พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๑. อนุสยสูตร ว่าด้วยการละอนุสัย

 
บ้านธัมมะ
วันที่  5 ก.ย. 2564
หมายเลข  36706
อ่าน  398

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 696

๑๑. อนุสยสูตร

ว่าด้วยการละอนุสัย


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 26]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 696

๑๑. อนุสยสูตร

ว่าด้วยการละอนุสัย

[๖๓๒] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระราหุล เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง เมื่อท่านพระราหุลนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อบุคคลรู้อยู่ เห็นอยู่อย่างไร อหังการ มมังการ และมานานุสัย จึงจะไม่มีในกายที่มีใจครองนี้ และในสรรพนิมิตภายนอก.

[๖๓๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนราหุล รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีตก็ดี ที่เป็นอนาคตก็ดี ที่เป็นปัจจุบันก็ดี ที่เป็นภายในก็ดี ที่เป็นภายนอกก็ดี หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี เลวก็ดี ประณีตก็ดี อยู่ในที่ไกลก็ดี อยู่ในที่ใกล้ก็ดี รูปทั้งหมดนั้น อริยสาวกย่อมเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา ดังนี้ เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง... สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง... สังขารเหล่าใดเหล่าหนึ่ง... วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีตก็ดี ที่เป็นอนาคตก็ดี ที่เป็นปัจจุบันก็ดี ที่เป็นภายในก็ดี ที่เป็นภายนอกก็ดี หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี เลวก็ดี ประณีตก็ดี อยู่ในที่ไกลก็ดี อยู่ในที่ใกล้ก็ดี วิญญาณทั้งหมดนั้น อริยสาวกย่อมเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 697

นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา ดังนี้ ดูก่อนราหุล เมื่อบุคคลผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างนี้แล อหังการ มมังการ และมานานุสัย จึงไม่มีในกายที่มีใจครองนี้ และในสรรพนิมิตภายนอก.

จบอนุสยสูตรที่ ๑๑

อรรถกถาอนุสยสูตรที่ ๑๑

พึงทราบวินิจฉัยในอนุสยสูตรที่ ๑๑ ดังต่อไปนี้.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงกายที่มีวิญญาณของตน ด้วยบทว่า อิมสฺมิญฺจ สวิญฺาณเก กาเย ทรงแสดงกายที่มีวิญญาณ หรือไม่มีวิญญาณของผู้อื่น หรือวิญญาณอย่างเดียว ทั้งของตน ทั้งของผู้อื่น ด้วยบทต้น ทรงแสดงรูปที่เนื่องด้วยอนินทรีย์ภายนอก ด้วยบทหลัง.

บทว่า อหํการมมํการมานานุสยา ได้แก่ ทิฏฐิว่าเป็นเรา ตัณหาว่าของเรา และอนุสัยคือมานะ.

บทว่า น โหนฺติ ได้แก่ ตรัสถามว่า กิเลสเหล่านี้ย่อมไม่มีในวัตถุเหล่านี้แก่ผู้รู้อยู่อย่างไร.

บทว่า สมฺมปฺปญฺาย ปสฺสติ ได้แก่ เห็นด้วยดี ด้วยมรรคปัญญา พร้อมทั้งวิปัสสนาปัญญา.

จบอรรถกถาอนุสยสูตรที่ ๑๑