พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๗. ปฐมอัสสัทธมูลกสูตร ว่าด้วยสัตว์คบค้าสมาคมกันโดยธาตุเดียวกัน

 
บ้านธัมมะ
วันที่  3 ก.ย. 2564
หมายเลข  36586
อ่าน  410

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 451

๗. ปฐมอัสสัทธมูลกสูตร

ว่าด้วยสัตว์คบค้าสมาคมกันโดยธาตุเดียวกัน


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 26]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 451

๗. ปฐมอัสสัทธมูลกสูตร

ว่าด้วยสัตว์คบค้าสมาคมกันโดยธาตุเดียวกัน

[๓๗๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย... แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือสัตว์จำพวกที่ไม่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีศรัทธา สัตว์จำพวกที่ไม่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีหิริ สัตว์จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ สัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย สัตว์จำพวกที่เกียจคร้าน ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่เกียจคร้าน สัตว์จำพวกที่มีสติหลงลืม ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสติหลงลืม สัตว์จำพวกที่มีปัญญาทราม ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีปัญญาทราม.

แม้ในอดีตกาล... แม้ในอนาคตกาล... แม้ในปัจจุบันกาล สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือสัตว์จำพวกที่ไม่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีศรัทธา สัตว์จำพวกที่ไม่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีหิริ สัตว์จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ สัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย สัตว์จำพวกที่เกียจ-

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 452

คร้าน ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่เกียจคร้าน สัตว์จำพวกที่มีสติหลงลืม ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสติหลงลืม สัตว์จำพวกที่มีปัญญาทราม ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีปัญญาทราม.

[๓๗๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือสัตว์จำพวกที่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีศรัทธา สัตว์จำพวกที่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีหิริ สัตว์จำพวกที่มีโอตตัปปะ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีโอตตัปปะ สัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก สัตว์จำพวกที่ปรารภความเพียร ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ปรารภความเพียร สัตว์จำพวกที่มีสติมั่นคง ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสติมั่นคง สัตว์จำพวกที่มีปัญญา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีปัญญา.

แม้ในอดีตกาล... แม้ในอนาคต... แม้ในปัจจุบันกาล สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือสัตว์จำพวกที่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีศรัทธา สัตว์จำพวกที่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีหิริ สัตว์จำพวกที่มีโอตตัปปะ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีโอตตัปปะ สัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก สัตว์จำพวกที่ปรารภความเพียร ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ปรารภความเพียร สัตว์จำพวกที่มีสติ

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 453

มั่นคง ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสติมั่นคง สัตว์จำพวกที่มีปัญญา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีปัญญา.

จบปฐมอัสสัทธมูลกสูตรที่ ๗

อรรถกถาปฐมอัสสัทธมูลกสูตรที่ ๗

พึงทราบวินิจฉัยในปฐมอัสสัทธมูลกสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้.

ในบทเป็นต้นว่า อสฺสทฺธา อสฺสทฺเธหิ ความว่า บุคคลไม่มีโอชา ไม่มีรส เว้นขาดจากศรัทธา ในพระพุทธ พระธรรม หรือพระสงฆ์ อยู่ที่สมุทรฝั่งนี้ ก็เป็นอย่างเดียวกันชั่วนิรันดรกับบุคคลไม่มีศรัทธา ซึ่งอยู่ที่ฝั่งโน้นเพราะความเป็นผู้ไม่มีศรัทธานั้น. บุคคลไม่มีหิริ คือไร้มรรยาท ก็เป็นเช่นเดียวกันกับบุคคลไม่มีหิริ. คนไม่มีโอตตัปปะ คือไม่กลัวต่อการทำบาป ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนไม่มีโอตตัปปะ. คนมีสุตะน้อย คือเว้นขาดจากสุตะ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีสุตะน้อย. คนเกียจคร้าน คือคนมีความเกียจคร้าน ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนเกียจคร้าน. คนมีสติหลงลืม คือเช่นกับกาเก็บอาหารและสุนัขจิ้งจอกเก็บเนื้อ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีสติหลงลืม. คนมีปัญญาทราม คือชื่อว่าหมดปัญญา เพราะไม่มีปัญญาที่จะกำหนดขันธ์เป็นต้น ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีปัญญาทราม.

คนผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือผู้ขวนขวายในกิจมีการไหว้พระเจดีย์เป็นต้น ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีศรัทธา. คนมีหิริ คือคนมีความละอาย ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีหิริ. คนมีโอตตัปปะ คือกลัวบาป ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีโอตตัปปะ. คนมีสุตะมาก คือทรงสุตะ ทรง

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 454

อาคม รักษาแบบแผน รักษาวงศ์ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีสุตะมาก. คนปรารภความเพียร คือมีความพยายามบริบูรณ์ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนปรารภความเพียร. คนมีสติมั่นคง คือประกอบด้วยสติอันกำหนดกิจทั้งปวงได้ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีสติมั่นคง. คนมีปัญญา แม้อยู่ในที่ไกลกับคนผู้มีปัญญามาก คือคนมีปัญญามีความรู้เปรียบเหมือนแก้ววิเชียร ย่อมคบค้ากันได้ สมาคมกันได้ด้วยปัญญาสมบัตินั้น.

จบอรรถกถาปฐมอัสสัทธมูลกสูตรที่ ๗