พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒. มูลสูตร ว่าด้วยกุศลมูลของพระเทวทัตถูกลาภสักการะครอบงํา

 
บ้านธัมมะ
วันที่  5 ก.ย. 2564
หมายเลข  36680
อ่าน  375

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 674

๒. มูลสูตร

ว่าด้วยกุศลมูลของพระเทวทัตถูกลาภสักการะครอบงํา


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 26]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 674

๒. มูลสูตร

ว่าด้วยกุศลมูลของพระเทวทัตถูกลาภสักการะครอบงำ

[๕๘๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า... ได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญ ทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กุศลมูลของเทวทัตผู้ถูกลาภสักการะและความสรรเสริญครอบงำย่ำยีจิต ถึงความขาดสูญแล้ว ลาภสักการะและความสรรเสริญ ทารุณ ฯลฯ อย่างนี้แล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ.

จบมูลสูตรที่ ๒

อรรถกถามูลสูตรที่ ๒

พึงทราบวินิจฉัยในมูลสูตรที่ ๒ เป็นต้น ดังต่อไปนี้.

บทว่า กุสลมูลํ ได้แก่ กุศลธรรม ๓ อย่าง มีอโลภะเป็นต้น.

อีกอย่างหนึ่ง บทว่า สุกฺโก ธมฺโม ได้แก่ ปริยายเทศนาแห่งกุศลธรรมนั้นเอง.

ส่วนความสังเขปในข้อนี้ มีดังนี้ เทวทัตพึงเกิดบนสวรรค์ หรือพึงบรรลุมรรคผลได้ เพราะธรรมที่ไม่มีโทษกล่าวคือกุศลมูลเป็นต้น ยังไม่ขาด. แต่เทวทัตนั้น อาศัยการตัดขาดแห่งกุศลธรรมนั้น จึงขาดแล้ว จึงฉิบหายแล้ว.

จบอรรถกถามูลสูตรที่ ๒