ขันธยมกที่ ๒ - อุปปาทนิโรธวาระ
[เล่มที่ 82] พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑
พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๕
ยมก ภาคที่ ๑ ตอนที่ ๑
ขันธยมกที่ ๒
อุปปาทนิโรธวาระ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก 253
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 82]
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 219
อุปปาทนิโรธวาระ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี : -
[๒๒๐] รูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็กำลังดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์กำลังดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 220
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๒๑] เวทนาขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ก็กำลัง ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์กำลังดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๒๒] รูปขันธ์กำลังเกิดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็กำลังดับ ในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 221
ในอสัญญสัตตภูมิ รูปขันธ์กำลังเกิดในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น, ในปัญจโวการภูมิ รูปขันธ์กำลังเกิด และ เวทนาขันธ์ก็กำลังดับในภูมินั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์กำลังดับในภูมิใด, รูปขันธ์ก็กำลังเกิด ในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอรูปภูมิ เวทนาขันธ์กำลังดับในภูมินั้น แต่รูปขันธ์ไม่ใช่ กำลังเกิดในภูมินั้น, ในปัญจโวการภูมิ เวทนาขันธ์กำลังดับ และ รูปขันธ์ก็กำลังเกิดในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๒๓] เวทนาขันธ์กำลังเกิดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ก็กำลัง ดับในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 222
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์กำลังดับในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็กำลัง เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๒๔] รูปขันธ์กำลังเกิดบุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 223
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๒๕] เวทนาขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 224
ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๒๖] รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังตายในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่เวทนาขันธ์กำลังดับแก่บุคคล เหล่านั้น, บุคคลที่กำลังเกิดในอรูปภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังตายในอสัญญสัตตภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิด และเวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังดับ แก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเกิดในปัญจโวการภูมิดี บุคคลที่กำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่รูปขันธ์ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่กำลังเกิดในอรูปภูมิก็ดี บุคคลที่ กำลังตายในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับ และรูปขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 225
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๒๗] เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังตายในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่สัญญาขันธ์กำลังดับ แก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่ กำลังเกิด และสัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเกิดในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี สัญญาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่เวทนาขันธ์กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัญญาขันธ์ไม่ใช่ กำลังดับ และเวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 226
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๒๘] รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่ กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม?
กำลังดับ.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, รูปขันธ์ก็ไม่ใช่ กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
กำลังเกิด.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๒๙] เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 227
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๓๐] รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังตายในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์กำลัง ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังในอรูปภูมิก็ดี บุคคล ที่กำลังตายในอสัญญสัตตภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิด และเวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 228
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเกิดในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดใน อสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเกิดใน อรูปภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังตายในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่ กำลังดับ และรูปขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๓๑] เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังตายในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่สัญญาขันธ์ กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิด และสัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 229
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี สัญญาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัญญาขันธ์ไม่ใช่กำลังดับ และเวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 230
อตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๓๒] รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็เคยดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์เคยดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็เคยเกิดแก่ บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๓๓] เวทนาขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ก็เคย ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 231
ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์เคยดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็เคย เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๓๔] รูปขันธ์เคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 232
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๓๕] รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น, บุคคลที่เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิ รูปขันธ์เคยเกิด และเวทนาขันธ์ก็เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปภูมิ เวทนาขันธ์เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น แต่รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคล ที่เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิ เวทนาขันธ์เคยดับ และรูปขันธ์ก็เคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 233
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๓๖] เวทนาขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อตีตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 234
อตีตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๓๗] รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๓๘] เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 235
ไม่มี.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๓๙] รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 236
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๔๐] รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม? บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปภูมิ รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคล ที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิด และเวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่ เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยดับแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยดับ และ รูปขันธ์ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 237
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๔๑] เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อตีตวาระ ปัจจนิก จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 238
อนาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๔๒] รูปขันธ์จักเกิดแก่บุคลใด, เวทนาขันธ์ก็จักดับแก่ บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็จักเกิดแก่ บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมภวิกบุคคลที่กำลังเกิดก็ดี บุคคลเหล่าใดจักเกิดในอรูปภูมิ แล้วจักปรินิพพานก็ดี เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่รูปขันธ์ ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้ เวทนาขันธ์จักดับ และรูปขันธ์ก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 239
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๔๓] เวทนาขันธ์จักเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมภวิกบุคคลที่กำลังเกิด สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้ สัญญาขันธ์จักดับ และเวทนาขันธ์ก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๔๔] รูปขันธ์จักเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 240
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๔๕] รูปขันธ์จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ รูปขันธ์จักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, บุคคลที่เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิ รูปขันธ์จักเกิด และเวทนาขันธ์ ก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ก็จัก เกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมภวิกบุคคลที่กำลังเกิดในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดยู่ ในอรูปภูมิก็ดี เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์ ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ที่เกิดอยู่ใน ปัญจโวการภูมิ เวทนาขันธ์จักดับ และรูปขันธ์ก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 241
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๔๖] เวทนาขันธ์จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิ สัญญาขันธ์ จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อปัจฉิมภวิกบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด สัญญาขันธ์จักดับแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ที่เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ปัญจโวการ ภูมิก็ดี สัญญาขันธ์จักดับ และเวทนาขันธ์ก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อนาคตวาระอนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 242
อนาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๔๗] รูปขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่ จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อปัจฉิมภวิกบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด บุคคลเหล่าใดจักเกิด ในอรูปภูมิ แล้วจักปรินิพพานก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น แต่เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อปรินิพพันต บุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพาน รูปขันธ์ไม่ใช่จักเกิด และเวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็ไม่ใช่ จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 243
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๔๘] เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อปัจฉิมภวิกบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อ ปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพาน เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิด และสัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 244
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๔๙] รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคลโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๕๐] รูปขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อปัจฉิมภวิกบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อ ปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพาน รูปขันธ์ไม่ใช่จักเกิด และ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 245
เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นเกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่ จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพาน เวทนาขันธ์ ไม่ใช่จักดับ และรูปขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๕๑] เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อปัจฉิมภวิกบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 246
ภูมินั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพานก็ดี บุคคลที่เกิด อยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักเกิด และสัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อนาคตวาระ ปัจจนิก จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 247
ปัจจุปปันนาตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๕๒] รูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็เคยดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์เคยดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดใน อรูปภูมิก็ดี เวทนาขันธ์เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์ ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด ในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ เคยดับ และรูปขันธ์ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ฯลฯ(ปัจจุปปันนาตีตวาระ ในอุปปาทวาระ ท่านจำแนกไว้แล้วโดย ประการใด ในอุปปาทนิโรธวาระนี้ ก็พึงจำแนกโดยประการนั้น)
รูปขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
ปัจจุปปันนาตีตวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 248
ปัจจุปปันนานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๕๓] รูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดใน อรูปภูมิก็ดี เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่รูปขันธ์ไม่ใช่กำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์จักดับ และรูปขันธ์ ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 249
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๕๔] เวทนาขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลใด เวทนาขันธ์ก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดใน อสัญญสัตตภูมิก็ดี สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่เวทนาขันธ์ ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในจตุ- โวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ สัญญาขันธ์จักดับ และเวทนาขันธ์ก็กำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 250
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๕๕] รูปขันธ์กำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๕๖] รูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิ รูปขันธ์กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในปัญจโวการภูมิ รูปขันธ์ กำลังเกิด และเวทนาขันธ์ก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 251
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ก็ กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังตายในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ ในอรูปภูมิก็ดี เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์ ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลัง เกิดในปัญจโวการภูมิ เวทนาขันธ์จักดับ และรูปขันธ์ก็กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๕๗] เวทนาขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 252
เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังตายในจตุโวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในจตุ- โวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ สัญญาขันธ์จักดับ และเวทนาขันธ์ก็กำลัง เกิดบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 253
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๕๘] รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดใน อรูปภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่เวทนาขันธ์ จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลกำลังปรินิพพานใน จตุโวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิด และเวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็ไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 254
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๕๙] เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดใน อสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่ สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้น กำลังปรินิพพานในจตุโวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่ กำลังเกิด และสัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทวาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 255
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๖๐] รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๖๑] รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังตายในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ ในอรูปภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่ เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อปวินิพพันตบุคคล เหล่านั้นกำลังปรินิพพานก็ดี บุคคลที่กำลังตายในอสัญญสัตตภูมิก็ดี รูป ขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิด และเวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 256
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นที่กำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิ เวทนาขันธ์ ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพานก็ดี บุคคลที่กำลังตายในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับ รูป ขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๖๒] เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังตายในจตุโวการภูมิ ปัญจโวการภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่สัญญาขันธ์ จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลัง
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 257
ปรินิพพานก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่ กำลังเกิด และสัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 258
อตีตานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๖๓] รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นที่กำลังปรินิพพาน รูปขันธ์เคย เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้ รูปขันธ์เคยเกิด และเวทนาขันธ์ก็จักดับแก่บุคคล เหล่านั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็เคยเกิดแก่ บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 259
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๖๔] เวทนาขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ก็จักดับ บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพาน เวทนาขันธ์ เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนี้เวทนาขันธ์เคยเกิด และสัญญาขันธ์ก็จักดับแก่บุคคล เหล่านั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ก็เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 260
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๖๕] รูปขันธ์เคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๖๖] รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นที่กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, เมื่อบุคคลนอกจากนี้ที่เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิ รูปขันธ์เคยเกิด และเวทนาขันธ์ก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 261
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ ในอรูปภูมิก็ดี เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์ ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลนอกจากนี้ที่กำลัง เกิดในปัญจโวการภูมิ เวทนาขันธ์จักดับ และรูปขันธ์ก็เคยเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๖๗] เวทนาขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ ก็จักดับบุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นที่กำลังปรินิพพาน เวทนาขันธ์ เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลนอกจากนี้ที่เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 262
ก็ดี ปัญจโวการภูมิก็ดี เวทนาขันธ์เคยเกิด และสัญญาขันธ์ก็จักดับแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นที่กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิ สัญญาขันธ์จักดับ แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลนอกจากนี้ที่เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ปัญจโวการภูมิดี สัญญาขันธ์จักดับ และเวทนาขันธ์ก็เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อตีตานาคตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 263
อตีตานาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๖๘] รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, รูปขันธ์ก็ไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เคยเกิด.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๖๙] เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 264
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, เวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เคยเกิด.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ ฯลฯ
[๒๗๐] รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
รูปขันธมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 265
ปุคคโลกาสวาระ
รูปขันธมูล
รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-
[๒๗๑] รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นที่กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ ในอรูปภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่ เวทนาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคล เหล่านั้นที่กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิก็ดี ปรินิพพันตบุคคลที่กำลัง ปรินิพพานในอรูปภูมิก็ดี รูปขันธ์ไม่ใช่เคยเกิด และเวทนาขันธ์ ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, รูปขันธ์ ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นที่กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทานาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้น กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 266
ก็ดี ปรินิพพันตบุคคลที่กำลังปรินิพพานในอรูปภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ ไม่ใช่จักดับ และรูปขันธ์ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
เวทนาขันธมูล
เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี :-
[๒๗๒] เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, สัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อบุคคลเหล่านั้นที่กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิ เวทนาขันธ์ไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพานใน สุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์ไม่ใช่ เคยเกิด และสัญญาขันธ์ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เมื่อปรินิพพันตบุคคลที่กำลังปรินิพพาน สัญญาขันธ์ไม่ใช่จัก ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 267
เหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อปรินิพพันตบุคคลที่กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี สัญญาขันธ์ไม่ใช่ จักดับ และเวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ เวทนาขันธมูละ สัญญาขันธมูลี
เวทนาขันธมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อตีตานาคตวาระ ปัจจนิก จบ
ปวัตติวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 268
อรรถกถาขันธยมก
อรรถกถาปวัตติวาระ
บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเริ่มปวัตติวาระโดยนัยเป็นต้นว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ ถามว่า เพราะเหตุไรพระองค์จึงไม่ตรัสอุทเธสวาระ ไว้ในปวัตติวาระนี้ ตอบว่า เพราะเป็นนัยที่ทรงแสดงไว้แล้วในหนหลัง ก็นัยในอุทเทสวาระพระองค์ทรงแสดงไว้แล้วในปัณณัตติวาระ ก็โดย นัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่ตรัสอุทเทสวาระนั้น ทรงเริ่มนิทเทส วาระเลยทีเดียว เพราะแม้ไม่ตรัสอุทเทสวาระไว้ในปัณณัตติวาระนี้ ใครๆ ก็อาจทราบได้.
