ความสงบกับปัญญา อะไรจะมีประโยชน์มากกว่ากัน
ถ. ความสงบกับปัญญาที่รู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏนั้น อะไรจะมีประโยชน์มากกว่ากัน
สุ. ถ้ามีความสงบแล้วสามารถระงับโลภะ โทสะ โมหะได้ชั่วคราว แต่ถ้ามีปัญญารู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริงแล้ว ละความเห็นผิด ความไม่รู้ ความสงสัยในสิ่งที่ปรากฏตลอดเวลาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทำให้หมดความยึดถือความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน
ถ. ชั่วคราว
สุ. ชั่วขณะที่สงบนั้นไม่มีอกุศล แต่อกุศลก็เป็นอนัตตาไม่มีใครบังคับบัญชาได้ ถ้าตราบใดที่ปัญญายังไม่รู้ที่ลักษณะของนามและรูป ยังไม่ได้หมดกิเลส เป็นสมุจเฉทตามลำดับแล้ว อกุศลก็ต้องเกิด อยากจะระงับกิเลสหรืออยากจะดับกิเลส ถ้าอยากจะดับกิเลสเป็นสมุจเฉทด้วยการเจริญปัญญารู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริง ก็ต้องเจริญสติ แต่ความสงสัยนี้มีมากก็เลยทำให้มีความจงใจ และก็ทำให้ลักษณะของธรรมไม่ปรากฏตามปกติ แต่ถ้าเจริญสติปัฏ-ฐานตามปกติและระลึกได้ คือ ไม่ว่าลักษณะใดทั้งสิ้นที่กำลังปรากฏ เช่น ความสงสัย ปัญญาก็จะต้องรู้ในลักษณะที่สงสัย เพราะเหตุว่าในขณะนั้นลักษณะที่สงสัยกำลังปรากฏ ไม่จงใจ ไม่มีการเตรียม ไม่มีการจัดไว้ก่อน แล้วแต่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นปรากฏ สติก็รู้ลักษณะนั้นตามความเป็นจริง การเจริญสติปัฏฐานอย่าหวังจะไปดูไปเห็นอะไร เพราะเหตุว่าถ้าเป็นความรู้แล้ว รู้ตามความเป็นจริง
ที่ท่านใช้ความว่า เห็น หมายความว่ารู้ตามความเป็นจริง นามเกิดนามดับเป็นของธรรมดา แต่ว่าปัญญาจะรู้ลักษณะของนามและรูปมากขึ้น ไม่ต้องจงใจที่จะไปดูนามดับ ไม่ต้องจงใจที่จะไปดูรูปดับ เพราะว่าการที่จะรู้ว่านามดับรูปดับ ไม่ใช่ด้วยการจงใจ ไม่ใช่ด้วยการจดจ้อง แต่ด้วยปัญญาที่รู้เพิ่มขึ้นแล้วละคลายมากขึ้น จึงจะประจักษ์สภาพที่เป็นปกติของนามและรูปที่เกิดดับอยู่ตลอดเวลา
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...