บทภาชนีย์ สันถตภาณวาร
[เล่มที่ 1] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 590
บทภาชนีย์ สันถตภาณวาร
๑. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 590
(๒๖)
๒. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 591
๓. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 593
๔. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 594
๕. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 596
๖. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 597
๗. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 598
๘. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 600
๙. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 601
๑๐. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 603
๑๑. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 604
๑๒. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 606
๑๓. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 607
๑๔. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 608
๑๕. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 610
๑๖. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 611
๑๗. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 612
๑๘. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 614
๑๙. มนุสสิตถี มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 615
๒๐. มนุสสิตถี มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 617
๒๑. มนุสสิตถี มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 618
๒๒. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 620
(๒๗)
๒๓. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 621
๒๔. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 622
๒๕. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 624
๒๖. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนปัส] หน้า 625
๒๗. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 627
อมนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ หน้า 628
๓. หมวดติรัจฉานคติตถี ๒๗ จตุกกะ
ติรัจฉานคติตถี สุทธิกะจตุกกะ หน้า 629
๔. หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
มนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ หน้า 629
๕. หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
อมนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ หน้า 630
๖. หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
ติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ หน้า 630
๑. มนุสสะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 631
๒. มนุสสะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 632
๓. มนุสสะปัณฑกะ ชาครันตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 633
๔. มนุสสะปัณฑกะ ชาครันตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 635
๕. มนุสสะปัณฑกะ สุตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 636
๖. มนุสสะปัณฑกะ สุตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 638
๗. มนุสสะปัณฑกะ มัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 639
๘. มนุสสะปัณฑกะ มัตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 641
๙. มนุสสะปัณฑกะ อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 642
๑๐. มนุสสะปัณฑกะ อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 643
๑๑. มนุสสะปัณฑกะ ปมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 645
๑๒. มนุสสะปัณฑกะ ปมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 646
๑๓. มนุสสะปัณฑกะ มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 648
๑๔. มนุสสะปัณฑกะ มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 649
๑๕. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 651
๑๖. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 653
๑๗. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ] หน้า 654
๑๘. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก] หน้า 656
๘. หมวดอมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
อมนุสสะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ หน้า 658
๙. หมวดติรัจฉานคตะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
ติรัจฉานคตะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ หน้า 658
๑๐. หมวดมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
มนุสสะปุริสะ สุทธิกะจตุกกะ หน้า 658
๑๑. หมวดอมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
อมนุสสะปุริสะ สุทธิกะจตุกกะ หน้า 659
๑๒. หมวดติรัจฉานคตะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
ติรัจฉานคตะปุริสะ สุทธิกะจตุกกะ หน้า 659
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 1]
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 590
บทภาชนีย์ สันถตภาณวาร
๑. หมวดมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ
๑. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [ยอนวัจ]
[๔๓] พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุผู้มีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 591
ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วแต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๒. มนุสสิตถีสุทธิกะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงแล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 592
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 593
ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.๓. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [ยอนปาก] พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออกต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 594
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๔. มนุสสิตถี ชาครันจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่อง
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 595
ลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของหญิงมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 596
๕. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของหญิงมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของหญิงมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่อง
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 597
ลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๖. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 598
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๗. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่อง
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 599
ลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 600
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๘. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 601
เครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๙. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 602
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออกก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 603
ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๐. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมาแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 604
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๑. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 605
เครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 606
๑๒. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงแล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมาแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 607
หญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เมา แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๓. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พาภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ๑ ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่มียินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 608
ภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๔. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 609
เครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงวิกลจริต แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 610
๑๕. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสําหนักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ๑ ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 611
หญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริต แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๖. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 612
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๗. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 613
เครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 614
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๑๘. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปาดด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 615
หญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๑๙. มนุสสิตถี มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 616
