ทสรถชาดก กับ วรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทสรถชาดก ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้น ไม่ใช่วรรณคดีในพระพุทธศาสนา แต่เป็นความจริงที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นบุคคลนี้ ชื่อแบบนี้ ซึ่งการคล้ายกันของชื่อนั้นเป็นเรื่องปกติมากๆ เพราะสัตว์โลกเกิดมานับชาติไม่ถ้วน

ซึ่งได้สอบถาม อ.คำปั่นท่านได้ให้ข้อมูลในคำว่า วรรณคดีเพิ่มเติมด้วยครับว่า

วรรณคดี ไม่ใช่คำบาลีโดยตรงแต่ถ้าจะเทียบเคียงรากศัพท์ ก็พอได้ มาจาก วณฺณ (สิ่งที่ควรยกย่องสรรเสริญ ความดี) กับ คติ (ความเป็นไป) ดังนั้น เมื่อรวมกันแล้ว ก็แปลโดยความได้ว่า เรื่องราวหรือบทประพันธ์ที่แสดงถึงความเป็นไปในเรื่องต่างๆ ที่นับว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ควรยกย่องสรรเสริญ ครับ

ซึ่งความต่างของเนื้อเรื่องคือ พระโพธิสัตว์แสดงความจริงให้น้องๆ และชาวเมืองได้เข้าใจ เห็นความไม่เที่ยง และ ความเป็นไปธรรมดาของธรรมะ ที่พระราชบิดาสวรรณคตแต่พระองค์ไม่เศร้าโศก คนอื่นเศร้าโศก ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสเล่าเรื่องนี้ที่กุฎุมพีนั้น เมื่อบิดาถึงแก่กรรมแล้วถูกความเศร้าโศกครอบงำ จึงทอดทิ้งหน้าที่การงานเสียทุกอย่าง ครุ่นแต่ความเศร้าโศกอยู่แต่ถ่ายเดียว

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจบ ประกาศอริยสัจจะความจริง กุฎุมพี ได้บรรลุธรรม เพราะฉะนั้นเรื่องจริงที่พระองค์เคยเกิด ต่างกับเรื่องแต่ง และเรื่องจริงที่มีประโยชน์ให้รู้ความจริง คือ คำสอนในพระพุทธศาสนา ครับ

ทรงประชุมชาดกว่า พระทสรถมหาราชครั้งนั้น ได้มาเป็น พระเจ้าสุทโธทนมหาราช พระมารดาได้มาเป็น พระนางสิริมหามายา สีดาได้มาเป็น พระมารดาพระราหุล เจ้าภรตะได้มาเป็น พระอานนท์ เจ้าลักขณ์ได้มาเป็น พระสารีบุตร บริษัทได้มาเป็นพุทธบริษัท ส่วนรามบัณฑิตได้มาเป็น เราตถาคต แล.

ขออนุโมทนา

ขออนุโมทนาครับ 

ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม...

ทสรถชาดก

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงควรค่าแก่การฟังการศึกษาเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตามล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อความเข้าใจตรงตามความจริง เป็นความจริงในทุกกาลสมัย ไม่ใช่คำที่แต่งขึ้นมาใหม่ แต่เป็นคำจริงที่เกิดจากการทรงแสดงด้วยพระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ

...ยินดีในความดีของทุกท่านครับ...

ขออนุโมทนาครับ