เมื่อเห็นคนที่ไม่ชอบใจ เกิดความไม่ชอบใจขึ้น จะทำอย่างไร
ท่านผู้ฟังถามว่า เมื่อเห็นคนที่ไม่ชอบใจ เกิดความไม่ชอบใจขึ้น จะทำอย่างไร
อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อักขมสูตร เฉพาะข้อความตอนท้ายมีว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้อดทนต่อรูปอย่างไร คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เห็นรูปด้วยจักษุ ย่อมไม่กำหนัดในรูปที่ชวนให้กำหนัด สามารถตั้งจิตไว้ชอบ
สำหรับเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็โดยนัยเดียวกัน ทุกคนต้องอดทน เพราะเหตุว่าเป็นสิ่งที่เลือกไม่ได้ เมื่อเห็นแล้วให้เป็นผู้อดทน ไม่ได้มีข้อความบอกว่า พอเห็นแล้วไม่ให้รู้ว่าเป็นอะไร ไม่ได้บอกว่า พอได้ยินแล้วไม่ให้รู้ความหมาย
และการอดทนได้จริงๆ ต้องเป็นไปโดยลำดับขั้นด้วย เพราะเหตุไร นึกอดทนเอาเองได้ไหม พอเห็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจก็นึกอดทนเอาเองว่า อย่าโกรธ หรืออย่าโทมนัส อย่าขัดเคือง หรือเห็นสิ่งที่น่าพอใจก็เหมือนกัน จะห้ามไม่ให้เกิดความยินดีพอใจก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่าสภาพธรรมทั้งหลายนั้นเป็นอนัตตา อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น เมื่อยังมีเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดความยินดี ความยินดีก็เกิด เมื่อมีเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดความยินร้าย ความยินร้ายก็ต้องเกิด เพราะฉะนั้น การละหรือการเป็นผู้อดทนสามารถที่จะตั้งจิตไว้ชอบนั้น ก็โดยที่สติระลึกรู้ลักษณะสภาพของสิ่งที่เกิดปรากฏแล้วว่า แม้แต่ความไม่แช่มชื่น ความไม่ชอบใจ ความโทมนัส ความขัดเคืองนั้น ก็เป็นแต่เพียงนามธรรมชนิดหนึ่ง
เพราะฉะนั้น ผู้เจริญสติเป็นผู้ที่หวั่นไหวต่อรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์น้อยลง เพราะระลึกได้ รู้ว่าไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ไปบังคับด้วยความเป็นตัวตน นั่นเป็นความเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองสามารถบังคับสภาพธรรมได้ แต่ไม่ใช่ระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ถ้าระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นปกติเพราะมีเหตุปัจจัย และสติก็ระลึกรู้สภาพธรรมนั้นๆ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องประสบ
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...