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องสาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วแต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 617
ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๒๐. มนุสสิตถี มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดแล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 618
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักภิกษุผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของหญิงมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๒๑. มนุสสิตถี มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 619
มีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มาเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 620
๒๒. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 621
เครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๒๓. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 622
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๒๔. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 623
ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 624
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลากของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๒๕. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกุ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตาย แล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่อง ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุก็มีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตาย แล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 625
ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตาย แล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๒๖. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนปัส]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 626
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่อง
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 627
ลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๒๗. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู่ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วแต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 628
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของหญิงไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของหญิงก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของหญิงก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
หมวดมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ จบ
๒. หมวดอมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ
อมนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักอมนุษย์ผู้หญิง ... อมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดอมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะจบ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 629
๓. หมวดติรัจฉานคติตถี ๒๗ จตุกกะ
ติรัจฉานคติตถี สุทธิกะจตุกกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย ... สัตว์
ดิรัจฉานตัวเมียผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด ถ้าเธอยินดีการเข้ไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
๔. หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
มนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์อุภโตพยัญชนก..มนุษย์อุภโตพยัญชนกผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด..ให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ จบ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 630
๕. หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
อมนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักอมนุษย์อุภโตพยัญชนก ... อมนุษย์อุภโตพยัญชนกผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ จบ
๖. หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
ติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักสัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนก ... สัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนกผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด..ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด ... ให้ยอนปัสสาวมรรคด้วยองค์กําเนิดให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก..ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ จบ (๑)
(๑) ๒๗ x ๖ = ๑๖๒ พึงทราบความพิสดารดังกล่าวแล้วในเบื้องต้น.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 631
๗. หมวดมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
๑. มนุสสะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่อง
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 632
ลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๒. มนุสสะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 633
บัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๓. มนุสสะปัณฑกะ ชาครันตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 634
เครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 635
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๔. มนุสสะปัณฑกะ ชาครันตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้ไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 636
เครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๕. มนุสสะปัณฑกะ สุตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 637
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 638
ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.๖. มนุสสะปัณฑกะ สุตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วแต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 639
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้หลับ แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๗. มนุสสะปัณฑกะ มัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมา แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีกรเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมา แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 640
เครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมาแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมา แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมาแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 641
๘. มนุสสะ ปัณฑกะ มัตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมาแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมา แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมา แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมาแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของหญิงมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 642
เครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เมา แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๙. มนุสสะปัณฑกะ อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 643
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้ให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๐. มนุสสะปัณฑกะ อุมมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 644
ภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุก็มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 645
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้วิกลจริตแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๑. มนุสสะปัณฑกะ ปมัตตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 646
ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็เครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ
๑๒. มนุสสะปัณฑกะ ปมัตตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 647
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้เผลอสติแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของหญิงมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 648
บัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๑๓. มนุสสะปัณฑกะ มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปแต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 649
ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้วไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนอก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๔. มนุสสะปัณฑกะ มตะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของหญิงมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 650
ไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปแต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 651
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.
๑๕. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 652
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออกต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออกต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 653
๑๖. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออกต้องอาบัติปาราชิก.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 654
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่แต่ยินดีการถอนออกต้องอาบัติปาราชิก.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออกไม่ต้องอาบัติ.
