พระผู้มีพระภาคทรงปลงอายุสังขาร

 
สารธรรม
วันที่  12 ก.ย. 2565
หมายเลข  43813
อ่าน  361

ข้อความใน มหาปรินิพพานสูตร มีต่อไปว่า

พระผู้มีพระภาคประทับพักผ่อนที่ปาวาลเจดีย์ มารไปเฝ้ากราบทูลให้ปรินิพพาน พระผู้มีพระภาคทรงปลงอายุสังขาร ท่านพระอานนท์ไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคก็เสด็จไปยังกูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน แล้วรับสั่งให้ภิกษุทุกรูปในเมืองเวสาลีมาประชุมที่อุปัฏฐานศาลา ทรงแสดงโพธิปักขิยธรรม

ก่อนที่จะปรินิพพาน จะเห็นได้ว่าธรรมที่ทรงแสดงส่วนมากเป็นไปในเรื่องของการเจริญสติปัฏฐาน ต่อจากนั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จต่อไปยังบ้านภัณฑคาม ทรงแสดงธรรมอันได้แก่ ศีลอันเป็นอริยะ สมาธิอันเป็นอริยะ ปัญญาอันเป็นอริยะ ทรงกระทำธรรมีกถาเป็นอันมากในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา

ต่อจากนั้น เสด็จไปยังบ้านหัตถีคาม อัมพคาม ชัมพุคาม และโภคนคร ในโภคนครนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ อานันทเจดีย์ ทรงแสดงมหาปเทส ๔

ซึ่งมหาปเทส ๔ ก็ได้แก่ข้อความที่ตรัสเตือนให้พุทธบริษัทสอบสวนบทพยัญชนะในพระสูตรและเทียบเคียงในพระวินัย เพื่อความแจ่มแจ้งไม่คลาดเคลื่อนของธรรม

ต่อจากนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จต่อไปยังเมืองปาวา ประทับ ณ อัมพวันของนายจุณทกัมมารบุตร นายจุนทกัมมารบุตรไปเฝ้าฟังธรรม และกราบทูลนิมนต์ให้ทรงรับภัตตาหาร ซึ่งภัตตาหารนั้นก็ได้แก่ สูกรมัททวะ

ซึ่งมีข้อความอธิบายว่า เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่ปรุงด้วยเห็ดชนิดหนึ่ง ซึ่งเห็ดชนิดนั้นหมูชอบกิน

พระผู้มีพระภาคเสวยแล้ว เกิดอาพาธอย่างร้ายแรงใกล้จะปรินิพพาน ทรงอดกลั้นไม่พรั่นพรึง เสด็จต่อไปยังกุสินารา ระหว่างทาง เสด็จแวะจากหนทางเข้าไปยังโคนไม้เพื่อทรงพักผ่อน เพราะว่าขณะนั้นทรงกระหายน้ำ

ปุกกุสมัลลบุตร โอรสเจ้ามัลละเดินทางจากกุสินาราไปปาวา เห็นพระผู้มีพระภาคจึงได้เข้าไปเฝ้า และมีโอกาสได้ฟังธรรม ได้ถวายผ้าเนื้อละเอียด มีสีดังทองสิงคี ซึ่งพระผู้มีพระภาคก็ได้ให้ถวายท่านพระอานนท์ครองผืนหนึ่ง อีกผืนหนึ่งนั้นพระอานนท์ก็น้อมมาถวายพระผู้มีพระภาค

ในขณะที่ท่านพระอานนท์น้อมผ้าเนื้อละเอียดเข้ามาถวายพระผู้มีพระภาคนั้น พระฉวีวรรณของพระผู้มีพระภาคผุดผ่องมาก ทำให้ผ้าที่น้อมไปถวายนั้นปรากฏดังถ่านที่ปราศจากเปลว

ซึ่งการที่พระฉวีวรรณของพระผู้มีพระภาคจะผุดผ่องถึงเช่นนี้นั้น ย่อมเป็นไปในกาล ๒ คือ ในราตรีที่ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณครั้ง ๑ แล้วก็ในราตรีที่จะปรินิพพานในปัจฉิมยามระหว่างไม้สาระทั้งคู่

ต่อจากนั้น พระผู้มีพระภาคก็ได้เสด็จไปยังแม่น้ำกกุธานที ทรงสรง เสวยแล้วเสด็จขึ้น เสด็จไปยังอัมพวัน ทรงพักผ่อน พระผู้มีพระภาคเสด็จไปยังฝั่งโน้นแห่งแม่น้ำหิรัญวดี เมืองกุสินารา และสาลวัน อันเป็นที่แวะพักแห่งเจ้ามัลละ ตรัสให้ท่านพระอานนท์ตั้งเตียงหันศีรษะไปทางทิศอุดร ระหว่างไม้สาระทั้งคู่ ทรงสำเร็จสีหไสยา ซึ่งขณะนั้นดอกมณฑารพ จุณแห่งจันทร์อันเป็นทิพย์ ดนตรีทิพย์ ก็ได้ประโคมบูชา

พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมก่อนปรินิพพาน และแล้วลำดับนั้นพระผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด นี้เป็นพระปัจฉิมวาจาของพระตถาคต

ซึ่งข้อความนี้ย่อมาก จากมหาปรินิพพานสูตรซึ่งได้แสดงไว้อย่างละเอียดทีเดียวว่า มีผู้ใดได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคบ้าง และมีเหตุการณ์โดยละเอียดที่เกิดขึ้นก่อนที่จะปรินิพพาน


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา 57

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง ...

อัทธานปลิโพธ คือ การเดินทางไกล ไม่ขัดขวางการเจริญสติปัฏฐาน

เรื่องของปลิโพธ ความกังวล ความห่วงใย


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