ก็อันตรวาระ ๓ คือ อุปาทวาระ นิโรธวาระ อุปาทนิโรธ วาระ ย่อมมีในมหาวาระ กล่าวาคือ ปวัตติวาระนี้.
ในวาระทั้ง ๓ นั้น วาระที่ ๑ เรียกว่า อุปาทวาระ เพราะ แสดงลักษณะแห่งการเกิดขึ้นของธรรมทั้งหลาย.
วาระที่ ๒ เรียกว่า นิโรธวาระ เพราะแสดงลักษณะแห่งการ ดับของธรรมทั้งหลายเหล่านี้นั้นนั้นแหละ.
วาระที่ ๓ เรียกว่า อุปาทนิโรธวาระ เพราะแสดงลักษณะ แม้ทั้งสอง.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอาการแห่งการเกิดขึ้นของธรรม ทั้งหลายในปวัตติวาระนี้ด้วยอุปาทวาระ, ทรงแสดงความไม่เที่ยงของ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้นนั้นเองด้วยนิโรธวาระว่า " ชื่อว่า การเกิดขึ้น
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 269
แล้ว ชื่อว่า เที่ยงย่อมไม่มี " ทรงแสดงความเกิดขึ้นและความไม่เที่ยง ทั้งสองนั้นด้วยอุปาทนิโรธวาระ. ในอุปาทวาระนั้น มีประเภทแห่งกาล ๖ อย่าง ด้วยอำนาจ อัทธา ๓ คือปัจจุบัน อดีต อนาคต ปัจจุบันกับอดีต ปัจจุบันอนาคต อดีตกับอนาคต.
ในกาลเหล่านั้น คำว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ รูปขันธ์ กำลังเกิด (ย่อมเกิด) แก่บุคคลใด พึงทราบว่าเป็น ปัจจุบัน ด้วยอำนาจของชื่อที่เป็นปัจจุบัน ก็ปัจจุบันนั้นพระองค์ตรัสไว้ก่อนว่า "ปัจจุบันนั้นเป็นธรรมชาติที่บุคคลพึงรู้ด้วยดีเกินเปรียบ" เพราะความ ที่ธรรมทั้งหลายที่เป็นปัจจุบัน บุคคลพึงถือเอาได้โดยประจักษ์.
อดีตกาล พึงทราบด้วยอำนาจของชื่อที่เป็นอดีตว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ=รูปขันธ์เคยเกิด (เกิดแล้ว) แก่บุคคล ใด ก็อดีตกาลนั้นท่านกล่าวไว้เป็นที่สองเพราะอดีตธรรมที่เคยเกิดขึ้น แล้วในภายหลัง เป็นธรรมที่บุคคลพึงรู้แจ้งโดยประจักษ์ดีกว่าอนาคต ที่บุคคลพึงรู้แจ้งโดยอนุมาน.
พึงทราบ อนาคตกาล ด้วยอำนาจแห่งชื่อที่เป็นอนาคตว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ=รูปขันธ์จักเกิดแก่บุคคลใด อนาคตกาลนั้นกล่าวไว้เป็นที่ ๓ เพราะถือเอาว่าธรรมทั้งหลายมีอย่างนี้ เป็นรูปจักเกิดขึ้น แม้ในอนาคตด้วยอำนาจธรรมที่เคยเกิดขึ้นแล้วโดย ประจักษ์ และด้วยธรรมที่ถือเอาแล้วโดยอนุมาน.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 270
คำถามว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ พึงทราบว่าเป็นปัจจุบันกับอดีต ด้วยอำนาจชื่อที่เป็น ปัจจุบันกับชื่อที่เป็นอดีต ปัจจุบันกับอดีต (ปัจจุปันนาตีตวาระ) นั้น กล่าวไว้เป็นที่ ๔ เพราะปัจจุบันและอดีตบุคคลพึงรู้แจ้งได้ง่ายกว่ากาล ทั้ง ๓ ที่เจือปนกัน.
พึงทราบปัจจุบันกับอนาคต ด้วยอำนาจของชื่อที่เป็นปัจจุบันกับ ชื่อที่เป็นอนาคตว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชสฺสติ ปัจจุบันกับอนาคตนั้น กล่าวไว้เป็นที่ ๕ เพราะว่า ปัจจุบันกับอนาคตนั้น เป็นกาลที่บุคคลพึงรู้ได้ง่ายกว่าโดยเนื้อความ เพราะธรรมทั้งหลายที่พึงถือเอาโดยประจักษ์มีอยู่.
พึงทราบอดีตกับอนาคต ด้วยชื่อที่เป็นอนาคตกับด้วยอดีตว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ อดีตกับอนาคตนั้น พึงรู้ได้ยากกว่ากาลทั้งหลายก่อนๆ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ในลำดับที่ ๖.
ในกาลทั้ง ๖ นั้น ปัจจุบันกาลอันเป็นกาลที่หนึ่ง มี ๓ วาระ คือ โดยบุคคล โดยโอกาส โดยบุคคลและโอกาส (ปุคคลวาระ, โอกาสวาระ และปุคคโลกาสวาระ).
ในวาระทั้ง ๓ นั้น การแสดงการเกิดขึ้นแห่งขันธ์ทั้งหลายด้วย อำนาจบุคคลด้วยคำว่า ยสฺส ชื่อว่า ปุคคลวาระ.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 271
การแสดงการเกิดขึ้นแห่งขันธ์ทั้งหลายด้วยอำนาจโอกาส ด้วย คำว่า ยตฺถ ชื่อว่า โอกาสวาระ.
การแสดงการเกิดขึ้นแห่งขันธ์ทั้งหลายด้วยอำนาจบุคคลและ โอกาส ด้วยคำว่า ยสฺส ยตฺถ ชื่อว่า ปุคคโลกาสวาระ.