๑๗. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนวัจ]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 655
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้ถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออกต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออกต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมี
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 656
เครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ไม่ยินดีการถอนออก
๑๘. มนุสสะปัณฑกะ มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ยอนปาก]
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากแล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปแต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิดคือของภิกษุมีเครื่องลาด
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 657
ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก แล้วให้ยอนปากด้วยองค์กําเนิด คือ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุมีเครื่องลาดของบัณเฑาะก์ก็มีเครื่องลาด ๑ ของภิกษุไม่มีเครื่องลาด ของบัณเฑาะก์ก็ไม่มีเครื่องลาด ๑ ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไปไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ
หมวดมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ จบ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 658
๘. หมวดอมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
อมนุสสะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักอมนุษย์บัณเฑาะก์ ... อมนุษย์บัณเฑาะก์ผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ถ้าไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดอมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ จบ
๙. หมวดติรัจฉานคตะปัณฑกะ๑๘ จตุกกะ
ติรัจฉานคตะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักสัตว์ดิรัจฉานบัณเฑาะก์ ... สัตว์ดิรัจฉานบัณเฑาะก์ผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ถ้าไม่ยินดีไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดติรัจฉานคตะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ จบ
๑๐. หมวดมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
มนุสสะปุริสะ สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักมนุษย์ผู้ชาย ... มนุษย์ผู้ชายผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ถ้าไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ จบ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 659
๑๑. หมวดอมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
อมนุสสะปุริสะ สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักอมนุษย์ผู้ชาย ... อมนุษย์ผู้ชายผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอจริต ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ถ้าไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดอมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ จบ
๑๒. หมวดติรัจฉานคตะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
ติรัจฉานคตะปุริสะ สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสํานักสัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ ... สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติปาราชิก ... ถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ถ้าไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
หมวดติรัจฉานคตะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ จบ (๑)
[๔๔] พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึกเราให้พิสดารแล้วฉันใด พวกพระราชาผู้เป็นข้าศึก พวกโจรผู้เป็นข้าศึก พวกนักเลงผู้เป็นข้าศึก พวกมนุษย์ผู้ตัดหัวใจผู้เป็นข้าศึก บัณฑิตพึงให้พิสดารฉันนั้น.
[๔๕] ภิกษุสอดองค์กําเนิดเข้ามรรคทางมรรค ต้องอาบัติปาราชิก
สอดองค์กําเนิด (๒) เข้ามรรคทางมรรค ต้องอาบัติปาราชิก
สอดองค์กําเนิด (๓) เข้ามรรคทางอมรรค ต้องอาบัติปาราชิก
(๑) ความพิสดาร พึงทราบตามนัยที่กล่าวแล้วในเบื้องต้น ๒. ยังองค์กําเนิดให้เข้าไปทางปัสสาวมรรคเป็นต้น แล้วถอนออกทางแผลใกล้ต่อมรรคนั้น ๓. ยังองค์กําเนิดให้เข้าทางแผลใกล้ต่อมรรคแล้วถอนออกทางมรรค.
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 660
สอดองค์กําเนิดเข้าอมรรคทางอมรรค ต้องอาบัติถุลลัจจัย.
[๔๖] ภิกษุปฏิบัติผิดในภิกษุผู้หลับ เธอตื่นขึ้นแล้วยินดี พระวินัยธร
พึงนาสนะเสียทั้งสองรูป เธอตื่นขึ้นแล้วไม่ยินดี พระวินัยธรพึงนาสนะภิกษุผู้ประทุษร้าย
ภิกษุปฏิบัติผิดในสามเณรผู้หลับ เธอตื่นขึ้นแล้วยินดี พระวินัยธรพึงนาสนะเสียทั้งสองรูป เธอตื่นขึ้นแล้วไม่ยินดีพระวินัยธรพึงนาสนะภิกษุผู้ประทุษร้าย
สามเณรปฏิบัติผิดในภิกษุผู้หลับ เธอตื่นขึ้นแล้วยินดี พระวินัยธรพึงนาสนะเสียทั้งสองรูป เธอตื่นขึ้นแล้วไม่ยินดี พระวินัยธรพึงนาสนะสามเณรผู้ประทุษร้าย
สามเณรปฏิบัติผิดในสามเณรผู้หลับ เธอตื่นขึ้นแล้วยินดี พระวินัยธรพึงนาสนะเสียทั้งสองรูป เธอตื่นขึ้นแล้วไม่ยินดีพระวินัยพึงนาสนะสามเณรผู้ประทุษร้าย.
อนาปัตติวาร
[๔๗] ภิกษุไม่รู้สึกตัว ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุมีจิตฟุ้งซ่าน ๑ภิกษุผู้กระสับกระส่ายเพราะเวทนา ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ เหล่านี้ ไม่ต้องอาบัติ
สันถตภาณวาร จบ