๔. โนเจทสูตร ว่าด้วยเรื่องธาตุทั้ง ๔
[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 496
๔. โนเจทสูตร
ว่าด้วยเรื่องธาตุทั้ง ๔
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 26]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 496
๔. โนเจทสูตร
ว่าด้วยเรื่องธาตุทั้ง ๔
[๔๐๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย... แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าความแช่มชื่นแห่งปฐวีธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายไม่พึงยินดีในปฐวีธาตุ ก็เพราะความแช่มชื่นแห่งปฐวีธาตุมีอยู่แล ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงยินดีในปฐวีธาตุ ถ้าว่าโทษแห่งปฐวีธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงเบื่อหน่ายในปฐวีธาตุ ก็เพราะโทษแห่งปฐวีธาตุมีอยู่แล ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเบื่อหน่ายในปฐวีธาตุ ถ้าว่าเครื่องสลัดออกแห่งปฐวีธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงสลัด [ตน] ออกจากปฐวีธาตุ ก็เพราะเครื่องสลัดออกจากปฐวีธาตุมีอยู่แล ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงสลัด
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 497
[ตน] ออกจากปฐวีธาตุ ถ้าว่าความแช่มชื่นแห่งอาโปธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้... แห่งเตโชธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้... ถ้าว่าความแช่มชื่นแห่งวาโยธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงยินดีในวาโยธาตุ ก็เพราะความแช่มชื่นแห่งวาโยธาตุมีอยู่แล ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงยินดีในวาโยธาตุ ถ้าว่าโทษแห่งวาโยธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงเบื่อหน่ายในวาโยธาตุ ก็เพราะโทษแห่งวาโยธาตุมีอยู่ ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเบื่อหน่ายในวาโยธาตุ ถ้าว่าเครื่องสลัดออกแห่งวาโยธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงสลัด [ตน] ออกจากวาโยธาตุ ก็เพราะเครื่องสลัดออกแห่งวาโยธาตุมีอยู่แล ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงสลัด [ตน] ออกจากวาโยธาตุ.
[๔๐๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตราบเท่าที่สัตว์เหล่านี้ยังไม่ทราบชัดตามความเป็นจริง ซึ่งความแช่มชื่นโดยเป็นความแช่มชื่น ซึ่งโทษโดยความเป็นโทษ ซึ่งเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก แห่งธาตุทั้ง ๔ เหล่านี้เพียงใด สัตว์เหล่านี้ยังสลัดตนออกไม่ได้ พรากออกไม่ได้ ยังไม่หลุดพ้นไปจากโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก และจากหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ มีใจข้ามพ้นจากแดนกิเลสและวัฏฏะไม่ได้เพียงนั้น.
ก็เมื่อใดแลสัตว์เหล่านี้ได้ทราบชัดตามความเป็นจริง ซึ่งความแช่มชื่นโดยเป็นความแช่มชื่น ซึ่งโทษโดยความเป็นโทษ ซึ่งเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก แห่งธาตุทั้ง ๔ เหล่านี้ เมื่อนั้นสัตว์เหล่านี้ย่อมสลัดตนออกได้ พรากออกได้ หลุดพ้นไปจากโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก และจากหมู่สัตว์ พร้อมทั้ง
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 498
สมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ จึงได้มีใจข้ามพ้นจากแดนกิเลสและวัฏฏะอยู่ ดังนี้.
จบโนเจทสูตรที่ ๔
อรรถกถาโนเจทสูตรที่ ๔
พึงทราบวินิจฉัยในโนเจทสูตรที่ ๔ ดังต่อไปนี้.
บทว่า น (๑) ยิทํ เป็นต้น ท่านประกอบด้วยการปฏิเสธตามที่กล่าวแต่ต้น พึงทราบอย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายออกไม่ได้ พรากออกไม่ได้ หลุดพ้นไปไม่ได้ มีใจข้ามพ้นจากแดนกิเลสไม่ได้อยู่.
พึงทราบวินิจฉัยในนัยที่ ๒.
บทว่า วิมริยาทิกเตน ได้แก่ มีใจไม่มีแดน.
ในบทนั้น แดนมี ๒ คือ แดนคือกิเลส แดนคือวัฏฏะ.
ก็ในบทเหล่านั้น กิเลสของคนใดอันตนละได้แล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งยังละไม่ได้.
ก็หรือว่า วัฏฏะครึ่งหนึ่ง ตนละได้แล้ว อีกครึ่งหนึ่งยังละไม่ได้.
จิตของคนนั้นข้ามพ้นแดน หมายถึง กิเลส หรือวัฏฏะที่ละได้แล้ว.
จิตข้ามพ้นจากแดนไม่ได้ หมายถึง กิเลส หรือวัฏฏะที่ยังละไม่ได้.
ส่วนในที่นี้ ท่านกล่าวว่า มีใจข้ามพ้นจากแดน ดังนี้ เพราะกิเลสและวัฏฏะ แม้ทั้งสองละได้แล้ว. อธิบายว่า มีใจไม่ทำแดนไว้ ข้ามพ้นแดนอยู่.
กล่าวสัจจะ ๔ เท่านั้นไว้ใน ๓ สูตรเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบอรรถกถาโนเจทสูตรที่ ๔
(๑) ม. นิสฺสฏาติ.