วาระทั้ง ๓ เหล่านี้ พระองค์ทรงแสดงอนุโลมนัยก่อน แล้วจึง แสดงปฏิโลมนัยภายหลัง ในอนุโลมนัยและปฏิโลมนัย การแสดงการ เกิดขึ้นด้วยคำว่า อุปฺปชฺชติ=ย่อมเกิด (กำลังเกิด) อุปฺปชฺชิตฺถ= เกิดแล้ว (เคยเกิด) อุปฺปชฺชิสฺสติ=จักเกิด ชื่อว่า อนุโลมนัย การแสดงการไม่เกิดขึ้นด้วยคำว่า นุปฺปชฺชติ=ไม่ใช่ย่อมเกิด (หรือ ไม่ใช่กำลังเกิด) นุปฺปชฺชิตฺถ ไม่ใช่เกิดแล้ว (ไม่เคยเกิด) นุปฺปชฺชิสฺสติ=ไม่ใช่จักเกิด ชื่อว่า ปฏิโลมนัย.
ในอนุโลมนัยแห่งบุคคลวาระ ในปัจจุบันกาลนั้น มียมก ๑๐ อย่าง เพราะนับแล้วไม่นับอีก (คือนับเฉพาะที่ไม่ซ้ำกัน) คือ ยมก ๔ อย่างที่มีรูปขันธ์เป็นมูลอย่างนี้ว่า.
ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ยสฺส วา ปน เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปปชฺชติ=รูปขันธ์ย่อมเกิดแก่บุคคลใด เวทนาขันข์ที่ย่อมเกิดแก่ บุคคลนั้นหรือ,
ก็หรือว่า เวทนาขันธ์ย่อมเกิดแก่บุคคลใด รูปขันธ์ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 272
ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส สญฺากฺขนฺโธ อุปฺ- ปชฺชติ, ยสฺส วา ปน สญฺากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ=รูปขันธ์ย่อมเกิดแก่บุคคลใด สัญญาขันธ์ ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ,
ก็หรือว่า สัญญาขันธ์ย่อมเกิดแก่ บุคคลใด รูปขันธ์ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ.
ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส สงฺขารกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ยสฺส วา ปน สงฺขารกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ=รูปขันธ์ย่อมเกิดแก่บุคคลใด สังขารขันธ์ ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ,
ก็หรือว่า สังขารขันธ์ย่อมเกิดแก่ บุคคลใด รูปขันธ์ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ.
ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส วิญฺาณกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ยสฺส วา ปน วิฺาณกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ=รูปขันธ์ย่อมเกิดแก่บุคคลใด วิญญาณ ขันธ์ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ,
ก็หรือว่า วิญญาณขันธ์ย่อม เกิดแก่บุคคลใด รูปขันธ์ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ.
ยมก ๓ อย่าง ที่มีเวทนาขันธ์เป็นมูล ด้วยนัยเป็นต้นว่า ยสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส สญฺากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ยมก ๒ อย่างที่มีสัญญาขันธ์เป็นมูลยมก ๑ อย่างที่มีสังขารขันธ์เป็นมูล.
ในยมกทั้ง ๑๐ อย่างนั้น ในยมก ๔ อย่างที่มีรูปขันธ์เป็นมูล พระองค์ทรงวิสัชนายมกต้นอย่างเดียวเท่านั้น ยมกที่เหลือ (อีก ๓)
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 273
มีการวิสัชนาเช่นกับยมกต้นนั้น เพราะเหตุนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึง ทรงย่อไว้ เพื่อความง่ายแห่งภาษาที่เป็นแบบแผน แม้ในมูลทั้งหลาย มีเวทนาขันธ์เป็นมูลเป็นต้น การวิสัชนาเป็นอย่างเดียวกัน ด้วยคำว่า อามนฺตา=ใช่ เพราะเหตุนั้น พึงทราบว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรง วิสัชนายมก ๑๐ อย่างแล้ว ด้วยการวิสัชนายมกหนึ่งๆ ในอนุโลมนัย ในบุคลวาระ ในปัจจุบันกาล เหล่านี้อย่างนี้ว่า ยมกเหล่านั้นทรง ย่อไว้เพื่อความง่ายแห่งภาษาที่เป็นแบบแผน.
ในอนุโลมนัย ในวาระทั้ง ๓ ในปัจจุบันกาล มียมก ๓๐ อย่าง คือ ในบุคคลวาระมี ๑๐ อย่าง ในโอกาสวาระ ๑๐ อย่าง ในปุคคโลกาสวาระ ๑๐ อย่าง ฉันใด แม้ในปฏิโลมนัยก็มี ๓๐ ฉันนั้น จึง รวมเป็นยมกะ ๖๐ อย่าง ในปัจจุบันกาลทั้งหมด.
ในยมกะ ๖๐ อย่างนั้น พึงทราบว่า มีปุจฉา ๑๒๐ มีอรรถ ๒๔๐.
วาระทั้ง ๖ พึงทราบว่า มียมกะ ๖๐ เพราะกระทำให้เป็น ๑๐ ในวาระหนึ่งๆ รวมกับยมกะ ๓๐๐ ในก่อน จึงเป็นยมกะ ๓๖๐ ปุจฉา ๗๒๐ อรรถ ๑,๔๔๐ นี้เป็นการกำหนดพระบาลีในอุปปาทวาระก่อน ก็ในอุปปาทะวาระฉันใด พึงทราบว่าแม้ในนิโรธวาระ แม้ในอุปปาทนิโรธวาระก็อย่างนั้น ในปวัตติมหาวาระ แม้ทั้งหมดจึงมียมกะ ๑,๐๘๐ ปุจฉา ๒,๑๖๐ อรรถ ๔,๓๒๐.
แต่พระบาลีในอุปปาทวาระและนิโรธวาระ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงวิสัชนาย่อไว้แล้วซึ่งยมกหนึ่งๆ เท่านั้น ในวาระนั้นๆ ในประเภท
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 274
แห่งกาลที่ไม่ปะปนกัน ๓ อย่าง ในประเภทแห่งกาลที่ปะปนกัน ๓ อย่าง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงวิสัชนายมกอย่างหนึ่ง แม้ในมูลที่มีเวทนาขันธ์ เป็นมูลเป็นต้น โดยเป็นต้นว่า ยสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส สญฺากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ=เวทนาขันธ์ย่อมเกิดแก่บุคคล ใด สัญญาขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลนั้นใช่ไหม? ก็ในอุปปาทะนิโรธ วาระพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงวิสัชนายมกแม้นั้นไว้ในประเภทแห่งกาล แม้ทั้ง ๖ พึงทราบว่ายมกที่เหลือทรงย่อไว้ เพราะยมกเหล่านั้นพระองค์ ทรงวิสัชนาให้เสมอกันกับยมกนั้น นี้เป็นการกำหนดพระบาลีในปวัตติ มหาวาระแม้ทั้งสิ้น.
