๓. ปริหานสูตร ว่าด้วยความเสื่อมแห่งพระสัทธรรม
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 464
๓. ปริหานสูตร
ว่าด้วยความเสื่อมแห่งพระสัทธรรม
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 30]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 464
๓. ปริหานสูตร (๑)
ว่าด้วยความเสื่อมแห่งพระสัทธรรม
[๗๗๓] สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์และท่านพระภัททะ อยู่ ณ กุกกุฏาราม ใกล้เมืองปาฏลีบุตร. ครั้งนั้น ท่านพระภัททะออกจากที่เร้นในเวลาเย็น เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระอานนท์ ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้วได้ถามท่านพระอานนท์ว่า
[๗๗๔] ดูก่อนท่านอานนท์ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องทำให้พระสัทธรรมเสื่อม. อะไรหนอเป็เหตุเป็นปัจจัย เครื่องทำให้พระสัทธรรมไม่เสื่อม.
ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ดีละๆ ท่านภัททะ ท่านช่างคิด ช่างเฉียบแหลม ช่างไต่ถามเหมาะๆ. ก็ท่านถามอย่างนี้หรือว่า ดูก่อนอานนท์ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องทำให้พระสัทธรรมเสื่อม อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องทำให้พระสัทธรรมไม่เสื่อม.
ภ. อย่างนั้น ท่านผู้เจริญ.
[๗๗๕] อา. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ เพราะบุคคลไม่ได้เจริญ ไม่ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ พระสัทธรรมจึงเสื่อม. และเพราะบุคคลได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ พระสัทธรรมจึงไม่เสื่อม. สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย.
(๑) ไม่มีอรรถกถาแก้
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 465
พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่... พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่... พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ เพราะบุคคลไม่ได้เจริญ ไม่ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้แล พระสัทธรรมจึงเสื่อม เพราะบุคคลได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านั้นแล พระสัทธรรมจึงไม่เสื่อม.
จบปริหานสูตรที่ ๓