หนูควรทำบุญกับวัดไหนหรือพระรูปใดคะ

 
ดาว นพรัตน์
วันที่  2 มิ.ย. 2564
หมายเลข  34335
อ่าน  651

อยากทราบว่าหนูควรทำบุญกับวัดไหนหรือพระรูปใดคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 มิ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เข้าใจคำว่า บุญให้ถูกต้องก่อนครับ บุญ หรือ กุศลเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ดี อันมีสภาพธรรมที่เป็นฝ่ายดีเกิดร่วมด้วย และขณะนั้นก็ไม่มีอกุศลที่เป็นโลภะ โทสะและโมหะเกิดขึ้นเลยในขณะที่เป็นบุญครับ

บุญเป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด (เพราะโดยปกติแล้วจิตสกปรกด้วยอำนาจของอกุศลธรรม) ขณะที่เป็นบุญ ขณะนั้นจิตสะอาดจากอกุศล คือ โลภะ โทสะและโมหะบุญ หรือ สภาพจิตที่ดี ที่เป็นกุศล มีหลายประการ ตามระดับและลักษณะของบุญครับ

บุญกิริยาวัตถุ 10 หมายถึง ที่ตั้งแห่งการกระทำความดี ๑๐ อย่าง หมายถึง กุศลจิตที่มีกำลังจนทำให้มีการกระทำออกมาทางกาย วาจาหรือทางใจ ได้แก่ ...

๑. ทานมัย บุญสำเร็จจากการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์หรือบูชาแก่ผู้อื่น

๒. ศีลมัย บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริต ทางกาย วาจา

๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา) และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง (วิปัสสนาภาวนา)

๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน

๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น

๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว

๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว

๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม

๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม

๑๐. ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความเห็นให้ตรงถูกต้องตามความเป็นจริง

ซึ่งขณะใดที่จิตใจเป็นไปใน บุญ 10 ประการนี้ ก็ชื่อว่าเป็นบุญ

ดังนั้น บุญไม่ได้อยู่ที่วัด ไม่ได้อยู่ที่จะเกิดกับการให้พระภิกษุเท่านั้น แต่ บุญมีหลายประการตามที่กล่าวมาและที่น่าพิจารณาคือ เมื่อไหร่อยากได้บุญเป็นกิเลส เป็นบาปไม่ใช่บุญครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ดาว นพรัตน์
วันที่ 2 มิ.ย. 2564

สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ดาว นพรัตน์
วันที่ 2 มิ.ย. 2564

ถ้าอย่างนั้นสมัยนี้ไม่มีพระพุทธเจ้า สังฆทานก็ไม่มีใช่ไหมคะ เพราะหนูเข้าใจว่าจะถวายสังฆทานได้ต้องมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข หนูเข้าใจอย่างนี้เข้าใจถูกไหมคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 2 มิ.ย. 2564

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...

สังฆทานที่ถูกต้อง

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 2 มิ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประการสำคัญที่ควรจะพิจารณา คือ ทาน การให้วัตถุสิ่งของ ไม่ได้มุ่งหมายจำกัดเฉพาะเพศบรรพชิต เท่านั้น เพราะเหตุว่า ผู้ที่ควรแก่การรับทานมีมาก ไม่ใช่น้อยเลยทั้งผู้ที่ประสบภัย ประสบความเดือดร้อน เป็นต้น เป็นโอกาสที่กุศลจิตที่เป็นไปในทานจะเกิดขึ้น สละวัตถุสิ่งของของตนเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ถ้าหากว่าในชาติหนึ่งๆ ทานกุศลไม่เกิด ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่นเลย แล้วจะดำเนินไปถึงซึ่งการดับกิเลสซึ่งมีมากเป็นอย่างยิ่ง ได้อย่างไร ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 2 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 2 มิ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก 

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ดาว นพรัตน์
วันที่ 3 มิ.ย. 2564

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
jaturong
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Witt
วันที่ 14 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