พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๖. ปเทสสูตร ว่าด้วยบุคคลจะชื่อว่าเป็นพระเสขะ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  11 ต.ค. 2564
หมายเลข  37883
อ่าน  349

[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 468

๖. ปเทสสูตร

ว่าด้วยบุคคลจะชื่อว่าเป็นพระเสขะ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 30]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 468

๖. ปเทสสูตร

ว่าด้วยบุคคลจะชื่อว่าเป็นพระเสขะ

[๗๘๑] สมัยหนึ่งท่านพระสารีบุตร ท่านพระมหาโมคคัลลานะ และ ท่านพระอนุรุทธะอยู่ ณ กัณฏกีวัน ใกล้เมืองสาเกต. ครั้งนั้นท่านพระสารีบุตรและท่านพระมหาโมคคัลลานะออกจากที่พักผ่อนในเวลาเย็น เข้าไปหาท่านพระอนุรุทธะถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระอนุรุทธะ ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้ถามท่านพระอนุรุทธะว่า

[๗๘๒] ดูก่อนท่านอนุรุทธะ ที่เรียกว่า พระเสขะๆ ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ บุคคลจึงจะชื่อว่าเป็นพระเสขะ. ท่านพระอนุรุทธะตอบว่า ดูก่อนผู้มีอายุ บุคคลที่จะชื่อว่าเป็นพระเสขะ เพราะเจริญสติปัฏฐาน ๔ ได้เป็นส่วนๆ. สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย. ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่... ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่... ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย. ดูก่อนผู้มีอายุ บุคคลที่จะชื่อว่าเป็นพระเสขะ เพราะเจริญสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้แล ได้เป็นส่วนๆ.

จบปเทสสูตรที่ ๖

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 24 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 469

อรรถกถาปเทสสูตร

ในสูตรที่ ๖. คำว่า เพราะอบรมได้เป็นบางส่วน คือเพราะความที่อบรมได้โดยเป็นบางส่วน. จริงอยู่ ผู้ที่กำลังทำให้มรรค ๔ และผล ๓ เกิดขึ้น ชื่อว่าได้อบรมสติปัฏฐานได้เป็นบางส่วน.

จบอรรถกถาปเทสสูตรที่ ๖