๕. รุจิรชาดก
[เล่มที่ 58] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้า 185
๕. รุจิรชาดก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 58]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้า 185
๕. รุจิรชาดก
[๔๒๔] นกยางตัวนี้อย่างไรจึงขาวน่ารัก มาอยู่ในรังกาได้ และนี่เป็นรังของกาผู้ดุร้ายสหายของเรา.
[๔๒๕] ดูก่อนนกพิราบผู้สหาย ท่านก็รู้จักเราผู้มีข้าวฟ่างเป็นอาหารมิใช่หรือ เรามิได้กระทําตามคําของท่าน กลับมาแล้วจงมองดูเราผู้ลุ่นนี้เถิด.
[๔๒๖] ดูก่อนกาผู้สหาย ท่านจะได้รับทุกข์อีกเพราะว่าปกติของท่านเป็นเช่นนั้น เครื่องบริโภคของมนุษย์ไม่ควรที่นกจะพึงบริโภค.
จบ รุจิรชาดกที่ ๕
อรรถกถารุจิรชาดกที่ ๕
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภิกษุโลเลรูปหนึ่ง จึงตรัสเรื่องนี้ มีคําเริ่มต้นว่า กายํ พลากา รุจิรา ดังนี้. เรื่องทั้งสองเรื่อง คือเริ่มเรื่องกับเรื่องในอดีต เป็นเหมือนกับเรื่องแรกนั่นแหละ. แต่คาถาต่างกัน. มีคาถาติดต่อเป็นอันเดียวกันว่า :-
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้า 186
พระโพธิสัตว์ว่า อย่างไร นกยางขาวน่ารักตัวนี้ จึงมาอยู่ในรังกาเช่นนี้ และที่เป็นรังของกาผู้ดุร้ายสหายของเรา.
กากล่าวว่า ดูก่อนนกพิราบผู้สหาย ท่านเป็นทิชาชาติ มีข้าวฟ่างเป็นอาหาร ย่อมรู้จักข้าพเจ้ามิใช่หรือ เราไม่ได้ทําตามคําของท่าน ท่านกลับมาแล้วจงมองดูข้าพเจ้าซึ่งมีตัวลุ่นๆ เถิด.
พระโพธิสัตว์ว่า ดูก่อนสหาย ท่านจะได้รับทุกข์อีกเพราะปกติของท่านเป็นเช่นนั้นแท้จริง เครื่องบริโภคของมนุษย์ไม่ควรที่นกจะพึงบริโภค.
ด้วยบทว่า รุจิรา นี้ ในคาถานั้น พระโพธิสัตว์กล่าวหมายเอาความที่กามีสีขาว เพราะมีร่างกายทาด้วยเปรียง. บทว่า รุจิรา ได้แก่ ดูน่ารัก อธิบายว่า มีสีขาว. บทว่า กากนิณฺฑสฺมึ แปลว่า ในรังของกา. บาลีว่า กากนีฬสฺมึ ดังนี้ก็มี. กาเรียกนกพิราบว่า ทิชา. บทว่า สามากโภชนา ได้แก่ มีพืชหญ้าเป็นอาหาร. จริงอยู่ในที่นี้ ท่านถือเอาพืชหญ้าแม้ทั้งหมด ด้วยศัพท์ว่า สามากะ.
แม้ในเรื่องนี้ พระโพธิสัตว์ก็กล่าวว่า บัดนี้ ตั้งแต่นี้ไป เราไม่อาจอยู่ในที่นี้ ดังนี้ แล้วบินไปอยู่ในที่อื่น.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้า 187
พระศาสดาครั้นทรงนําพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะแล้วทรงประชุมชาดก. ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้เหลาะแหละดํารงอยู่ในอนาคามิผล. กาเหลาะแหละในครั้งนั้น. ได้เป็นภิกษุผู้เหลาะแหละในบัดนี้ ส่วนนกพิราบคือเราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถารุจิรชาดกที่ ๕