ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกพระศาสนา
การแสวงหาเขตบุญภายนอกพระศาสนา หมายความว่า ไปหาทำบุญกับนักบวชอื่นๆ โดยคิดว่าจะได้บุญมากกว่าการทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์ ถ้าเป็นอุบาสกอุบาสิกาที่มีความเข้าใจในพระธรรมวินัย ย่อมไม่คิดไปหาเนื้อนาบุญอื่นๆ นอกจากพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้ทานกับคนอื่นๆ คือ ให้กับคนทั่วๆ ไปด้วย แต่การทำบุญเพื่อการบูชาคุณของผู้มีคุณเพื่อผลไพบูลย์นั้น ต้องเป็นการถวายต่อภิกษุสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 373
๕. จัณฑาลสูตร
ว่าด้วยธรรมสำหรับอุบาสกดีและอุบาสกชั่ว
[๑๗๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการย่อมเป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน? คือ อุบาสกเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑ เป็นผู้ทุศีล ๑ เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อมงคลไม่เชื่อกรรม ๑ แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้ ๑ ทำการสนับสนุนในศาสนานั้น ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด.
" ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกพระศาสนา " หมายถึง ไม่แสวงหาเพื่อที่จะทำบุญกับพวกนอกศาสนาก่อน แต่ไม่ได้หมายถึงไม่ให้ทำบุญกับคนอื่นเลย แต่การไม่แสวงหาคือการที่ทำบุญกับเขตบุญนี้ (ภิกษุ) ก่อนครับ ถึงแม้เราทำกับบุคคลในศาสนาอื่น ก็ด้วยความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเท่านั้น แต่มิใช่ประกอบด้วยความเห็นผิดที่จะไปบำรุงศาสนาของเขาครับ
เรื่อง การแสวงหาเขตบุญภายนอก มีลักษณะอย่างไร ส่วนไม่แสวงหาก็ตรงกันข้าม
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 82 ข้อความบางตอนจาก
อรรถกถาหานิสูตรที่ ๙
ศีล ๑๐
บทว่า อิโต พหิทฺธา ได้แก่ นอกพระศาสนานี้.
บทว่า ทุกฺขิเณยฺยํคเวสติ ความว่า แสวงหาบุคคลผู้รับไทยธรรม.
บทนี้ อิธ จ ปุพฺพการ กโรติ (การแสวงหาเขตบุญภายนอก) ความว่า ให้ทานแก่พวกเดียรถีย์ ภายนอก (พระศาสนา) เหล่านั้น แล้วจึงถวายทานแก่ภิกษุ ทั้งหลาย ในภายหลังคำที่เหลือในบทว่าทั้งปวง มีอรรถง่ายทั้งนั้น แล
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนา คือ ไม่ได้ทำบุญให้ทานสนับสนุน หรือส่งเสริมศาสนาอื่น แต่ให้ทานเพราะเป็นการอนุเคราะห์ช่วยเหลือคนจน คนที่เดือดร้อน เช่นภัยธรรมชาติ น้ำท่วม คนนั้นเขาก็นับถือศาสนาอื่น ไม่ใช่พุทธ แต่เราก็ช่วยเหลือไม่ให้เขาลำบาก ให้อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค และเงินได้ค่ะ
กรณีที่เราเคยเข้าพิธีแสดงตนเป็นสาวกกับลัทธิศาสนาอื่นในอดีตมาก่อน (ด้วยโลภะ) เคยได้รับป้ายสัญลักษณ์ ซึ่งแสดงถึงการเป็นสมาชิกของลัทธินั้นๆ อย่างนี้เข้าข่ายแสวงหาเขตบุญภายนอกพระศาสนา หรือไม่ ปัจจุบันเรานับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะซึ่งในใจเรายังกังวลอยู่กับเรื่องในอดีตเหล่านั้นอยู่ ควรทำอย่างไรดีคะ
ขณะที่เราเคารพนับถือศาสดาอื่นชื่อว่า สรณคมณ์ของเราขาดแล้ว การที่ใจของเรากังวลอยู่กับเรื่องในอดีตเป็นของธรรมดา เมื่อนานๆ ไปก็ค่อยๆ เลือนหายไปเอง ปัจจุบันเรานับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ควรศึกษาพระธรรมคำสอนให้เข้าใจยิ่งๆ ขึ้นไปควรปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน ควรเจริญกุศลทุกประการ เมื่อใจมีที่ยึดเหนี่ยวที่สมควรย่อมสงบจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
เป็นธรรมดาของปุถุชน ที่ยังไม่มีสรณะที่มั่นคง ดังเช่น พระโสดาบัน ดังนั้น เมื่อมีเหตุปัจจัย สรณะก็ขาดได้ แม้ถ้าตายไป สรณะคมณ์ ก็ขาดเช่นกัน ควรทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ และขอเชิญอ่านเพิ่มเติม ...
แสดงสรณคมน์ขาด ไม่ขาด และผล [ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ]
คนที่ตายไปแล้ว ไม่ควรเศร้าโศกถึง คนที่ยังอยู่ควรมีเมตตากัน
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย