คำที่ให้คิดไตร่ตรอง_สนทนาธรรม ไทย - ฮินดี วันเสาร์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔

 
khampan.a
วันที่  29 พ.ค. 2564
หมายเลข  34319
อ่าน  1,483

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



"คำที่ให้คิดไตร่ตรอง"

ถอดจากคำสนทนาของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

สนทนาธรรม ไทย - ฮินดี

วันเสาร์ที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔



~ ธรรมแสดงชัดเจนในความเป็นอนัตตา (ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น) เพราะฉะนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ถ้าเรามีปัญญาที่จะเข้าใจความจริง เราก็จะเข้าใจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ การฟังธรรม ก็เป็นเรื่องที่ว่า ฟังเพื่อรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เคารพบูชาสูงสุดหาบุคคลใดเปรียบไม่ได้ พูดได้แต่พระคุณนั้นรู้หรือยัง? เพราะฉะนั้น ทุกคนคุ้นเคยกับการที่เกิดมาเข้าใจว่า ตัวเองนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่โดยวิธีที่ว่ากราบไหว้บูชา สวดมนต์ สร้างวัด แต่นั่นคือการรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้เคารพสูงสุดหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น ก็เหมือนกับการที่เคารพสิ่งที่ไม่รู้จักเลย กราบไหว้สิ่งที่ไม่รู้จักเลย จนกว่าจะได้ฟังพระธรรม เพราะฉะนั้น ทุกคำที่ได้ฟัง เป็นคำที่ให้คิดไตร่ตรอง จริงหรือเปล่า ถูกหรือผิด? เป็นแต่ละคน เพราะแม้แต่ข้อความในพระไตรปิฎก [วีมังสกสูตร พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์] ก็มีว่า สอบสวน อะไร? ๓ อย่าง (๑) คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เราได้ยินได้ฟังทั้งหมดหรือที่เราใช้คำว่าพระพุทธศาสนา สอบสวนอรรถ ความหมายของคำนั้นที่เป็นความหมายของผู้ที่ตรัสคำนั้นให้ได้เข้าใจถูกต้องว่าจริงๆ แล้วอรรถความหมายนั้นหมายถึงอะไร คืออย่างไร นี่ไม่เคยมีมาเลย ถ้าไม่ได้ศึกษาธรรม ไม่เคยฟัง ไม่เคยคิด ไม่เคยไตร่ตรอง ไม่เคยรู้จัก แต่ว่า ถ้าได้ศึกษาพระธรรมแล้ว ละเอียดอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น แต่ละคำที่ได้ยินได้ฟังอยู่ในพระไตรปิฎก สอบสวนอรรถ เห็นไหม ไม่ใช่ฟังแล้วทิ้งไปตามไปเลยพระพุทธเจ้าตรัสรู้อย่างนั้นอย่างนี้ในวันเพ็ญเดือน ๖ พอถึงวันนั้นก็มากราบไหว้บูชา อันนั้นก็กราบไหว้บูชาแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะไม่ได้สอบสวนอรรถคำของพระองค์ซึ่งเป็นการสอบสวน (๒) สังขาร คือ ธรรมที่มีเดี๋ยวนี้ซึ่งกำลังเป็นอย่างนี้เกิดขึ้นปรากฏโดยการปรุงแต่งไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร แล้วก็สอบสวน (๓) พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเข้าใจว่า คำนี้แหละ เป็นคำที่พระองค์ได้ตรัสด้วยพระองค์เอง ไม่ใช่คำอื่นซึ่งคนอื่นกล่าวแล้วก็อ้างว่าเป็นคำของพระองค์ เพราะฉะนั้น ธรรมเป็นเรื่องประโยชน์สูงสุดละเอียดอย่างยิ่ง ต้องเคารพต่อความจริงที่ว่าเมื่อเคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหนือสิ่งอื่นใดแต่ต้องรู้จักพระองค์ว่าพระองค์ทรงแสดงธรรมอะไรที่ทรงเป็นศาสดาที่เหนือศาสดาในสากลจักรวาล

~ สอบสวนอรรถของคำว่าพุทธะ ผู้ที่ตรัสรู้ความจริงถึงที่สุดโดยประการทั้งปวง เรารู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า ถ้าไม่ฟังพระธรรม?

~ กราบไหว้ บูชา สร้างวัด สำนักปฎิบัติ รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า?

~ เพียงได้ยินคำว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเป็นใคร?

