พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒. จักกวัตติสูตร รัตนะ ๗ อย่าง

 
บ้านธัมมะ
วันที่  9 ต.ค. 2564
หมายเลข  37827
อ่าน  419

[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 262

๒. จักกวัตติสูตร

รัตนะ ๗ อย่าง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 30]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 262

๒. จักกวัตติสูตร

รัตนะ ๗ อย่าง

[๕๐๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ รัตนะ ๗ อย่าง จึงปรากฏ รัตนะ ๗ อย่างเป็นไฉน คือ จักรแก้ว ๑ ช้างแก้ว ๑ แก้วมณี ๑ นางแก้ว ๑ คฤหบดีแก้ว ๑ ปริณายกแก้ว ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ รัตนะ ๗ อย่างเหล่านี้ จึงปรากฏ.

[๕๐๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรากฏ รัตนะ คือ โพชฌงค์ ๗ จึงปรากฏ. รัตนะ คือโพชฌงค์ ๗ เป็นไฉน. ได้แก่ รัตนะ คือ สติสัมโพชฌงค์ ฯลฯ รัตนะ คือ อุเบกขาสัมโพชฌงค์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรากฏ รัตนะ คือ โพชฌงค์ ๗ เหล่านี้ จึงปรากฏ.

จบจักกวัตติสูตรที่ ๒

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 263

อรรถกถาจักกวัตติสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในจักกวัตติสูตรที่ ๒

ในบทว่า รญฺโ ภิกฺขเว จกฺกวตฺติสฺส นี้ ชื่อว่า พระราชา เพราะอรรถว่า ทรงยินดีในสิริสมบัติของพระองค์ หรือทรงให้พสกนิกรยินดีด้วยสังคหวัตถุ ๔ ชื่อว่า เจ้าจักรพรรดิ เพราะอรรถว่า สั่งการอยู่ด้วยวาจาคล่องแคล่ว ยังจักรให้เป็นไปด้วยบุญญานุภาพว่า ขอจักรรัตนะจงแล่นไปตลอดภพ ดังนี้.

บทว่า ปาตุภาวา แปลว่า เพราะปรากฏ. บทว่า สตฺตนฺนํ แปลว่า กําหนดการถือเอา. บทว่า รตนานํ ได้แก่ แสดงเรื่องที่กําหนด. ส่วนความหมายของคำในบทนี้ ชื่อว่า รัตนะ เพราะอรรถว่า ให้เกิดความยินดี.

อีกอย่างหนึ่งว่า

ที่เรียกว่า รัตนะ เพราะทำความเคารพ มีค่ามาก ชั่งไม่ได้ เห็นได้ยาก เป็นของใช้ของสัตว์ผู้ไม่ทราม ดังนี้.

จำเดิมแต่จักรรัตนะบังเกิด ชื่อว่า เทวสถานอื่น ย่อมไม่มี. คนทั้งปวงกระทำการบูชาและอภิวาทเป็นต้น ซึ่งรัตนะนั้นอย่างเดียว ด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น ดังนั้น จึงชื่อว่า รัตนะ เพราะอรรถว่า ทำความเคารพ. ส่วนจักรรัตนะมีค่าหามิได้ เพราะทรัพย์ยังมีค่าประมาณเท่านี้ ดังนั้นจึงชื่อว่า รัตนะ แม้เพราะอรรถว่า มีค่ามาก. จักรรัตนะไม่เหมือนกับรัตนะที่มีอยู่ในโลกอย่างอื่น ดังนั้นจึงชื่อว่า รัตนะ เพราะอรรถว่า ชั่งไม่ได้. ก็เพราะในกัปที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่อุบัติ พระเจ้าจักรพรรดิและพระ-

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 264

ปัจเจกพุทธเจ้า ย่อมเกิดในกาลบางครั้งบางคราวเท่านั้น ฉะนั้น จึงชื่อว่า รัตนะ เพราะอรรถว่า เห็นได้ยาก. รัตนะนี้นั้น ย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์อันโอฬาร ไม่ต่ำ โดยชาติ รูป ตระกูล และความเป็นใหญ่เป็นต้น หาเกิดขึ้นแก่สัตว์อื่นไม่ ดังนั้น จึงชื่อว่า รัตนะ เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องใช้สอยของสัตว์ที่ไม่ทราม. รัตนะแม้ที่เหลือก็เหมือนจักรรัตนะฉะนั้น ด้วยประการฉะนี้. เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า

เรียกว่า รัตนะ เพราะทำความเคารพ มีค่ามาก ชั่งไม่ได้ เห็นได้ยาก เป็นของใช้ของสัตว์ผู้ไม่ทราม ดังนี้.

