เจ้าสรกานิเป็นพระโสดาบันในเวลาจะสิ้นพระชนม์
ใน สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค สรกานิสูตร ที่ ๑ ที่ ๒ ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ พระนครกบิลพัสถ์ เจ้าศากยะพระนามว่าสรกานิสิ้นพระชนม์ พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ท่านว่าเป็นพระโสดาบัน พวกเจ้าศากยะมากด้วยกันก็มาร่วมประชุมพร้อมกัน แล้วก็ยกโทษขึ้นติเตียนว่า น่าอัศจรรย์หนอท่านผู้เจริญ ไม่เคยมีมาแล้วหนอท่านผู้เจริญ บัดนี้ในที่นี้ใครเล่าจักไม่เป็นพระโสดาบัน เพราะเจ้าสรกานิศากยะสิ้นพระชนม์แล้ว พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ท่านว่าเป็นพระโสดาบัน เจ้าสรกานิศากยะถึงความเป็นผู้ทุรพลด้วยสิกขา เสวยน้ำจัณฑ์ พระเจ้ามหานามศากยะราชก็ได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค แล้ว กราบทูลให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสถึงคุณธรรมของพระอริยะและอินทรีย์ ๕ แล้วก็ได้ตรัสว่า ดูกร มหาบพิตร ถ้าแม้ต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ พึงรู้ทั่วถึงสุภาษิตทุภาษิตไซร้ พระผู้มีพระภาคจักพึงพยากรณ์ต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ว่าเป็นพระโสดาบัน จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า จะป่วยกล่าวไปใยถึงเจ้าสรกานิศากยะ เจ้าสรกานิสมาทานสิกขาในเวลาจะสิ้นพระชนม์ ถ้าไม่มีพระผู้มีพระภาค อย่าว่าแต่เจ้าศากยะทั้งหลายจะเข้าใจผิด เราในสมัยนี้จะเข้าใจผิดไหม แต่เจ้าสรกานิก็เสวยน้ำจัณฑ์ เป็นผู้มีสิกขาทุรพล แต่ว่าอินทรีย์ที่แก่กล้านั้นเจ้าสรกานิก็เป็นพระโสดาบันในเวลาจะสิ้นพระชนม์
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...