ก็เพื่อวินิจฉัยเนื้อความแห่งขันธยมกนี้ พึงทราบลักษณะดังต่อ ไปนี้ บัณฑิตพึงทราบการวินิจฉัยเนื้อความแห่งปัญหา ๔ อย่าง ใน ปวัตติมหาวาระนี้ที่ท่านใส่ไว้ในคำวิสัชนา ๕ อย่าง ในฐานะ ๒๗ ใน อรรถวินิจฉัยนั้น ชื่อปัญหา ๔ อย่าง คือ ปุเรปัญหา ปัจฉาปัญหา ปริปุณณปัญหา โมฆะปัญหา ก็ยมกหนึ่งๆ มีปุจฉา ๒ อย่าง (คือ อนุโลมและปฏิโลม) แม้ปุจฉาหนึ่งๆ ก็มีบท ๒ อย่าง (คือสันนิฏฐาน และสังสยะ).
ในปัญหา ๔ อย่างนั้น ในการวิสัชนาซึ่งปัญหาใด ย่อมได้การ เกิดขึ้นหรือการดับไปแห่งขันธ์ที่ถือเอาด้วยบทเพียงบทเดียว ปัญหานี้ ชื่อว่า ปุเรปัญหา.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 275
ก็ในการวิสัชนาซึ่งปัญหาใด ย่อมได้การเกิดขึ้นหรือความดับไป แห่งขันธ์ที่ถือเอาด้วยบทแม้ทั้งสอง ปัญหานี้ชื่อว่า ปัจฉาปัญหา.
ก็ในการวิสัชนาซึ่งปัญหาใดย่อมได้การเกิดขึ้นหรือความดับไป แห่งขันธ์ที่ถือเอาแล้วด้วยบทเพียงบทเดียวบ้าง ด้วยบทแม้ทั้งสองบ้าง ปัญหานี้ชื่อว่า ปริปุณณปัญหา แต่การห้ามหรือการปฏิเสธย่อมได้ใน การวิสัชนาซึ่งปัญหาใด ปัญหานี้ชื่อว่า โมฆะปัญหา ก็เพราะโมฆะ ปัญหานี้ ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงไว้ ใครๆ ก็ไม่อาจรู้ได้ ฉะนั้นจึง จักแสดงปัญหานั้นไว้.
การเกิดขึ้นแห่งเวทนาขันธ์อันท่านถือเอาด้วยบทเพียงบทเดียว ในการวิสัชนานี้ว่า อุปฺปชฺชติ ย่อมเกิด (กำลังเกิด) ในคำถามว่า ยตฺถ รูปกฺขนฺโธ นุปฺชฺชติ ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชติ= รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังในภูมิ นั้นหรือ เพราะเหตุนั้นปัญหานี้ด้วย ปัญหาอื่นที่มีรูปอย่างนี้ด้วย พึง ทราบว่าเป็น ปุเรปัญหา.
การเกิดขึ้นแห่งรูปและเวทนาขันธ์ในอดีตของสัตว์ใดสัตว์หนึ่ง ที่ถือด้วยบททั้งสองย่อมได้ในการวิสัชนานี้ว่า อามนฺตา=ใช่ ใน ปัญหาว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตถ=รูปขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลใด เวทนาขันธ์เคยเกิด แล้วแก่บุคคลนั้นหรือ? เพราะเหตุนั้นปัญหานี้และปัญหาอื่นที่มีรูป อย่างนี้ ชื่อว่า ปัจฉาปัญหา.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 276
ก็การเกิดขึ้นแม้ของรูปขันธ์ที่ถือเอาแล้วด้วยบทเพียงบทเดียว ย่อมได้ในปุริมโกฏาสะนี้ว่า อสญฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตานํ เตสํ รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ โน จ เตสํ เวทนกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ= เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิ รูปขันธ์กำลังเกิด แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในการวิสัชนานี้ มีอาทิว่า อสญฺสตฺตํ อุปปชฺชนตานํ, ในปัญหาแรกนี้ว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ=รูปขันธ์ กำลังเกิดแก่บุคคลใด เวทนาขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ ดังนี้ การเกิดขึ้นแม้ของรูปและเวทนาขันธ์ที่ถือเอาแล้วด้วยบทแม้ทั้งสอง ย่อมได้ในปัจฉิมโกฏสะนี้ว่า ปญฺจโวการํ อุปปชฺชติ เตสํ รูปกฺ- ขนฺโธ จ อุปฺปชฺชติ เวทนากฺขนฺโธ จ อุปฺปชฺชติ=เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในปัญจโวการภูมิ รูปขันธ์ก็กำลังเกิด เวทนาขันธ์ก็ กำลังเกิด เพราะเหตุนั้น ปัญหานี้และปัญหาอื่นที่มีรูปอย่างนี้ พึง ทราบว่าเป็น ปริปุณณปัญหา แม้คำว่า ปุเรปัจฉาปัญหา ก็เป็น ชื่อของปริปุณณปัญหานั้นนั่นแหละ.
ก็ในการวิสัชนาปริปุณณปัญหานี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ความเกิดขึ้นแห่งรูปขันธ์นั้นแหละที่สงเคราะห์ไว้ด้วยบทเดียวในปุริมโกฏฐาส ในทุติยโกฏฐาสการเกิดขึ้นและการดับไปแห่งขันธ์ที่ถือเอาแล้ว ด้วยบทบทเดียว ย่อมได้ในปัญหาใดด้วยนัยและลักษณะนี้แห่งรูปและ เวทนาขันธ์ที่ถือเอาด้วยบททั้งสอง ปัญหานั้นเรียกว่า ปุเรปัญหา.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 277
การเกิดขึ้นหรือการดับไปของขันธ์ทั้งหลายที่ถือเอาด้วยบททั้งสอง ย่อมได้ในปัญหาใด ปัญหานั้นเรียกว่า ปัจฉาปัญหา.
ปฏิกเขปวิสัชนา ย่อมได้ในการวิสัชนานี้ ด้วยคำว่า นตฺถิ= ไม่มี ในปัญหานี้ว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ=รูปขันธ์ไม่เคยเกิดแก่บุคคลใด เวทนาขันธ์ก็ไม่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ.