บทว่า ปาตุภาโว โหติ ได้แก่ ความบังเกิด. ในข้อนี้มีวาจาประกอบความดังนี้ ข้อว่า พระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ รัตนะ ๗ จึงปรากฏ ดังนี้ก็ควร. ข้อว่า ชื่อว่า พระเจ้าจักรพรรดินั้น ย่อมยังจักรอันเกิดแล้วให้หมุนไป ดังนี้ก็ควร. ถามว่า เพราะเหตุไร. ตอบว่า เพราะมุ่งถึงความนิยมของพระเจ้าจักรพรรดิ. ก็ผู้ใดจักยังจักรให้หมุนไปตามความนิยม ผู้นั้นตั้งแต่ปฏิสนธิย่อมถึงความเป็นผู้ควรกล่าวว่า พระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ ดังนี้. คำนั้น ก็ควรเหมือนกัน เพราะพูดถึงความเกิดแห่งมูลของบุรุษที่ได้ชื่อแล้ว ก็ผู้ใดเป็นสัตว์วิเศษ ได้ชื่อว่า พระเจ้าจักรพรรดิ ความปรากฏกล่าวคือ ปฏิสนธิของผู้นั้นมีอยู่ ดังนี้ เป็นอธิบายในข้อนี้. ก็เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ รัตนะทั้งหลายย่อมปรากฏ. พระเจ้าจักรพรรดินั้น ย่อมประกอบอยู่ในบุญสมภารแก่เต็มที่พร้อมกับรัตนะเหล่านั้น ที่ปรากฏ.

ในกาลนั้น ชาวโลกเกิดความคิด ปรากฏในรัตนะเหล่านั้น ข้อนั้นก็ควร เพราะพูดถึงกันมาก ก็เมื่อใด สัญญามีความปรากฏในรัตนะเหล่านั้น

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 265

เกิดขึ้นแก่ชาวโลก เมื่อนั้น ก็เป็นอย่างเดียวเท่านั้นก่อน ภายหลังปรากฏรัตนะนอกนี้ ๖ อย่าง เพราะฉะนั้น จึงถึงรัตนะนั้นอย่างนี้ เพราะพูดถึงกันมาก แม้โดยความต่างเนื้อความแห่งความปรากฏ ข้อนั้นก็ควรแล้ว ความปรากฏมิใช่ปรากฏเพียงอย่างเดียว ชื่อว่า ปาตุภาวะ เพราะยังความปรากฏให้เกิดขึ้น นี้เป็นประเภทแห่งความของความปรากฏ เพราะการสั่งสมบุญอันใด ยังพระเจ้าจักรพรรดิให้ปรากฏด้วยอำนาจปฏิสนธิ ชื่อว่า ปาตุภาวะ นี้เป็นประเภทแห่งความของความปรากฏ เพราะการสั่งสมบุญใด ยังพระเจ้าจักรพรรดิให้ปรากฏด้วยอำนาจปฏิสนธิ ฉะนั้น ความปรากฏแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ไม่เป็นจักรพรรดิอย่างเดียว แต่แม้รัตนะ ๗ เหล่านี้ ก็ปรากฏด้วย เพราะฉะนั้น นี้เป็นอธิบายในข้อนี้. เหมือนอย่างว่า การสั่งสมบุญนั้นเป็นเหตุให้เกิดพระราชา ฉันใด การสั่งสมบุญเป็นเหตุอุปนิสัย แม้แห่งรัตนะ โดยปริยาย ฉันนั้น เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความปรากฏแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ จึงเป็นความปรากฏ แห่งรัตนะ ๗ ด้วยดังนี้.

บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสคำเป็นต้นว่า กตเมสํ สตฺตนฺนํ จกฺกรตนสฺส ดังนี้ เพื่อทรงแสดงรัตนะเหล่านั้น โดยอำนาจสรุป. ในบทเหล่านั้น ในบทเป็นต้นว่า จกฺกรตนสฺส มีอธิบายโดยย่อดังนี้ จักรแก้วสามารถเพื่อยึดสิริสมบัติของทวีปใหญ่ ๔ มีทวีปสองพันเป็นบริวารมาให้ปรากฏอยู่. ช้างแก้วไปสู่เวหาส อันสามารถติดตามไปสู่แผ่นดินมีสาครเป็นที่สุด มาให้ได้ก่อนภัตรอย่างนั้น ม้าแก้วก็เช่นนั้นเหมือนกัน. แก้วมณีอันสามารถกำจัดความมืดประมาณโยชน์ในที่มืด แม้ประกอบด้วยองค์สี่ มองเห็นแสงสว่างได้. นางแก้ว มีปกติเว้นโทษ ๖ อย่างแล้ว เที่ยวไปได้ตามชอบใจ. คฤหบดีแก้ว อันสามารถเห็นขุมทรัพย์อยู่ภายในแผ่นดินในประเทศประมาณ

