มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา (ปญฺญาชีวี)
เทวดาทูลถามว่า คนมีชีวิตเป็นอยู่อย่างไร นักปราชญ์ทั้งหลาย กล่าวว่า มีชีวิตประเสริฐ
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสตอบว่า คนที่เป็นอยู่ด้วยปัญญา นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า มีชีวิตประเสริฐ
(พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค วิตตสูตร)
“บทว่า ปญฺญาชีวี ชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ [คนที่เป็นอยู่ด้วยปัญญา นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า มีชีวิตประเสริฐ] ความว่า บุคคลใด เป็นอยู่ด้วยปัญญา เป็นคฤหัสถ์ ย่อมดำรงอยู่ในศีล ๕ เริ่มตั้งสลากภัตร (ภัตรที่ถวายตามสลาก) เป็นต้น จึงชื่อว่า เป็นอยู่ด้วยปัญญา หรือว่า เป็นบรรพชิต เมื่อปัจจัยเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม ก็ย่อมพิจารณาสิ่งที่มีอยู่นี้แล้วจึงบริโภค ถือเอากรรมฐาน เริ่มตั้งวิปัสสนา ชื่อว่าเป็นอยู่ด้วยปัญญา เพราะสามารถบรรลุอริยผลได้ ด้วยเหตุนั้น นักปราชญ์ทั้งหลาย จึงกล่าวว่า บุคคลผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญานั้น มีชีวิตเป็นอยู่อันประเสริฐ ดังนี้แล”
(สารัตถปกาสินี อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค วิตตสูตร)
บัณฑิต ย่อมไม่ทำบาป เพราะเหตุแห่งตน
ย่อมไม่ทำบาป เพราะเหตุแห่งบุคคลอื่น
(พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท)
ศึกษาเพิ่มเติมจากคำบรรยายของ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๒๘๘