สังขารยมกที่ ๖ - อุปปาทนิโรธวาระ
[เล่มที่ 82] พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑
พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๕
ยมก ภาคที่ ๑ ตอนที่ ๑
สังขารยมกที่ ๖
อุปปาทนิโรธวาระ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
โอกาสวาระ
ปุคคโลกาสวาระ
ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
โอกาสวาระ
ปุคคโลกาสวาระ
อตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
อนาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
โอกาสวาระ
ปุคคโลกาสวาระ
อนาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
โอกาสวาระ
ปุคคโลกาสวาระ
ปัจจุปปันนาตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
โอกาสวาระ
ปุคคโลกาสวาระ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
โอกาสวาระ
ปุคคโลกาสวาระ
อตีตานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล 1218/1256
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 82]
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1221
อุปปาทนิโรธวาระ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๘๒] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็กำลัง ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารกำลังดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูละ :-
กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็กำลังดับแก่บุคคล นั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1222
ก็หรือว่า จิตตสังขารกำลังดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลัง เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็กำลังดับแก่บุคคล นั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารกำลังดับแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ไม่ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1223
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี:-
กายสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, วจีสังขารก็กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในทุติยฌานก็ดี ในตติยฌานก็ดี กายสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ฯลฯ คำว่า โอกาสะ นอกจากนี้ เป็นเช่นเดียวกัน.
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด ฯลฯ
แม้ในปุคคโลกาสวาระก็มีการจำแนกเช่นเดียวกันกับปุคคลวาระ.
กายสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1224
ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๘๓] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งวิตกและวิจาร กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เว้นลม อัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในภังคขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าไม่ใช่กำลังเกิด อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ วจีสังขารไม่ใช่กำลัง ดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, เว้น ลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในภังคขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1225
อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับ และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๘๔] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด กายสังขารไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาส จิตตสังขารไม่ใช่กำลัง ดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, เว้นลม อัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้า
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1226
นิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขาร ไม่ใช่กำลังดับ และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๘๕] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด วจีสังขารไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เว้นวิตกและวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้า นิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขาร ไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1227
ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่ บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, เว้นวิตก และวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารไม่ใช่ กำลังดับ และวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๑๘๖] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1228
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๑๘๗] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, ฯลฯ
แม้ในปุคคโลกาสวาระ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับปุคคลวาระ คำว่า นิโรธสมาปนฺนานํ - บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ ย่อมไม่ได้ใน ปุคคโลกาสวาระ.
กายสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1229
อตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๘๘] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็เคยดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ปุจฉาที่เป็นอดีต แม้ในอุปปาทวาระก็ดี แม้ในนิโรธวาระก็ดี แม้ในอุปปาทนิโรธวาระก็ดี พึงจำแนกให้พิสดารเช่นเดียวกัน.
อตีตวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1230
อนาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๘๘] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคล เหล่านั้นกำลังตายก็ดี วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น วจีสังขารจักดับ และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1231
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๙๐] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคล เหล่านั้นกำลังตายก็ดี จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น จิตตสังขารจักดับ และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๑๙๑] วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1232
ใช่.
ก็หรือว่า จิตสังขารจักดับแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มี วิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น จิตตสังขารจักดับ และวจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๑๙๒] กายสังขารจักเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1233
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี:-
[๑๑๙๓] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ กายสังขารจักเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี กายสังขารจักเกิด และวจีสังขารก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจร ภูมิก็ดี วจีสังขารจักดับแกบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌาน อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิที่นอกจากนั้นก็ดี วจีสังขาร จักดับ และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1234
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี:-
[๑๑๙๔] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือ จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารจักดับแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ- นั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่ เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิที่นอกจากนั้นก็ดี จิตตสังขารจักดับ และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1235
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี:-
[๑๑๙๕] วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มี วิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่ วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลที่กำลังเข้า ปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่นอกจากนั้น ซึ่งเกิดยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิก็ดี จิตตสังขารจักดับ และ วจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
อนาคตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1236
อนาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๑๙๖] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคล เหล่านั้นกำลังตายก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่ วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตก และมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มี วิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคล เหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด ฯลฯ
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1237
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี:-
[๑๑๙๗] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคล เหล่าใดจักเกิดในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ แล้วจักปรินิพพาน บุคคล เหล่านั้นกำลังตายก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่ จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด ฯลฯ
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี:-
[๑๑๙๘] วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1238
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี วจีสังขาร ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด ฯลฯ
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๑๙๙] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1239
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๒๐๐] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง จิตใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักดับเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่ วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตก และไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับ แห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับ แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ วจีสังขารไม่ใช่จักดับ แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1240
ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มี วิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักดับ และกายสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๐๑] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิต ใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1241
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด ฯลฯ
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๐๒] วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจ- ฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่ กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี วจีสังขารไม่ใช่ จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด ฯลฯ
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
อนาคตวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1242
ปัจจุปปันนาตีตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๒๐๓] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็เคยดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารเคยดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในปุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารเคยดับ แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน อุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ วจีสังขารเคยดับ และกายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ฯลฯ
ในอุปปาทวาระ ปัจจุปปันนาตีตปุจฉา อนุโลมก็ดี ปัจจนิก ก็ดี ท่านจำแนกไว้แล้วโดยประการใด, แม้ในอุปปาทนิโรธวาระ ปัจจุปปันนาตีตปุจฉา อนุโลมก็ดี ปัจจนิกก็ดี ก็พึงจำแนกโดยประการ นั้น.
ปัจจุปปันนาตีตวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1243
ปัจจุปปันนานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๒๐๔] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารจักดับ แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน อุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ วจีสังขารจักดับ และกายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1244
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๐๕] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารจักดับ แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ จิตตสังขารจักดับ และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๐๖] วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1245
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารจักดับแก่บุคคล เหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารจักดับ และวจีสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๒๐๗] กายสังขารกำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1246
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๒๐๘] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะ แห่งลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ กำลังเข้าปฐมฌานซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งลม อัสสาสะปัสสาสะก็ดี กายสังขารกำลังเกิด และวจีสังขารก็จักดับแก่ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ใน อุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิด อยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1247
กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้า ปฐมฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลที่ เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักดับ และกายสังขารก็กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๐๕] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขารจักดับแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ จิตตสังขารจักดับ และกายสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1248
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๑๐] วจีสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตตสังขารจักดับแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและวิจาร จิตตสังขารจักดับ และ วจีสังขารก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ อนุโลม จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1249
ปัจจุปปันนานาคตวาระ ปัจจนิก
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๒๑๑] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด วจีสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบิตอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปริ- นิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มี วิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และ วจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1250
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๑๒] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดัแก่บุคคลใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๑๓] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1251
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขาร ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯลฯ
[๑๒๑๔] กายสังขารไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, ฯลฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1252
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสงขารมูลี :-
[๑๒๑๕] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี เว้นลมอัสสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ใน อุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิด อยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น แต่วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะ แห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิต ที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิด ในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะของ บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้า จตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่ กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1253
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะ แห่งลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะของ บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลัง เข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขาร ไม่ใช่จักดับ และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๑๖] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1254
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคล เหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี:-
[๑๒๑๗] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิต วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1255
เหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปัจจุปปันนานาคตวาระ จบ
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1256
อตีตานาคตวาระ อนุโลม
ปุคคลวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[๑๒๑๘] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึง พร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มี วิตกและไม่มีวิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กายสังขารเคยเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล ที่นอกจากนั้น กายสังขารเคยเกิด และวจีสังขารก็จักดับแก่บุคคล เหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็เคยเกิดแก่ บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 1257
กายสังขารมูล จิตตสังขารมูลี :-
[๑๒๑๙] กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็จักดับ แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น กายสังขารเคยเกิด และจิตตสังขารก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็เคยเกิด แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม?
ใช่ ฯลฯ
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี กายสังขารมูล จบ
ในนิโรธวาระ อตีตนาคตปุจฉา อนุโลมก็ดี ปัจจนิกก็ดี ท่านจำแนกไว้แล้ว โดยประการใด, แม้ในอุปปาทนิโรธวาระ อตีตานาคตปุจฉา อนุโลมก็ดี ปัจจนิก็ดี ท่านผู้ฉลาดก็พึงจำแนกโดย ประการนั้น, อุปปาทนิโรธวาระ ก็เป็นเช่นกับในนิโรธวาระ, เหตุที่ จะทำให้ต่างกันนั้นไม่มี.
อุปปาทนิโรธวาระ จบ
ปวัตติวาระ จบ