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 266

โยชน์. ปริณายกแก้ว กล่าวคือบุตรคนหัวปี ผู้เกิดในท้องของอัครมเหสีแล้วเป็นผู้สามารถปกครองสมบัติทั้งสิ้นได้ปรากฏอยู่ ดังนั้น นี้เป็นอธิบายย่อในข้อนี้.

ส่วนวิธีปรากฏแห่งจักรแก้วเป็นต้นเหล่านั้น มาแล้วในสูตรมีมหาสุทัสสนะเป็นต้น โดยพิสดารแล แม้อธิบายวิธีปรากฏของจักรแก้วนั้น ท่านพรรณนาไว้ในอรรถกถาแห่งสูตรเหล่านั้นแล.

ในบทว่า สติสมฺโพชฺฌงฺครตนสฺส เป็นต้น พึงทราบแม้ความที่มีลักษณะคล้ายกันอย่างนี้. จักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เที่ยวไปก่อนกว่ารัตนะทั้งปวง ฉันใด สติสัมโพชฌังครัตนะ เที่ยวไปก่อนกว่าธรรมที่เป็นไปในภูมิ ๔ ทั้งปวง ฉันนั้น คือเปรียบด้วยจักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เพราะอรรถว่าเที่ยวไปก่อน. บรรดารัตนะทั้งหลาย ช้างแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เกิดร่างใหญ่ สูง ไพบูลย์ใหญ่ ธัมมวิจยสัมโพชฌังครัตนะ เข้าถึงหมู่ธรรมเป็นอันมาก สูงแผ่ไป กว้างใหญ่ ดังนั้น จึงเปรียบด้วยช้างแก้ว. ม้าแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิมีฝีเท้าเร็ว วิริยสัมโพชฌังครัตนะ แม้นี้มีกําลังฉับพลัน ดังนั้น จึงเปรียบด้วยม้าแก้ว เหตุมีกําลังฉับพลันนี้. แก้วมณีของพระเจ้าจักรพรรดิ กําจัดความมืดให้สว่างได้ ปีติสัมโพชฌังครัตนะ แม้นี้อยู่ในหมู่ธรรมเป็นอันมาก กําจัดความมืดคือกิเลสให้สว่างด้วยญาณ ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัยเป็นต้น เพราะเป็นกุศลโดยส่วนเดียว ดังนั้น จึงเปรียบด้วยแก้วมณี เหตุกําจัดความมืดให้สว่างนี้.

นางแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ ระงับความกระวนกระวายทางกายและทางจิต ให้ความร้อนสงบ ปัสสัทธิสัมโพชฌังครัตนะ แม้นี้ ระงับความกระวนกระวายทางกายและทางจิต ให้ความร้อนสงบ ดังนั้น จึงเปรียบด้วยนางแก้ว. คฤหบดีแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ กําหนดความฟุ้งซ่าน ทำให้จิต

 
  ข้อความที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 267

มีอารมณ์เดียวด้วยการให้ทรัพย์ ในขณะที่ตนปรารถนาแล้วและปรารถนาแล้ว สมาธิสัมโพชฌังครัตนะแม้นี้ ยังอัปปนาให้ถึงพร้อมด้วยอำนาจความที่ตน ปรารถนาเป็นต้น ตัดขาดแล้วซึ่งความฟุ้งซ่าน ทำจิตให้มีอารมณ์เดียว ดังนั้น จึงเปรียบด้วยคฤหบดีแก้ว. ส่วนปริณายกแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ ทำความขวนขวายน้อยให้ ด้วยการทำกิจในที่ทั้งปวงให้สำเร็จ อุเบกขาสัมโพชฌังครัตนะแม้นี้ เปลื้องจิตตุปบาทจากความหดหู่และความฟุ้งซ่าน ทำความขวนขวายน้อย วางตนไว้ในท่ามกลางประกอบความเพียร ดังนั้น จึงเปรียบด้วยปริณายกแก้ว. พึงทราบว่า การกําหนดธรรมที่รวมไว้ทั้งหมดเป็น ๔ ภูมิ ได้กล่าวไว้ในสูตรนี้ ด้วยประการฉะนี้.

จบอรรถกถาจักกวัตติสูตรที่ ๒