พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๕. สัตติสูตร ว่าด้วยหอก

 
บ้านธัมมะ
วันที่  5 ก.ย. 2564
หมายเลข  36734
อ่าน  376

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 731

๕. สัตติสูตร

ว่าด้วยหอก


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 26]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 731

๕. สัตติสูตร

ว่าด้วยหอก

[๖๖๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี... พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หอกมีใบอันคม ถ้าบุรุษพึงมากล่าวว่า

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 732

เราจักงอเข้า จักพับ จักม้วน ซึ่งหอกมีใบอันคมนี้ด้วยฝ่ามือ หรือด้วยกำมือ ดังนี้ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นเป็นผู้สามารถเพื่อจะงอเข้า เพื่อจะพับ เพื่อจะม้วน ซึ่งหอกมีใบอันคมโน้นด้วยฝ่ามือ หรือด้วยกำมือได้หรือหนอ.

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า เป็นไปไม่ได้ พระเจ้าข้า.

พ. ข้อนั้นเพราะเหตุไร.

ภ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะว่าการที่จะงอเข้า จะพับและม้วนซึ่งหอกมีใบอันคมด้วยฝ่ามือหรือด้วยกำมือ กระทำไม่ได้ง่าย ก็แหละบุรุษนั้น พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเหน็ดเหนื่อยลำบากถ่ายเดียว แม้ฉันใด.

[๖๖๙] พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เจริญเมตตาเจโตวิมุตติ กระทำให้มาก กระทำให้เป็นประดุจยาน กระทำให้เป็นที่ตั้งอาศัยให้มั่นคง สั่งสม ปรารภด้วยดี ถ้าอมนุษย์จะพึงกระทำจิตของภิกษุนั้นให้ฟุ้งซ่าน อมนุษย์นั้นพึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเหน็ดเหนื่อยลำบากถ่ายเดียว ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเจริญเมตตาเจโตวิมุตติ กระทำให้มาก กระทำให้เป็นประดุจยาน กระทำให้เป็นที่ตั้งอาศัย ให้มั่นคง สั่งสม ปรารภด้วยดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ.

จบสัตติสูตรที่ ๕

อรรถกถาสัตติสูตรที่ ๕

ในสัตติสูตรที่ ๕ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

ในคำว่า ปฏิเลณิสฺสามิ เป็นต้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ ชื่อว่า

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 733

งอ ได้แก่ รวบปลายน้อมมาเหมือนเกลียวฝ้าย และคล้องรวมกันไว้เหมือนเกลียวยางไม้.

ชื่อว่า พับ ได้แก่ รวมตรงกลางแล้วน้อมมา หรือรวมเข้ากับคมแล้วเอาคมทั้ง ๒ คล้องเข้าด้วยกัน.

ชื่อว่า ม้วน ได้แก่ ม้วนเหมือนการกระทำอย่างเกลียวฝ้าย คลี่เสื่อลำแพนที่ม้วนไว้นานแล้วม้วนกลับตามเดิม.

จบอรรถกถาสัตติสูตรที่ ๕