทธองค์ ที่เกิดจากการศึกษาคำสอนที่ทรงแสดง ซึ่งต้องเริ่มจากการฟังพระธรรมที่ถ่ายทอดได้ถูกต้อง และตรงทุกคำ จึงจะได้รับประโยชน์ตามที่มีพระมหากรุณาคุณต่อสัตว์โลกให้พ้นทุกข์
ทุกข์ทั้งหลายมาจากความไม่รู้ความจริง
ฟังพระธรรมเพื่อรู้ เพื่อเข้าใจความจริงตั้งแต่เริ่มต้นว่า ธรรม คืออะไร?
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
กราบของพระคุณอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัยที่กรุณารวบรวมข้อความที่เป็นประโยชน์ด้วยค่ะ