พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๙. อุปยสูตร ว่าด้วยสังขารเกิดเพราะมีอวิชชา

 
บ้านธัมมะ
วันที่  3 ก.ย. 2564
หมายเลข  36552
อ่าน  367

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 364

๙. อุปยสูตร

ว่าด้วยสังขารเกิดเพราะมีอวิชชา


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 26]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 364

๙. อุปยสูตร

ว่าด้วยสังขารเกิดเพราะมีอวิชชา

[๒๗๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี.

[๒๗๗] ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย... แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อมหาสมุทรน้ำขึ้น ย่อมทำให้แม่น้ำใหญ่น้ำขึ้น เมื่อแม่น้ำใหญ่น้ำขึ้น ย่อมทำให้แม่น้ำน้อยน้ำขึ้น เมื่อแม่น้ำน้อยน้ำขึ้น ย่อมทำให้บึงใหญ่น้ำขึ้น เมื่อบึงใหญ่น้ำขึ้น ย่อมทำให้บึงน้อยน้ำขึ้น ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่ออวิชชาเกิด ย่อมทำให้สังขารเกิด เมื่อสังขารเกิด ย่อมทำให้วิญญาณเกิด เมื่อวิญญาณเกิด ย่อมทำให้นามรูปเกิด เมื่อนามรูปเกิด ย่อมทำให้สฬายตนะเกิด เมื่อสฬายตนะเกิด

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 365

ย่อมทำให้ผัสสะเกิด เมื่อผัสสะเกิด ย่อมทำให้เวทนาเกิด เมื่อเวทนาเกิด ย่อมทำให้ตัณหาเกิด เมื่อตัณหาเกิด ย่อมทำให้อุปาทานเกิด เมื่ออุปาทานเกิด ย่อมทำให้ภพเกิด เมื่อภพเกิด ย่อมทำให้ชาติเกิด เมื่อชาติเกิด ย่อมทำให้ชราและมรณะเกิด ฉันนั้นเหมือนกัน.

[๒๗๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อมหาสมุทรน้ำลง ย่อมทำให้แม่น้ำใหญ่ลดลง เมื่อแม่น้ำใหญ่ลดลง ย่อมทำให้แม่น้ำน้อยลดลง เมื่อแม่น้ำน้อยลดลง ย่อมทำให้บึงใหญ่ลดลง เมื่อบึงใหญ่ลดลง ย่อมทำให้บึงน้อยลดลง ฉันใด เมื่ออวิชชาไม่เกิด ย่อมทำให้สังขารไม่เกิด เมื่อสังขารไม่เกิด ย่อมทำให้วิญญาณไม่เกิด เมื่อวิญญาณไม่เกิด ย่อมทำให้นามรูปไม่เกิด เมื่อนามรูปไม่เกิด ย่อมทำให้สฬายตนะไม่เกิด เมื่อสฬายตนะไม่เกิด ย่อมทำให้ผัสสะไม่เกิด เมื่อผัสสะไม่เกิด ย่อมทำให้เวทนาไม่เกิด เมื่อเวทนาไม่เกิด ย่อมทำให้ตัณหาไม่เกิด เมื่อตัณหาไม่เกิด ย่อมทำให้อุปาทานไม่เกิด เมื่ออุปาทานไม่เกิด ย่อมทำให้ภพไม่เกิด เมื่อภพไม่เกิด ย่อมทำให้ชาติไม่เกิด เมื่อชาติไม่เกิด ย่อมทำให้ชราและมรณะไม่เกิด ฉันนั้นเหมือนกัน.

จบอุปยสูตรที่ ๙

อรรถกถาอุปยสูตรที่ ๙

ในอุปยสูตรที่ ๙ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า อุปยนฺโต ความว่า ไหลลนไปเวลาน้ำขึ้น.

บทว่า มหานทิโย ได้แก่ แม่น้ำใหญ่ มีแม่น้ำคงคาและยมุนาเป็นต้น.

บทว่า อุปยาเปติ ความว่า ให้ล้นไป อธิบายว่า ให้เพิ่ม คือให้เต็ม.

บทว่า อวิชฺชา

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 366

อุปยนฺติ ความว่า อวิชชา ย่อมไหลไปเบื้องบนหรือสามารถเป็นปัจจัยแก่สังขารทั้งหลาย.

บทว่า สงฺขาเร อุปยาเปติ ความว่า ย่อมยังสังขารในเบื้องบนให้เป็นไป คือให้เจริญ.

พึงทราบความทุกๆ บทด้วยประการฉะนี้.

บทว่า อปยนฺโต ได้แก่ ปราศไป คือแล่นลง.

บทว่า อวิชฺชา อปยนฺติ ความว่า อวิชชาไปปราศ คือแล่นลง ย่อมไม่สามารถเป็นปัจจัยแก่สังขารในเบื้องบน.

บทว่า สงฺขาเร อปยาเปติ ได้แก่ ย่อมไม่ยังสังขารให้ดำเนินไป.

ในบททั้งปวงก็นัยนี้.

จบอรรถกถาอุปยสูตรที่ ๙