ปฏิเสธวิสัชนา ย่อมได้ในการวิสัชนานี้ด้วยคำว่า โน=ไม่ใช่ ในคำถามว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นิรุชฺฌติ=รูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลใด เวทนาขันธ์ก็กำลังดับ แก่บุคคลนั้นหรือ เหตุนั้น ปัญหานี้และปัญหาอื่นที่มีรูปอย่างนี้ รวม ๒ อย่าง พึงทราบว่าเป็น โมฆะปัญหา แม้โมฆะปัญหานี้เรียกว่า เฉทตุจฉปัญหา ก็ได้ พึงทราบปัญหาทั้ง ๔ อย่าง อย่างนี้ก่อน. ก็วิสัชนาเหล่านี้คือ ปาลิคติวิสัชนา ปฏิวจนวิสัชนา สรูปทัสสนวิสัชนา ปฏิภเขปวิสัชนา ปฏิเสธวิสัชนา ชื่อว่าวิสัชนา ๕ อย่าง ในวิสัชนา ๕ อย่างนั้น วิสัชนาใด เป็นบาลีบทเท่านั้น อันท่านวิสัชนานั้นเนื้อความไว้ วิสัชนานี้ชื่อว่า ปาลิคติวิสัชนา ปาลิคติวิสัชนานั้นย่อมได้ในปุเรปัญหา วิสัชนานี้ว่า อุปฺปชฺชติ= กำลังเกิด ในปัญหาว่า ยตฺถ รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชติ ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชติ=รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด เวทนาขันธ์ก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้นหรือ เป็นเพียงบทแห่งพระบาลีที่
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 278
พระองค์วิสัชนาเนื้อความไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น พึงทราบการ วิสัชนาด้วย ปาลิคติวิสัชนา ในฐานะเห็นปานนี้ อย่างนี้.
ก็วิสัชนาใดที่ท่านวิสัชนาเนื้อความโดยความเป็นคำตอบ วิสัชนา นี้ชื่อว่า ปฏิวจนวิสัชนา ปฏิวจนวิสัชนานั้นย่อมได้ในปัจฉาปัญหา ก็วิสัชนานี้ด้วยคำว่า อามนฺตา=ใช่ ในปัญหาว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชิตฺถ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ=รูปขันธ์เคยเกิด แก่บุคคลใด เวทนาขันธ์ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ ที่พระองค์ ทรงวิสัชนาเนื้อความไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยอำนาจความเป็นคำตอบนั่น แหละ เพราะฉะนั้น พึงทราบ ปฏิวจนวิสัชนา ในฐานะเห็นปานนี้.
คำวิสัชนาใดที่ท่านแสดงเนื้อความไว้โดยสรูป วิสัชนานี้ชื่อว่า สรูปทัสสนวิสัชนา สรูปทัสสนวิสัชนานี้ย่อมได้ในปริปุณณปัญหา.
ก็วิสัชนานี้ว่า อสญฺสตฺตํ อุปปชฺชนนํ ในปัญหาว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ อันพระองค์ ทรงวิสัชนาเนื้อความไว้เรียบร้อยแล้วด้วยการแสดงโดยรูปว่า รูปขันธ์ ย่อมเกิดแก่บุคคลเหล่านี้ แต่เวทนาขันธ์ไม่เกิด รูปขันธ์และเวทนาขันธ์ก็ย่อมเกิดแก่บุคคลเหล่านี้ เพราะเหตุนั้น พึงทราบ สรูปทัสสนวิสัชนา ในที่ทั้งหลายเห็นปานนี้.
ก็คำวิสัชนาใดที่ท่านวิสัชนาปัญหาด้วยการห้ามเนื้อความ เพราะ ความไม่มีเนื้อความเห็นปานนั้น คำวิสัชนานั้น ชื่อว่า ปฏิกเขปวิสัชนา.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 279
วิสัชนาใดที่ท่านวิสัชนาปัญหาโดยปฏิเสธเนื้อความ เพราะความ ไม่ได้ซึ่งเนื้อความเห็นปานนั้นในขณะหนึ่งๆ วิสัชนานี้ชื่อว่า ปฏิเสธวิสัชนา ปฏิเสธวิสัชนานั้น ย่อมได้ในโมฆะปัญหา.
จริงอยู่ คำวิสัชนานี้ว่า นตฺถิ=ไม่มี ในปัญหาว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตถ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ= รูปขันธ์ไม่เคยเกิดแก่บุคคลใด เวทนาขันธ์ก็ไม่เคยเกิดแก่บุคคล นั้นหรือ เป็นคำวิสัชนาที่ท่านวิสัชนาไว้เรียบร้อยแล้วโดยการห้ามเนื้อ ความว่า ชื่อสัตว์เห็นปานนี้ย่อมไม่มี เพราะฉะนั้นพึงทราบการวิสัชนา ในที่ทั้งปวงเห็นปานนี้ด้วย ปฏิกเขปวิสัชนา.
ก็คำวิสัชนานี้ว่า โน=ไม่ใช่ ในปัญหาว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นิรุชฺฌติ=รูปขันธ์ย่อมเกิดแก่ บุคคลใด เวทนาขันธ์ย่อมดับแก่บุคคลนั้นหรือ อันท่านวิสัชนาไว้ เรียบร้อยแล้วโดยการปฏิเสธเนื้อความว่า ชื่อว่า การดับไปพร้อมกับ การเกิดขึ้นย่อมไม่ได้ในปฏิสนธิขณะหนึ่งๆ.
บัดนี้พึงทราบปัญหา ๔ อย่างและการวิสัชนา ๕ อย่าง ที่ควร ใส่ไว้ในฐานะ ๒๗ เหล่าใด พึงทราบฐานะเหล่านั้นอย่างนี้ คือ อสญฺ- สตฺตํ อุปฺปชฺชนฺตานํ เป็น ๑ ฐานะ อสญฺสตฺเต ตตฺถ ๑ ฐานะ อสญฺตฺตานํ ๑ ฐานะ อสญฺสตฺตา จวนฺตานํ ๑ ฐานะ อรูปํ อุปปชฺชนฺตานํ ๑ ฐาน อรูเป ตตฺถ ๑ ฐานะ อรูปนํ ๑ ฐานะ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 280
อรูปา จวนฺตานํ ๑ ฐานะ อรูเป ปจฺฉิมภวิกานํ ๑ ฐานะ อรูเป ปรินิพฺพายนฺตานํ (บาลีใช้ว่า ปรินิพฺพนฺตานํ) ๑ ฐานะ เย จ อรูปํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ ๑ ฐานะ ปญฺจโวการํ อุปปชฺ- ชนฺตานํ ๑ ฐานะ ปญฺจโวกาเร ตตฺถ ๑ ฐานะ ปญฺจโวการนํ ๑ ฐานะ ปญฺจโวการา จวนฺตานํ ๑ ฐานะ ปญฺจโวกาเร ปจฺฉิมภวิกานํ ๑ ฐานะ สุทธาวาสํ อุปปชฺชนตานํ ๑ ฐานะ สุทฺธาวาเส ตตฺถ ๑ ฐานะ สุทธาวาสนํ ๑ ฐานะ สุทธาวาเส ปรินิพฺพนฺตานํ ๑ ฐานะ สพฺเพสํ อุปปชฺชนฺตานํ ๑ ฐานะ สพฺเพสํ จวนฺตานํ ๑ ฐานะ ปุจฺฉิมภวิกานํ ด้วยอำนาจที่สาธารณะแก่สัตว์ทั้งปวงอีก ๑ ฐานะ ปริ- นิพฺพายนฺตานํ (บาลีใช้ปรินิพิพนฺตานํ) ๑ ฐานะ จตุโวการํ ปญฺจ- โวการํ อุปปชฺชนฺตานํ ๑ ฐานะ จตุโวการา ปญฺจโวการา จวนฺ- ตานํ ๑ ฐานะ บัณฑิตพึงใส่คำวิสัชนา ๕ อย่างไว้ในฐานะ ๒๗ อย่าง เหล่านี้แล้ว พึงทราบการวินิจฉัยเนื้อความแห่งปัญหา ๔ อย่างในปวัตมหาวาระด้วยประการฉะนี้ ก็อรรถวินิจฉัยนั้น อันบัณฑิตทราบแล้ว อย่างนี้ เมื่อวิสัชนาปัญหาย่อมเป็นอันวิสัชนาแล้วโดยง่าย และเมื่อ วินิจฉัยซึ่งเนื้อความย่อมเป็นอันวินิจฉัยแล้วโดยง่าย.
นัยนี้ว่า ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ=รูปขันธ์ย่อมเกิด แก่บุคคลใด ได้แก่ย่อมถามว่า รูปขันธ์กำลังเกิดในอุปาทะขณะสมังคี แก่บุคคลใด เวทนาก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นหรือ เพราะเหตุนี้แม้เวทนา
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 281
ขันธ์ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในขณะนั้นนั่นแหละ สองบทว่า อสญฺ- สตฺตํ อุปปชฺชนฺตานํ=ได้แก่ เมื่อบุคคลเหล่านั้นเกิดอยู่ในอสัญญสัตตภพด้วยอำนาจปฏิสนธิที่ไม่ใช่จิต บทว่า เตสํ รูปกฺขนฺโธ อุปฺ- ปชฺชติ=ได้แก่รูปขันธ์กำลังเกิดเพียงอย่างเดียวแก่อสัญญสัตว์นั้น ก็ รูปขันธ์ของอสัญญสัตว์ผู้เกิดแล้วในปวัตติกาล ย่อมเกิดบ้าง ย่อมดับ บ้าง เพราะเหตุนั้น จึงไม่ตรัสว่า อสญฺสตฺตานํ=๑ เกิดอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิ แต่ตรัสว่า อสญฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตานํ=เกิดอยู่ คือกำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิ โน จ เตสํ เวทนากฺขนฺโธ อุปฺ- ปชฺชติ=แต่เวทนาขันธ์ย่อมไม่เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ได้แก่ เวทนาขันธ์ของอสัญญสัตว์เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด เพราะความที่แห่ง อสัญญสัตว์นั้นไม่มีจิต นี้เป็นการวิสัชนาโดยการแสดง โดยสรูปใน ปุริมโกฏฐาสแห่งปริปุณณปัญหา ในฐานะที่ ๑ ในบรรดาฐานะ ๒๗ อย่าง.
สองบทว่า ปญฺจโวการํ อุปปชฺชนฺตานํ=กำลังเกิดในปัญจ- โวการภูมิ ได้แก่ เข้าถึงอยู่ซึ่งปัญจโวการภพด้วยอำนาจแห่งการปฏิ- สนธิที่เจือด้วยรูปและอรูป หลายบทว่า เตสํ รูปกฺขนฺโธ จ อุปฺปชฺชติ เวทนากฺขนฺโธ จ อุปปชฺชติ=เวทนาขันธ์ย่อมเกิดแก่บุคคลเหล่า
(๑) คำว่า เกิดอยู่ หมายความทั้งกำลังเกิดและกำลังตาย คำว่า อสญฺสตฺตานํ ในยมกะนี้ จึงมีความหมายว่า กำลังเกิด-กำลังตาย
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 282
นั้น ได้แก่ ขันธ์แม้สอง กล่าวคือ รูปและเวทนา ย่อมเกิดขึ้นนั่น เที่ยวแก่สัตว์ทั้งหลายผู้เข้าถึงซึ่งปัญจโวการภพเหล่านั้นโดยแน่นอน แต่ ว่าในปวัตติกาล ขันธ์ ๒ เหล่านั้น ย่อมเกิดขึ้นบ้าง ย่อมดับบ้างแก่ สัตว์ผู้เกิดขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่ตรัสว่า ปุญฺจ- โวการานํ=เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิ แต่ตรัสว่า ปญฺจโวการํ อุปฺ- ปชฺชนฺตานํ=กำลังเกิดในปัญจโวการภูมิ นี้เป็นการวิสัชนาด้วย การแสดงโดยสรุป ในปัจฉิมโกฏฐาส แห่งปริปุณณปัญหา ในฐานะว่า ปญฺจโวการํ อุปฺปชฺชนฺตานํ พึงทราบการวิสัชนาทั้งหมดโดยอุบายนี้ ก็นี้เป็นนิยมลักษณะในการเกิด และการดับนี้ ก็ในขันธยมกนี้แม้ทั้งสิ้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอุปปาทวาระไว้ ด้วยอำนาจแห่งการเกิดขึ้น ในปฏิสนธิกาลนั้นเที่ยวว่า การไม่ลูบคลำ (คือไม่ทรงแสดง) ซึ่งการ เกิดและการดับในปวัตติกาลว่า ก็ในขันธยมกนี้ แม้ทั้งสิ้น เมื่อสัตว์ ทั้งหลายเกิดขึ้นแล้วในปัญจโวการภพนั้นๆ เมื่อการเกิดขึ้นและการดับ อันไม่มีที่สุดแห่งขันธ์ ๕ แม้มีอยู่ในปวัตติกาลจนกระทั่งตาย การทำ การแยกธรรมทั้งหลายที่เป็นไปโดยเร็ว เพื่อแสดงการเกิดและการดับ ไม่ใช่ทำได้โดยง่าย ดังนี้แล้วจึงทรงแสดงการเกิดขึ้นแห่งขันธ์ทั้งหลาย ในปฏิสนธิของสัตว์ผู้เกิดแล้วด้วยกรรมต่างๆ อันยังวิปากวัฏฏ์ใหม่ๆ ให้สำเร็จ เป็นการทำได้ง่าย พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสนิโรธวาระด้วย อำนาจการดับในมรณะกาลว่า " ก็การแสดงการดับ ในกาลเป็นที่สิ้น สุดลงแห่งวิปากวัฏฏ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นการทำได้ง่าย" ก็ความไม่ลูบคลำ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 283
การเกิดและการดับในปวัตติกาลนี้เป็นประมาณอย่างไรนั่นเหละคือ พระบาลี
อนึ่ง พระบาลีว่า ปจฺฉิมภวิกานํ เตสํ รูปกฺขนฺโธ จ นุปฺปชฺชติ เวทนากฺขนฺโธ จ นุปฺปชฺชิสฺสติ=รูปขันธ์ก็ย่อมไม่ เกิด เวทนาขันธ์ก็จักไม่ดับแก่ปัจฉิมภวิกบุคคลเหล่านั้น นี้ เป็น ประมาณยิ่ง ในวาระแห่งอนาคตกาลแห่งอุปปาทะวาระโดยพิเศษใน พระบาลี เมื่อภาวะที่สมควรเพื่อการเกิดขึ้นแห่งรูปธรรมมและอรูปธรรม ทั้งหลายในปวัตติกาลของปัจฉิมภวิกบุคคลแม้มีอยู่ การเกิดขึ้นนในปวัตติ- กาลพึงทราบว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงถือเอาโดยภาวะที่กล่าวแล้ว จึง ทรงกระทำการสันนิษฐานว่า รูปกฺขนฺโธ จ นุปฺปชฺชชชิสฺสติ เวทนากฺ ขนฺโธ จ นุปฺปชฺชิสฺสติ=รูปขันธ์ก็จักไม่เกิด เวทนาขันธ์ก็ จักไม่ดับ พระบาลีนี้ว่า สุทฺธาวาสปรินิพฺพนฺตานํ=กำลังปรินิพพานนสุทธวาส ดังนี้ เป็นประมาณยิ่ง ในการไม่แตะต้องซึ่งความ ดับในปวัตติกาล ก็คลองแห่งการนับซึ่งสัญญาขันธ์ทั้งหลายที่ดับไปแล้ว เพราะเกิดขึ้นแล้วในปวัตติกาล จำเดิมแต่ปฏิสนธิกาล ที่ตั้งอยู่ในภังคขณะ จุติจิตของปรินิพพันตบุคคลในสุทธาวาส ย่อมไม่มี ครั้นเมื่อ เป็นอย่างนั้น พึงทราบว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงถือเอาความดับใน ปวัตติกาลโดยภาวะที่กล่าวแล้ว จึงทรงกระทำการสันนิษฐานว่า เตสํ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 284
ตตฺถ สญฺากฺขนฺโธ น นิรุชฺฌิตฺถ=สัญญาขันธ์ไม่ดับแล้ว (คือ ไม่เคยดับ) แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
บัณฑิตครั้นทราบลักษณะที่แน่นอนในการเกิดขึ้นและดับไปนี้ แล้ว ควรถือเอาการเกิดขึ้นด้วยปฏิสนธิกาล และการดับด้วยจุติกาล เท่านั้น แล้วพึงทราบการวินิจฉัยเนื้อความแห่งการวิสัชนาทั้งหลายที่มา แล้วในฐานะทั้งหลายเหล่านั้นๆ ด้วยประการฉะนี้ แต่ว่าการวินิจฉัย เนื้อความนั้นท่านไม่ทำให้พิสดารแล้วโดยลำดับแห่งการวิสัชนาว่า การ วินิจฉัยเนื้อความนั้นใครๆ ก็อาจทราบได้โดยนัยที่กล่าวไว้แล้วในการ วิสัชนาแรก หากว่าบุคคลใดไม่สามารถจะทราบการวินิจฉัยเนื้อความ เหล่านั้น บุคคลนั้นพึงเข้าไปนั่งใกล้อาจารย์ ฟังด้วยดีแล้วพึงทราบ ตามนัยที่อาจารย์ให้แล้วนี้ อย่างนี้.
ยมกทั้งหลายเหล่าใดในขันธ์ ๕ ย่อมมี ด้วยอำนาจแห่งอุปาทวาระ, นิโรธวาระ และ อุปาทะและนิโรธะทั้งสองรวมกัน ด้วยอำนาจของ อนุโลมนัยและปฏิโลมนัย พระชินเจ้าตรัสแล้วซึ่ง ยมกะทั้งหลายเหล่านั้นในวาระทั้งหลายในปวัตติ- กาล เพราะทรงแสดงแล้วซึ่งบุคคลวาระ, โอกาสวาระ, และปุคคโลกาสวาระ การกำหนดพระบาลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 285
เหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้วโดย ลำดับ แม้การประกอบเนื้อความเพื่อการวินิจฉัย ปัญหาและวิสัชนา พร้อมทั้งฐานะทั้งหลายแห่ง การวิสัชนาอย่างใดอย่างหนึ่งโดยประการทั้งปวง พระชินเจ้าทรงแสดงแล้ว ทรงประกาศแล้วใน ปัญหาหนึ่งๆ ลำดับการวิสัชนาปัญหาในปวัตติ- มหาวาระนี้เป็นไปแล้วโดยพิสดาร เพราะฉะนั้น บัณฑิตทั้งหลายจงทราบเนื้อความโดยนัยนี้ว่า เบื้องหน้าแต่นี้ไปใครหนอจะสามารถพรรณนาเนื้อ ความนี้ได้.
อรรถกถาปวัตติวาระ จบ