สังขารยมกที่ ๖ - ปวัตติวาระ
[เล่มที่ 82] พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑
พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๕
ยมก ภาคที่ ๑ ตอนที่ ๑
สังขารยมกที่ ๖
ปวัตติวาระ
ปัจจุปปันนาตีตวาระ ปัจจนิก 1122
ปัจจุปปันนานาคตวาระอนุโลม 1128
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก 1135
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 82]
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1079
ปวัตติวาระ
อุปปาทวาระ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๓๖] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นวิตกและวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะ แห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี กายสังขารกำลังเกิด และวจีสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นลมอัสสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและ วิจาร วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลัง
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1080
เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่กำลังเช่าปฐมฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะ แห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารกำลังเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๓๗] กาย สังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ จิตตสังขาร กำลังเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1081
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๓๘] วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นวิตกและวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขาร กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารกำลังเกิด และ วจีสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1082
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๓๙] กายสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, วจีสังขารก็กำลัง เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในทุติยฌาน ในตติยฌาน กายสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น แต่ วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในปฐมฌาน ในกามาวจรภูมิ กายสังขารกำลังเกิด และวจีสังขารก็กำลังเกิดในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, กายสังขารก็กำลังเกิด ในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิ วจีสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในปฐมฌาน ในกามาวจรภูมิ วจีสังขารกำลังเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๔๐] กายสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, จิตตสังขารก็กำลัง เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1083
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, กายสังขารก็กำลังเกิด ในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในจตุตถฌาน ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิ จิตตสังขาร กำลังเกิดในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในปฐมฌาน ในทุติยฌาน ในตติยฌาน ในกามาวจรภูมิ จิตตสังขารกำลัง เกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดขึ้นภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๔๑] วจีสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, จิตตสังขารก็กำลังเกิด ในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, วจีสังขารก็กำลังเกิด ในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1084
ในทุติยฌาน ในตติยฌาน ในจตุตถฌาน จิตตสังขารกำลัง เกิดในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในปฐมฌาน ในกามาวจรภูมิ ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิ จิตตสังขารกำลังเกิด และวจีสังขารก็กำลังเกิดในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๔๒] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, ฯลฯ ปุคคลวาระก็ดี ปุคคโลกาสวาระก็ดี เป็นเช่นเดียวกัน.
กายสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1085
ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๔๓] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและ วิจาร กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารกำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งอวิตักกอวิจารจิต ก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นวิตกและวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารกำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1086
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งอวิตักกอวิจารจิต ก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๔๔] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตสังขารกำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1087
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๔๕] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เว้นวิตกและวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต วจีสังขาร ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารกำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1088
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูล วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๔๖] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิ กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด ในภูมินั้น แต่วจีสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น, ในจตุตถฌาน ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในทุติยฌาน ในตติยฌาน วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น, ในจตุตถฌาน ในอสัญญสัตตภูมิ วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1089
กายสังขารมูล จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๔๗] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในจตุตถฌาน ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิ กายสังขาร ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น แต่จิตตสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น, ในอสัญญสัตตภูมิ กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๔๘] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในทุติยฌาน ในตติยฌาน ในจตุตถฌาน วจีสังขารไม่ใช่ กำลังเกิดในภูมินั้น แต่จิตตสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น, ในอสัญญ-
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1090
สัตตภูมิ วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๔๙] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและ วิจาร กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจี-
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1091
สังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของ บุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งอวิตักกอวิจารจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, ฯลฯ
ปุคคลวาระก็ดี ปุคคโลกาสวาระก็ดี ก็พึงให้พิสดารเช่นเดียวกัน คำว่า นิโรธสมาปนฺนานํ - บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ ย่อม ไม่ได้ในปุคคโลกาสวาระ.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1092
อตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๕๐] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, ฯลฯ
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็เคยเกิดแก่บุคคล นั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, ฯลฯ ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1093
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, ฯลฯ
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๕๑] กายสังขารเคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
แม้โอกาสวาระ ในภูมิใด เป็นเช่นเดียวกันทุกวาระ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1094
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๕๒] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌานก็ดี เข้าตติยฌานก็ดี กายสังขาร เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน กามาวจรภูมิก็ดี กายสังขารเคยเกิด และวจีสังขารก็เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี ในอรูปาวจรภูมิก็ดี วจีสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่ เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารเคยเกิด และกายสังขารก็เคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1095
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๕๓] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี บุคคล ซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารเคยเกิด และกายสังขารก็เคย เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขาร มูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๕๔] วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1096
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี เมื่อ ทุติยจิตเกิดขึ้นแก่บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี จิตตสังขารเคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ใน กามาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่นอกจากนั้นเกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ก็ดี จิตตสังขารเคยเกิด และวจีสังขารก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อตีตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1097
อตีตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๕๕] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด จิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1098
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๕๖] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1099
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๕๗] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌาน อยู่ก็ดี เมื่อทุติยจิตเกิดขึ้นแก่บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่ เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิด และวจีสังขาร ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน เข้าตติยฌาน วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี เมื่อทุติยจิตเกิดขึ้นแก่ บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1100
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๕๘] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเกิดขึ้นสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๕๙] วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1101
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี เมื่อ ทุติยจิตเกิดขึ้นแก่บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาสภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิด อยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
อตีตวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1102
อนาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๖๐] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็จักเกิดแก่ บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคล เหล่านั้นกำลังตายก็ดี วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น วจีสังขารจักเกิด และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1103
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๖๑] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคล เหล่านั้นกำลังตายก็ดี จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น จิตตสังขารจักเกิด และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๖๒] วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1104
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใด จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น จิตตสังขารจักเกิด และ วจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๖๓] กายสังขารจักเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1105
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๖๔] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ กายสังขารจักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี กายสังขาร จักเกิด และวจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารจักเกิด แก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิต ใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ในรูปาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่นอกจากนั้นที่เกิดอยู่ใน กามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิด และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1106
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูล :-
[๑๐๖๕] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ- นั้น, บุคคลที่เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่นอก จากนั้นเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารจักเกิด และกายสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1107
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๖๖] วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุตติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่เข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ ในกามาวจรภูมิก็ดี บุคคลนอกจากนั้นที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารจักเกิด และวจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1108
อนาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๖๗] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็ ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามารวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ ในอรูปวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังตายก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วย ปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดใน ลำดับแห่งจิตใดก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ใช่ จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม? ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1109
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๖๘] กายสังขารไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังตายก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วย ปรินิพพานจิต กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ใช่ จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบกายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1110
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๖๙] วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใด วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิต วจีสังขารไม่ใช่ จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่ จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1111
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๗๐] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๗๑] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารที่ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิต ของบุคคลทีไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1112
กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มี วิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๗๒] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่เข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1113
บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๗๓] วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุตติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1114
วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
อนาคตวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1115
ปัจจุปปันนาตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๗๔] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็เคย เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารเคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน อุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ วจีสังขารเคยเกิด และกายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1116
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๗๕] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตสังขารก็เคย เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะ ปัสสาสะ จิตตสังขารเคยเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่า นั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1117
วจีสังขารมูละ
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๗๖] วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็เคย เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะ แห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารเคยเกิด และวจีสังขารก็กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1118
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๗๗] กายสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๗๘] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะ แห่งลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคล
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1119
ที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของ บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี กายสังขารกำลังเกิด และวจีสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในเอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน รูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารเคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะ แห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลซึ่งเกิดยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขาร เคยเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๗๙] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1120
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ จิตตสังขารเคยเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๘๐] วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1121
ก็หรือว่า จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารเคยเกิด และวจีสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปัจจุปปันนาตีตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1122
ปัจจุปปันนาตีตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๘๑] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เคยเกิด.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๘๒] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1123
เคยเกิด.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๘๓] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เคยเกิด.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดบุคคลใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1124
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๘๔] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๘๕] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1125
รูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ใน ภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้น ลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลัง เข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี เมื่อทุติยจิตเกิดขึ้นแก่บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง ลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลัง เข้าทุติยฌาน ตติตฌานอยู่ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ ของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ใน อุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี เมื่อทุติยจิต เกิดขึ้นแก่บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1126
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๘๖] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเกิด,ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1127
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๘๗] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอลัญญสัตตภูมิ ก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่เคยเกิดบุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปัจจุปปันนาตีตวาระ ปัจจนิก จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1128
ปัจจุปปันนานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๘๘] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน อุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ วจีสังขารจักเกิด และกายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1129
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๘๙] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จัก เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารจักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน อุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ จิตตสังขารจักเกิด และกายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๙๐] วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1130
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและวิจาร วจีสังขารกำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจารของบุคคลที่นอกจากนั้น วจีสังขาร กำลังเกิด และจิตตสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารจักเกิด และวจีสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1131
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๙๑] กายสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๙๒] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง ลมอัสสาสะปัสสาสะ กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้า
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1132
ปฐมฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลซึ่ง เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี กายสังขารกำลังเกิด และวจีสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน รูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๙๓] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1133
ใช่.
ก็หรือว่า จิตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ จิตตสังขารจักเกิด และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๙๔] วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและวิจาร วจีสังขารกำลัง เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1134
เหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจารของบุคคลที่นอก จากนั้น วจีสังขารกำลังเกิด และจิตตสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดบุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารจักเกิด และวจีสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1135
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๙๕] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น บุคคลที่ถึง พร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร เกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขารก็ ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1136
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๙๖] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่ถึง พร้อมด้วยปรินิพพานจิต กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๐๙๗] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1137
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่ง ปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่ มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดบุคคลใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมที่มีวิตกและมีวิจาร จิตตสังขารไม่ใช่ จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วย ปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด และ วจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1138
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๐๙๘] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๐๙๙] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิด อยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคล
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1139
เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิตของ บุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ ของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ใน ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่ เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง ลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึง พร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และกายสังขารก็ไม่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1140
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๐๐] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่ จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1141
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๐๑] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อม ด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจาร จิตตสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1142
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี บุคคลที่ เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด และวจีสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1143
อตีตานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๐๒] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่ มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กายสังขารเคยเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่ นอกจากนั้น กายสังขารเคยเกิด และวจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่า นั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1144
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๐๓] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิต กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่เหลือ นอกนั้น กายสังขารเคยเกิด และจิตสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๐๔] วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1145
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิต วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอก จากนั้น วจีสังขารเคยเกิด และจิตตสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๑๐๕] กายสังขารเคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1146
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๐๖] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในกามาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคล ที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิที่นอกจากนั้น ก็ดี กายสังขารเคยเกิด และวจีสังขารก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิ ก็ดี วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิด และกายสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1147
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๐๗] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในกามาวจรภูมิ กายสังขาร เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน อยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิที่นอกจากนั้นก็ดี กายสังขาร เคยเกิด และจิตตสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ก็ดี ในอรูปาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลัง เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจร ภูมิ จิตตสังขารจักเกิด กายสังขารก็เคยเกิดแก่บุคคลบุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1148
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๐๘] วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในภูมิที่มีวิตกและมีวิจาร วจีสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่นอกจากนั้นในภูมิที่มีวิตกและมี วิจาร วจีสังขารเคยเกิด และจิตตสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภูมิที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภูมิที่มีวิตกและมีวิจาร จิตตสังขารจักเกิด และวจีสังขารก็เคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
อตีตานาคตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1149
อตีตานาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๐๙] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เคยเกิด.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๑๐] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1150
ไม่มี.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เคยเกิด.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๑๑] วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม้ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่มี.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่ เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
เคยเกิด.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1151
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๑๑๒] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๑๓] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิด แก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิ ก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขาร จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตก และมีวิจารในรูปาวจรภูมิ และอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วย ปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1152
วิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคย เกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในกามาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารในรูปาวจรภูมิ และอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิต ใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1153
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๑๔] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในรูปาวจร ภูมิ และอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึง พร้อมด้วยปรินิพพานจิตในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่ เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิด และจิตตสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในกามาวจรภูมิ จิตตสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในรูปาวจรภูมิ ในอรูปวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขาร ไม่ใช่จักเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1154
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๑๕] วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภูมิที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในภูมิที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในภูมิที่มีวิตกและมีวิจาร จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารเคยเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในภูมิที่ ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตต-