จิตมีราคะ ได้แก่ จิตอันไปกับโลภะ ๘ อย่าง
ใน ปปัญจสูทนีย์ ซึ่งเป็น อรรถกถามัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ สติปัฏ-ฐานสูตร มีข้อความว่า
จิตมีราคะ ได้แก่ จิตอันไปกับโลภะ ๘ อย่าง
หมายความถึงโลภมูลจิต ๘ ดวง สติสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของโลภมูลจิตได้ทั้ง ๘ ดวง โดยไม่จำเป็นต้องนึกถึงชื่อ เพราะมีลักษณะปรากฏให้รู้ความต่างกัน แต่ว่าใครจะรู้ลักษณะของโลภมูลจิต ๘ ดวงที่ต่างกันบ้าง
ใครรู้ความต่างกันของ โสมนัสสสหคตัง ทิฎฐิคตสัมปยุตตัง อสังขาริกัง กับ โสมนัสสสหคตัง ทิฏฐิคตสัมปยุตตัง สสังขาริกัง ผู้เจริญสติเท่านั้นที่สามารถรู้ได้ แต่ไม่ใช่มุ่งหมายว่า ผู้เจริญสติมีความจงใจว่า จะรู้อย่างนั้นอย่างนี้ แต่หมายความว่า เริ่มระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม เมื่อระลึกรู้ลักษณะของเวทนา ก็ชินกับการที่จะไม่ยึดถือความรู้สึกทุกข์บ้าง สุขบ้าง โสมนัส โทมนัส อุเบกขาว่าเป็นตัวตน เมื่อได้พิจารณารูปอื่นนามอื่นแล้วก็ทำให้รู้ว่า ยังมีอีกมากนักที่ยังไม่รู้ จิตที่มีความต้องการเกิดขึ้น สติก็จะเริ่มระลึกรู้ลักษณะของสราคจิต คือ จิตที่เป็นไปกับโลภะ แต่ไม่ใช่จงใจจะรู้จิตดวงนั้น หรือจิตดวงนี้ แล้วแต่ว่าสภาพธรรมใดปรากฏ
การยึดการติดในนามในรูปนี้เหนียวแน่นมาก ละคลายยาก เพราะฉะนั้น เวลาที่ระลึกแล้ว ยังอาจจะเกิดความต้องการรู้แทรกขึ้นมาก็ได้ ซึ่งผู้เจริญสติต้องเป็นผู้ที่สำเหนียกด้วยความละเอียดจริงๆ จึงจะละคลายได้ว่า เป็นแต่เพียงนามธรรมชนิดหนึ่งจนกว่าจะคลายได้จริงๆ สติจะระลึกเป็นไปในกายก็ได้ ในเวทนาก็ได้ ในจิตก็ได้ ในธรรมก็ได้
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...