พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๙. รุกขสูตร ธรรมเป็นเครื่องกั้น ๕ อย่าง

 
บ้านธัมมะ
วันที่  9 ต.ค. 2564
หมายเลข  37822
อ่าน  374

[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 256

๙. รุกขสูตร

ธรรมเป็นเครื่องกั้น ๕ อย่าง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 30]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 256

๙. รุกขสูตร

ธรรมเป็นเครื่องกั้น ๕ อย่าง

[๔๙๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ใหญ่ มีพืชน้อย มีลำต้นใหญ่งอกคลุมต้นไม้ทั้งหลาย เป็นเหตุทำต้นไม้ที่มันงอกคลุมแล้ว ให้ล้มหักกระจัดกระจายวิบัติไป.

[๔๙๗] ก็ต้นไม้ใหญ่เหล่านั้น ที่มีพืชน้อย มีลำต้นใหญ่งอกคลุมต้นไม้ทั้งหลาย เป็นเหตุทำต้นไม้ที่มันงอกคลุมแล้ว ให้ล้มหักกระจัดกระจายวิบัติไปเป็นไฉน. คือ ต้นโพธิ ต้นนิโครธ ต้นมิลักขุ (๑) ต้นมะเดื่อ ต้นไทร ต้นมะขวิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ใหญ่เหล่านี้แล ที่มีพืชน้อย มีลำต้นใหญ่งอกคลุมต้นไม้ทั้งหลาย เป็นเหตุทำต้นไม้ที่มันงอกคลุมแล้ว ให้ล้มหักกระจัดกระจายวิบัติไป.

[๔๙๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ละกามเช่นใดแล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต กุลบุตรนั้นย่อมเป็นผู้เสียหายวิบัติไปด้วยกามเช่นนั้น หรือที่เลวกว่านั้น.


(๑) พม่าเป็น ปีลกโข แปลว่า ต้นเลียบ.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 257

[๔๙๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเป็นเครื่องกั้น เป็นเครื่องห้าม ๕ อย่างเหล่านี้ ครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทราม. ๕ อย่างเป็นไฉน. คือ กามฉันทะ เป็นธรรมเครื่องกั้น เป็นธรรมเครื่องห้าม ครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทราม พยาบาท... ถีนมิทธะ... อุทธัจจกุกกุจจะ... วิจิกิจฉา เป็นธรรมเครื่องกั้น เป็นธรรมเครื่องห้าม ครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทราม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเป็นเครื่องกั้น เป็นเครื่องห้าม ครอบงำจิต ทำปัญญาให้ทราม ๕ อย่างเหล่านี้แล.

[๕๐๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ ๗ เหล่านี้ ไม่เป็นธรรมกั้น ไม่เป็นธรรมห้าม ไม่ครอบงำจิต อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อทำให้แจ้งซึ่งผล คือ วิชชาและวิมุตติ. โพชฌงค์ ๗ เป็นไฉน คือ สติสัมโพชฌงค์ ไม่เป็นธรรมกั้น ไม่เป็นธรรมห้าม ไม่ครอบงำจิต อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อทำให้แจ้งซึ่งผล คือ วิชชาและวิมุตติ. ฯลฯ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ไม่เป็นธรรมกั้น... ย่อมเป็นไปเพื่อทำให้แจ้งซึ่งผล คือ วิชชาและวิมุตติ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ ๗ เหล่านี้แล ไม่เป็นธรรมกั้น ไม่เป็นธรรมห้าม ไม่ครอบงำจิต อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อทำให้แจ้งซึ่งผล คือวิชชา และวิมุตติ.

จบรุกขสูตรที่ ๙

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 258

อรรถกถารุกขสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในรุกขสูตรที่ ๙.

บทว่า อชฺฌารุหา แปลว่า งอกขึ้น. บทว่า กจฺฉโก แปลว่า ต้นไทร. บทว่า กปิตฺถโน ได้แก่ ต้นมิลักขุเกิดขึ้นแล้วมีผลเช่นกับนมลิง.

จบอรรถกถารุกขสูตรที่ ๙