อวิชชา และ วิชชา เป็นหัวหน้าแห่งอกุศล และ กุศล
ทรงแสดง อวิชชาสูตร ให้เห็นว่าสภาพของอกุศลธรรมทั้งหลาย ที่เกิดขึ้น จะขาดอวิชชาไม่ได้เลย และเราก็อาจจะไม่รู้ว่า อวิชชาอยู่ที่ไหน อย่างบางคนก็ถามว่า อวิชชาไม่รู้อะไร แม้ไม่รู้ ก็ไม่รู้ว่า ไม่รู้อะไร ด้วยเหตุนี้จึงต้องเป็นผู้ที่ละเอียดในการฟังพระธรรม
ทำไมในสูตรนี้ กล่าวถึงอวิชชา แสดงให้เห็นว่า เรารู้หรือเปล่าว่าเรามีอวิชชา หรือว่าเกิดมาไม่เคยรู้เลย ว่าปัญญารู้อะไร และอวิชชาไม่รู้อะไร เพราะฉะนั้นถ้ากล่าวถึงวิชชาให้เราเข้าใจถูกต้อง ว่ามีมากระดับไหน ก็จะทำให้เราค่อยๆ เห็นถูก มีปัญญาที่จะรู้ว่า การที่จะมีทางที่ถูกได้ ก็ต้องด้วยความเห็นถูก คือสัมมาทิฏฐิ เพราะเหตุว่าทางมี ๒ ทาง ทางถูกกับทางผิด แม้ในการที่จะอบรมเจริญปัญญาที่จะดับกิเลสก็ตาม ไม่ใช่ว่าผู้ที่ไม่มีความเห็นถูกเลย แล้วสามารถที่จะเดินทางที่เห็นถูกได้ แต่ว่าต้องเป็นผู้ที่มีความเห็นถูกในขั้นแรก แล้วต่อไปมรรคองค์อื่นๆ ก็เจริญ อย่างถ้าไม่มีความเห็นถูกเลย จะมีการดำริ คิดในทางที่ถูกไหม ทุกวันเราคิดในทางที่ถูกหรือในทางที่ผิด แต่เราก็ไม่รู้อีก ต่อเมื่อใดมีอกุศลจิตเกิด อย่างโลภะเกิด รู้ไหมว่ามีอวิชชาด้วย ไม่รู้เลย เวลาที่โทสะเกิด รู้ไหมว่ามีอวิชชาด้วย ก็ไม่รู้อีก
เพราะฉะนั้น จึงแสดง อวิชชาสูตร ให้เห็นว่าสภาพของอกุศลธรรมทั้งหลาย ที่เกิดขึ้น จะขาดอวิชชาไม่ได้เลย และเราก็อาจจะไม่รู้ว่า อวิชชาอยู่ที่ไหน อย่างบางคนก็ถามว่า อวิชชาไม่รู้อะไร แม้ไม่รู้ ก็ไม่รู้ว่าไม่รู้อะไร ด้วยเหตุนี้จึงต้องเป็นผู้ที่ละเอียดในการฟังพระธรรม เพราะว่าพระธรรมที่เป็นจริง และทรงแสดงธรรมตามความเป็นจริง ละเอียดมาก เป็นเรื่องของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป ตามเหตุตามปัจจัย ทีละหนึ่งขณะจิต อย่างรวดเร็วมาก แม้ขณะนี้ก็เป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นก็เริ่มเห็นอวิชชา ใช่ไหม ไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ ก็เป็นอวิชชา เพราะไม่รู้ว่าเป็นสภาพธรรมที่เกิดแล้วก็ดับ สืบต่ออย่างเร็วมาก จนกระทั่งเหมือนกับอยู่ในโลกของนิมิตจริงๆ ไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังกล่าวถึงแม้อวิชชา เพียงแต่เริ่มที่จะฟังให้เข้าใจ ว่าขณะใดก็ตามที่เป็นอกุศล ขณะนั้นต้องมีอวิชชาด้วย
ที่มา ฟัง และ อ่านเพิ่มเติม