~ ท่านพระสารีบุตร ท่านพระมหาโมคคัลลานะ พระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า? ไม่ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวในสากลจักรวาล แต่มีผู้ที่ฟังธรรมแล้วสามารถที่จะเป็นพระอรหันต์ได้ แต่ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว ท่านเหล่านั้นอยู่ที่นั่น แล้วก็เป็นผู้ที่หมดจดจากกิเลสแล้วก็ดำรงพระศาสนา นำคำสอนเผยแพร่ไป ทำให้เรากำลังได้ฟังคำของพระองค์

~ ไม่มีใครมีปัญญาเท่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอนในสากลจักรวาล แม้แต่ท่านพระสารีบุตรและพระอรหันต์ทั้งหลายในครั้งโน้น (ก็ไม่มีใครมีปัญญาเท่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า)

~ ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นเรา เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นเขา

~ เห็นทุกวัน แต่ไม่รู้ว่าเห็นคืออะไร และยังคิดว่าเป็นเราเห็น นี่เป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่การตรัสรู้ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งนี้แล้ว

~ ทุกอย่างที่มีจริงตั้งแต่เกิดจนตาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ทั้งหมด

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เห็นเกิดขึ้นหรือเปล่า? พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทำให้สิ่งที่ถูกเห็น เกิดหรือเปล่า? มีใครทำให้เกิดขึ้นหรือเปล่า? มีใครทำให้เกิดขึ้นได้ไหม?

~ ต้องเข้าใจจริงๆ ตั้งแต่ต้นทีละเล็กทีละน้อยแต่มั่นคง

~ คนที่ฟังแล้วเข้าใจ เห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นสาวกผู้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น และประพฤติปฏิบัติตามที่เข้าใจเท่านั้น ไม่ตามคนอื่นเลย


~ ต้องมั่นคงในการศึกษาธรรม ตั้งแต่เริ่ม เพื่อที่จะได้เข้าใจมั่นคงขึ้นๆ ว่าไม่มีเรา

~ บางคนศึกษาธรรมตามพระไตรปิฎก แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรม(สิ่งที่มีจริง)ที่จะต้องเข้าใจคือศึกษา

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้ว่า ไม่มีใครรู้ เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้วจึงทรงแสดงความจริงให้คนอื่นเริ่มฟัง เริ่มคิดเริ่มไตร่ตรอง เริ่มสอบสวน เริ่มเข้าใจว่าจริงไหม นี่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จริงไหม?

~ ถ้าไม่รู้ว่า สิ่งที่เราได้ฟังเป็นความจริง จะเชื่อว่ามีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อย่างนี้ไหม?

~ ทุกอย่างเป็นปกติ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ความเป็นจริงทุกอย่าง ละเอียดมาก ลึกซึ้งมาก

~ ทุกคนต้องจากโลกนี้ไป แต่จะจากไปด้วยความเข้าใจถูกหรือว่าไม่รู้เหมือนเดิมในสังสารวัฏฏ์เหมือนคนตาบอด?

~ ต้องเห็นค่าของสิ่งที่มีค่าสูงสุด แล้วก็เห็นพระมหากรุณาที่ให้คนอื่นได้เข้าใจธรรม เพราะฉะนั้น มีโอกาสเมื่อไหร่ ก็ได้เข้าใจ และเพื่อต่อไป จะได้ให้คนอื่นเข้าใจด้วย

~ ต้องไม่ลืมว่า ทุกคำที่ฟัง ต้องเพื่อเข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามความเป็นจริง ว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น นอกจากแต่ละหนึ่งๆ ที่เป็นธรรมนั้น


ขอเชิญคลิกฟังไฟล์เสียงคำสนทนาของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้

คำที่ให้คิดไตร่ตรอง



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มังกรทอง
วันที่ 29 พ.ค. 2564

ความเข้าใจพระธรรม เป็นปัจจัยทำให้กุศลจิตเกิดเพิ่มขึ้น จึงเป็นผู้ที่มีการไตร่ตรองตามเหตุผล น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 29 พ.ค. 2564

ขอบพระคุณ และยินดียิ่งในกุศล อ.คำปั่น ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 29 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
natthayapinthong339
วันที่ 29 พ.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ 

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Jans
วันที่ 29 พ.ค. 2564

lขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ 

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
siraya
วันที่ 30 พ.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอาจารย์คำปั่นค่ะ 

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 1 มิ.ย. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Centella
วันที่ 1 มิ.ย. 2564

น้อมระลึกบูชาพระคุณทั้งสามด้วยความเคารพอย่างสูงสุด

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Kalaya
วันที่ 10 มิ.ย. 2564

กราบขอบพระคุณและน้อมระลึกคำสอนค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